เกย์กะเทยทอมดี้ยังคงเป็นความประหลาดในสังคมอยู่ไหม
เราเป็นคนชอบเพศตรงข้ามนะ แต่มีญาติและเพื่อนที่เป็นบุคคลเพศหลากหลาย เราคิดว่าเรามีความเข้าใจในรสนิยมทางเพศและอัตลักษณ์ทางเพศ เหมือนสังคมไทยจะยอมรับความหลากหลายทางเพศ แต่ว่ามันยังไม่ใช่หรอก จริงๆแล้วมีการเลือกปฎิบัติต่อคนกลุ่มนี้ ที่ว่าประเทศไทยเป็นมิตรกับgayนั้นเป็นการโปรโมทการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศต่างหาก
เวลาพวกเขามีปัญหาอะไรเราก็ได้แต่รับฟังหรือให้คำปรึกษา เราก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากกว่านั้น ในแง่ของการยอมรับของสังคมดูมันก็ดีขึ้นมาก แต่บริบทรายละเอียดมันยังแย่เหมือนเดิม ดูคนไทยยังไม่มีความรู้ความเข้าในเรื่องความแตกต่างหลายทางเพศอยู่ดี
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ที่เราอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยและเป็นเหตุการณ์เรื่องราวที่ได้ยินได้ฟังมาโดยตรงจากผู้ประสบเหตุ ทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้เป็นเรื่องราวในอดีต
กะเทยแต่งหญิงคนหนึ่งไปร้านก๋วยเตี๋ยว ที่มีโต๊ะแบบนั่งรวม ชายหญิงถือก๋วยเตี๋ยวไปนั่งกิน กลุ่มคนในร้านก็มีกริยาปกติ แต่พอกะเทยคนนี้ถือก๋วยเตี๋ยวไปนั่งด้วย กลุ่มคนที่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวแตกฮือกันทั้งร้าน รีบลุกหนีกันหมด คนในร้านมาบอกเจ้าของร้านว่าเขากลัว(กะเทย)เชื้อโรค
วิทยาลัยแห่งหนึ่งมีการเข้าแถวตอนเช้าแยกชายหญิง และมีการสำรวจนักศึกษาโดยผอ.ลงมาดูเอง ก่อนหน้านี้ผอ.ก็เห็นนักศึกษามาก่อนแล้ว และพบว่ามีนักศึกษาที่เป็นทอมและเกย์(สาว)อยู่จำนวนหนึ่ง ผอ.ก็ขึ้นไปพูดที่โพเดี่ยมในลักษณะเหยียดเพศคือต่อต้านไม่ยอมรับสรุปได้ว่า ผมยอมรับแค่เพศชายเพศหญิง แต่ผู้หญิงกับผู้หญิงมันน่ารักดี ส่วนผู้ชายกับผู้ชายมันน่าเกลียด มันพะอืดพะอม นักศึกษาชายหญิงก็หันมามองกลุ่มนักศึกษาเกย์(สาว) นักศึกษาเกย์(สาว)ต่างรู้สึกหน้าชาและอับอายเป็นอย่างมาก แถมยังมีจดหมายเชิญผู้ปกครองของนักศึกษาที่เป็นกะเทยโดยอ้างว่าการเป็นกะเทยผิดกฎระเบียบ ซึ่งเป็นการสร้างความกดดันมากๆ
ร้านขายข้าวแกง มีการเปิดโทรทัศน์ให้ลูกค้าที่นั่งกินอาหารดู เฮียเจ้าของร้านนั่งคุมร้านเก็บตังค์ เจ้เจ้าของร้านเป็นคนขาย เจ้เห็นเด็กวัยรุ่นมานั่งกินอาหาร ก็เปิดช่องละครให้ดู เผอิญมีฉากกลุ่มตุ๊ดกำลังกรี๊ดกร๊าด เฮียโมโหลุกขึ้นตวาดเสียงดังให้ปิดทีวี พูดหยาบว่าไม่อยากดูพวกพิการพวกนี้ คนในร้านทั้งงงทั้งตกใจ
นักธุรกิจสามีภรรยาเป็นคนมีฐานะ อายุค่อนข้างเยอะ มีลูกชายอายุประมาณ30 ทั้งหมดต้องงานโชว์จัดแสดงสินค้าอะไรสักอย่าง ในงานมีการจ้างคาบาเร่ต์ที่มีกะเทยสวยเหมือนผู้หญิงมาโชว์ ภรรยาเมินหน้าหนีเบะปากบ่นไม่อยากดูพวกต่ำๆและลุกออกไป ส่วนลูกชายอยากดู พ่อจึงไปดูด้วย ระหว่างการแสดงพ่อเห็นลูกชายตะลึง จึงบอกลูกชายว่านั่นมันเป็นผู้ชายเหมือนกับเรา มันไม่ใช่ผู้หญิง ไม่รู้เหรอว่ามีไอจ้อน อย่าสับสนทางเพศไปชอบล่ะ แขกในงานที่นั่งข้างๆมีความรู้สึกว่านี่ลูกชายไม่ใช่เด็กๆแล้วน่ะ คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรคือพ่อเองต่างหาก
ญาติผู้ใหญ่กับหลานๆนั่งดูข่าวในทีวีกัน แล้วมีข่าวคู่รักเพศเดียวกันฆ่ากันตาย ญาติผู้ใหญ่ก็บอกว่าพวกขี้ฆ่ากัน ชายหญิงเขาไม่ฆ่ากันหรอก
ญาติผู้ใหญ่อ่านข่าวหนังสือ มีข่าวผู้ชายมาหลอกเกย์ไปฆ่าชิงทรัพย์ (คนตายพูดไม่ได้) โดยผู้ชายให้การว่าถูกเกย์ลวนลามเลยฆ่า ญาติผู้ใหญ่พูดกับหลานๆในทำนองสมควรตายแล้วและเห็นด้วยกับคนร้าย ถ้าเป็นผู้หญิงลวนลามหรือข่มขืนผู้ชายไม่ได้
ญาติผู้ใหญ่ได้รับการ์ดงานแต่งงานจากเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นงานแต่งระหว่างผู้ชายกับสาวประเภทสอง ญาติผู้ใหญ่คุยกับหลานๆว่า จะแต่งงานงานกันทำไม อยู่กันไม่ยืด เดี๋ยวก็เลิกกัน ไม่เหมือนชายหญิงรักเดียวใจเดียวอยู่กันจนแก่เฒ่า
บนรถเมล์โดยสารสาธารณะ ซึ่งมีคนแน่น มีผู้ชายอ้วนยืนโหนอยู่ มีน้องหัวโปกขึ้นมาโหนยืนข้าง เพราะไม่มีที่ว่างแล้ว ผู้ชายอ้วนตะโกนลั่น มึ_งอย่ามายืนข้างก_ู ออกไปให้ไกลๆ น้องหัวโปกรู้สึกกลัวมากๆ
ผู้(คลั่ง)รู้ศาสนาหรือความเชื่อว่าผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศเป็นพวกมีกรรม(อยู่ฝ่ายเดียว)เลยเกิดมาเป็นแบบนี้ ดูเหมือนจะเป็นการเป็นความชอบธรรมที่จะใช้โจมตีต่อต้านบุคคลที่มีเพศสภาพหลากหลาย
บางโรงเรียนจะกล้อนผมจากครูเพื่อประจานเด็กกะเทยโดยเฉพาะ และจะโดนจับจ้องโดยเพ่งเล็งโดยเฉพาะจนหัวเหว่งหัวโกร๋น บางโรงเรียนครูตบหน้าเด็กผู้ชายที่พูดค่ะ(เป็นคำสุภาพ)จนหน้าหัน บางโรงเรียนครูทำโทษเด็กนักเรียนชายให้วิ่งรอบสนามฟุตบอลจนเหนื่อยหอบเพราะมีท่าทางตุ้งติ้ง บางโรงเรียนเด็กผู้ชายไม่อยากโคงคำนับแต่เขาอยากถอนสายบัวก็ถูกครูถีบเข้าที่หน้าท้องจนจุก
บริษัทบางแห่งไม่ได้มีการปิดกั้นทางเพศ รับสมัครงานทุกเพศ ผู้บริหารตั้งการแค่คนดีมีฝืมือ แต่ผู้จัดการหรือหัวหน้าแผนกกลับเป็นคนเหยียดเพศหรือมีอคติทางเพศ
ถ้าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็จะรับเข้าทำงาน ถ้าเห็นว่าเป็นกะเทยหรือทอมก็จะกีดกันทันที เช่นมีกะเทยที่มีความสามารถเป็นที่ต้องการ เจ้าหน้าที่ที่สัมภาษณ์งานอยากรับเข้าทำงานแต่มีคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ที่ตำแหน่งสูงกว่าไม่ให้รับเป็นต้น
บางครอบครัวพ่อแม่อยากให้ลูกเป็นฆาตกรฆ่าคนตาย ติดยา ติดคุกติดตะราง ดีกว่ามีลูกเบี่ยงเบนทางเพศ
ญาติพี่น้องบางคนก็ต่อว่าและชาวบ้านก็นินทาว่าเลี้ยงลูกยังไงให้ผิดเพศ
คนหล่อคนสวยมันมีน้อยกว่าคนขี้เหร่อยู่แล้ว ฉะนั้นเพศหลากหลายที่รูปร่างหน้าตาไม่ดี มักจะเป็นจุดสังเกตได้ง่าย เลยถูกมองเป็นตัวตลก รู้สึกขบขัน หรือคาดหวังว่าเพศหลากหลายจะต้องเป็นคนตลก ทั้งที่ทั่วไปเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น
เมื่อมีเกย์ทอมดี้ตายจะถูกโยงว่าเป็นเอดส์ตาย ยิ่งเป็นกะเทยจะถูกครหาเป็นเอดส์ตาย ไม่คิดเป็นอย่างอื่น
มีวลีที่ว่า กะเทยตายกะเทยเผา คำนี้สะท้อนความจริงที่น่าเจ็บปวดไว้บางอย่าง
นี่เป็นการยกตัวอย่างประมาณนี้ อีกอย่างชอบพาดหัวข่าวที่เกี่ยวกับคนที่มีความหลากหลายว่า ฮือฮา
อยากทราบว่าคิดว่าสังคมไทยยอมรับเพราะมารยาทหรือเปล่า และคนไทยรู้สึกปกติไม่ได้ตะขิดตะขวงใจแน่ชัวร์ไหม