ขยายมาตรการเยียวยาเป็น 29 จังหวัด 13 จังหวัดเดิม เยียวยา 2 เดือน
คณะรัฐมนตรี เห็นชอบขยายขอบเขตมาตรการเยียวยาลูกจ้างและนายจ้าง จากเดิม 13 จังหวัดได้แก่ : กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, นครปฐม, นราธิวาส, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, ปัตตานี, ยะลา, สงขลา
ให้เพิ่มอีก 16 จังหวัดใหม่ ได้แก่ : กาญจนบุรี, ตาก, นครนายก, นครราชสีมา, ประจวบคีรีขันธ์, ปราจีนบุรี, เพชรบูรณ์, ระยอง, ราชบุรี, ลพบุรี, สิงห์บุรี, สมุทรสงคราม, สระบุรี, สุพรรณบุรี, อ่างทอง, เพชรบุรี
สำหรับกลุ่ม 13 จังหวัดเดิม ได้รับการเยียวยา 2 เดือน (ก.ค.-ส.ค.) กลุ่ม 16 จังหวัดใหม่ ได้รับ 1 เดือน (ส.ค.)
ลูกจ้าง
- ม. 33 รับเงิน 50% ของรายได้ (สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท) รัฐจ่ายสมทบอีก 2,500 บาทต่อคน รวมเป็น 10,000 บาทต่อคน (ต่อเดือน)
- ม. 39 , 40 รับเงิน 5,000 บาทต่อคน (ต่อเดือน)
- อาชีพอิสระ (freelance) ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม. 40 รับเงิน 5,000
นายจ้าง
- นายจ้าง ม.33 รับเงิน 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน สูงสุดไม่เกิน 200 คน (ต่อเดือน)
- ผู้ประกอบการที่ไม่ได้เข้าประกันสังคม ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม.33 รับเงิน 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน สูงสุดไม่เกิน 200 คน (ต่อเดือน)
- ผู้ประกอบการที่ไม่มีลูกจ้าง และไม่ได้เข้าประกันสังคม ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม. 40 เพื่อรับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท (ต่อเดือน)
สำหรับผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” ที่ “ไม่มีลูกจ้าง” 1.ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 2.ร้าน OTOP 3.ร้านค้าทั่วไป 4.ร้านค้าบริการ 5.กิจการขนส่งสาธารณะ (ไม่รวมกิจการขนาดใหญ่) ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม. 40 เพื่อรับค่าช่วยเหลือ 5,000 บาท (ต่อเดือน)
ปล.13 จังหวัดเดิม ได้รับการเยียวยา 2 เดือน 16 จังหวัดใหม่ ได้รับเยียวยา 1 เดือน
อ้างอิงจาก: กวาง ไตรศุลี ไตรสรณกุล




















