เรื่องเล่า "พวกเขาไปจับปลาบึงใกล้วัด คืนฝนตก"
...เมื่อช่วงปี 2518-2521 วัดป่าโพธิ์ชัย ห่างจากหมู่บ้านบ้านสามผงออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร พื้นที่หอไตร ตรงข้ามถนนหน้าวัด ยังเป็นป่าดิบ และมีบริเวรพื้นหอพระไตรปิฎก 3 ชั้น ยื่นเข้าไปเกาะกลางน้ำ มีคันดินกั้นน้ำล้อมรอบ
...เวิ้งกว้างเลยคันดินรอบหอไตรออกไป เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ เรียกว่า "หนองพงโพด" รอบบึงน้ำขนาดใหญ่นั้น โดยเฉพาะด้านที่ติดหอไตร มีต้นไม้และป่าชายน้ำประปราย ทำให้เป็นแหล่งอาหารของสัตว์น้ำ เช่น ปลา ทั้งตัวเล็ก ตัวใหญ่ ค่อนข้างชุม
...บ้านสามผง ในช่วงนั้น ระบบไฟฟ้าหลวงยังเข้าไม่ถึง ยังคงใช้ระบบโรงไฟฟ้าปั่นของหมู่บ้าน ซึ่งก็จะมีข้อจำกัดช่วงเวลาใช้งาน คือ โรงปั่นไฟฟ้าเริ่มปล่อยกระแสไฟฟ้าให้ลูกบ้านใช้ ประมาณช่วงเวลา 17.30 - 21.00 น. (ถ้าจำไม่ผิด)
...เย็นวันนั้น ของฤดูฝน มีฝนตกปรอยๆ ในช่วงหัวค่ำ ลุงแพง คาดการณ์ว่า ปลาน่าจะตื่นน้ำฝน ขึ้นมาหากิน แถบป่าชายน้ำ
จึงชวนเพื่อนบ้านอีกคน เตรียมตะเกียงแก๊ส (ตะเกียงใช้ถ่านหินเป็นพลังงาน) พอพบค่ำ เสื้อกันฝน หมวก ถูกสวมใส่อย่างทะมัดทะแมง ข้อง ฉมวก และสุ่ม ถูกสะพายขึ้นหลังและบ่า เดินฝ่าไปในความมืดพร้อมเพื่อนบ้าน มองเห็นหลังค่อยๆ หายจากแสงไฟบ้าน และเห็นแสงไฟตะเกียงสาดส่อง ไปข้างหน้า ซ้ายที ขวาที
...ลุงแพงและเพื่อน เริ่มงมจับปลา ด้วยสุ่มจับปลา จากฝั่งบึงใหญ่ท้ายหมู่บ้าน ซึ่งไกลออกไปประมาณสามร้อยกว่าเมตร
"ส่วบ.." เสียงลุงแพงสักสุ่มลงน้ำ ที่มีระดับความลึกไม่ถึงเข่า ปักสุ่มแน่น อีกมือถือตะเกียง อีกมือควานน้ำในสุ่มที่ปักไว้ หวังจะได้ปลาสักตัว
"ส่วบ" .. "ส่วบ" สักสุ่มไปเรื่อยๆ ได้ปลาบ้าง ไม่ได้บ้าง แล้วแต่จังหวะ
...ลุงแพงและเพื่อนสักสุ่มจับปลา โค้งตามป่าริมบึงไปเรื่อยๆ ไปทางหอไตร ที่อยู่ตรงข้ามหน้าวัดโพธิ์ชัย
เมื่อใกล้ถึงหอไตร ลุงแพงและเพื่อน แยกทางกัน เริ่มห่างออกไปคนละด้าน
ลุงแพง สักสุ่ม จับปลา ออกมาเรื่อยๆ ทางด้านทิศใต้ของหอไตร
"ส่วบ!.." เสียงลุงแพงปักสุ่ม
"ส่วบ!.." มีเสียงสักสุ่ม ดังตามหลังในจังหวะใกล้กัน
ลุงแพง ยังคงปักสุ่มไปเรื่อยๆ
ทุกครั้งที่ปักสุ่ม เสียงปักสุ่มก็จะตามหลังเช่นนั้นทุกครั้ง
"ส่วบ.." เสียงลุงแพงปักสุ่ม
"ส่วบ.." มีเสียงสักสุ่ม ดังตามหลัง
"สิงห์.. สิงห์" ลุงแพงเรียกเพื่อน ด้วยความสงสัยว่า เพื่อนคงตามหลังมา
"...." เงียบ ไม่มีเสียงตอบกลับใดๆ ในความมืด
"ส่วบ.."
ลุงแพงปักสุ่มอีกเป็นครั้งที่สาม
เสียง "ส่วบ.." ที่ดังตามหลังห่างออกไปไม่ไกลในความมืดก็ดังอีก
ลุงแพงเริ่มมั่นใจแล้วว่า เสียง "ส่วบ.." ที่ดังตามหลังนั้น คือเสียงอะไร จึงเก็บอุปกรณ์ แล้วเดินล่าถอยออกมาจากบริเวณหอไตร และรีบกลับบ้าน ซึ่งก็เป็นเวลาดึกแล้ว
............
** ถัดมาอีกวัน ลุงแพงจึงเล่าถึงเรื่องเมื่อคืนให้เพื่อนบ้านฟัง เพื่อนบ้านบอกว่า "บ่ได้ตามหลังลุงไปเด้อ ข่อยไปอีกทางด้าหนึ่งของหอไตรนู้นน.." **