มากันในพาร์ทสุดท้าย ที่ศักดิ์ศรีของชาติจีนเป็นเดิมพัน เพราะในยุคนั้น การดูแคลนจากคนต่างชาติ กับชาวเอเชีย บอกได้เลยว่าหนักมาก... ทุกวันนี้ ต่างชาติหลายคน "ย้ำว่าหลายคน แต่ไม่ได้หมายถึงทั้งประเทศ" ก็ยังมีการเหยียดอย่างหนัก หรือหลายคนมองว่า ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีการค้าประเวณีสูง (มันก็น่าจะจริง เพราะสาวไทย เจอฝรั่งมาจีบ ร้อยละ 80 เปอร์เซ็น เอาหมด ไม่หล่อไม่เป็นไร ขอรวยไว้ก่อน) ..นอกเรื่องมาเยอะ มารับชมกันต่อเลยครับ กับไอพีแมน หรือ ยิปมัน ภาค 2

เมื่อถึงวันงาน ก็ให้ลูกศิษย์สำนักหวงกวน ได้โชว์การรำมวยบนเวที โดยมีชาวจีนและต่างชาติมาดูกันเยอะ ไม่นาน ทวิสเตอร์ก็มาถึงแล้วถามว่านั้นมันละครใบ้เหรอ ทำไมต้องรำไปตะโกนไปด้วย ตำรวจฝรั่งบอกว่า มันคือการรำมวยจีน ที่เขาเชื่อกันว่า ถ้าออกเสียงตอนปล่อยหมัด มันจะเพิ่มพลังให้กับแรงหมัดด้วย ทวิตเตอร์สนใจเป็นอย่างมาก ก็เลยขอไปกระทืบพวกมันได้ไหม ก็เลยขึ้นเวทีไปทันที

เมื่อสำนักหงกวนรำมวยเสร็จ ก็เลยท้าให้ชกที่หน้าอกเขาแรงๆ ทีแรกก็ชกไปแต่รั้งหมัดไว้ แต่ทวิสบอกว่า มันไม่โดน ขอแรงๆ ก็เลยซัดซะเต็มหน้าอก แต่ทวิสเตอร์เกร็งหน้าอกรับไว้อย่างไม่สะท้าน เลยท้าว่า มีแรงแค่นี้เหรอ ? พูดจบก็เลยจะซัดกันทันที แต่ทวิตเตอร์แกร่งกว่าเยอะมาก เล่นเอาสำนักหงกวนล้มหงายไปกันแทบทุกคน "มวยจีนอ่อนแอมาก...นี่เหรอที่เรียกว่ากังฟู"

จากนั้นก็ชูมือประดุจว่าเขาเหนือกว่าทุกคนบนเวที จนทำให้บรรดาสำนักต่างๆ ไม่พอใจขึ้นไปลุมกินโต๊ะทวิสเตอร์ แต่ก็เข้าไม่ถึงตัวเพราะการ์ดมาห้ามไว้ แต่อาเหลิงก็ยังห้าวไม่เลิก ขึ้นไปด้านหลัง แต่สุดท้ายโดนต่อยเปรี้ยงเดียว หลับอย่างง่ายดาย จนทำให้อาจารย์หง กับอาจารย์ยิปต้องขึ้นไปห้าม และมีแค่ 2 คนนี้เท่านั้นที่ทำดาเมจใส่ทวิสเตอร์ได้

เมื่อห้ามศึกได้ ทวิสเตอร์ก็บอกว่าพวกมวยจีนอ่อนแอ อยากให้เขาขอโทษ บ้าไปแล้ว แบบนี้เขาก็ต้องขอโทษทุกวี่ทุกวัน เพราะเขาแกร่งมากเกินไปอย่างนั้นเหรอ ถ้าอยากให้เขาขอโทษ ใครก็ได้ในที่นี้ ล้มเขาให้ได้สิ.. อาจารย์หง ก็เลยรับคำท้า จะต่อยปากทวิสเตอร์เอง

การประลองก็เริ่มขึ้น โดยที่อาจารย์หงใช้กังฟู ส่วนทวิตเตอร์ใช้มวยสากล ทวิสเตอร์แม้จะเชิงมวยด้อยกว่า แต่สภาพความแข็งแกร่งของร่างกายนี่มันสายแท้งค์ดีๆ นี่เอง ทำอะไรแทบไม่รู้สึกเลย พอหมดยกแรก อาจารย์ยิปก็มาแนะนำให้จัดการลำตัว อย่าไปบวกหมัดกับมันเลย แต่อาจารย์หงก็บอกว่ายาก เพราะมวยสากล มันก็เน้นเรื่องการตั้งการ์ดเป็นหลักอยู่แล้ว

พอยก 2 เริ่มขึ้น อาจารย์หงเริ่มหาช่องเจาะลำตัว จนชกหน้าทวิสเตอร์เลือดออกได้ แต่พลาดท่าโดยต่อยซะล้มกลางเวทีทันที พอตั้งหลักได้ ก็จับทวิตเตอร์ทุ่มลงไปเพื่อยื้อเวลาด้วยเช่นกัน และเห็นได้ชัดว่า ตอนนี้อาจารย์หง เริ่มหายใจไม่ทัน ด้วยที่เป็นโรคประจำตัวด้วย พอหมดยก 2 ดูวี่แววแล้วชนะยากพอขึ้นยก 3 ไม่ทันไรก็โดนต่อยซะคว่ำ

อาจารย์ยิปก็กำลังจะโยนผ้าขาว แต่อาจารย์หงก็ห้ามไว้ เขาบอกว่า เขายอมไม่ได้ ถ้าโดนดูถูกเรื่องมวยจีน เพราะมันคือศักดิ์ศรีของชาวจีน ว่าแล้วก็ขึ้นไปชกต่ออีกรอบ แต่สภาพตอนนี้ย่ำแย่สุดๆ กลายเป็นกระสอบทรายที่ยังหายใจได้ก็ไม่ผิด โดนทวิตเตอร์อัดซะยับหลายหมัด ในที่สุด ก็ล้มลงไปกลางเวที และพบว่า อาจารย์หง เสียชีวิตในการประลองครั้งนี้

งานศพของอาจารย์หงเต็มไปด้วยความเศร้า ข่าวออกหลายสำนักพิมพ์ เกี่ยวกับการตายของอาจารย์หง ที่ต่อสู้จนตายคาเวที และมวยจีนนั้น เป็นมวยที่ไม่มีน้ำยาจริงหรือไม่ หรือโดนต่างชาติกลั่นแกล้ง เรื่องนี้รู้ไปถึง ผบ.ตำรวจต่างชาติ ก็เลยให้ไปจัดการเรื่องนี้อย่าให้เสียชื่อไปมากกว่านี้ ตำรวจเลยบุกโรงพิมพ์ และรวบตัวเจ้าของโรงพิมพ์เพื่อไปทำโทษทันที

การแถลงข่าวของทวิตเตอร์ได้เกิดขึ้น โดยบอกว่าการประลองนั้นได้เป็นข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย และเขาก็ไม่รู้ ว่ามวยจีนมันอ่อนแอขนาดนั้น แถมคนที่เขาสู้ เขาก็ไม่คิดว่าจะอ่อนแอด้วยเช่นกัน เลยรั้งหมัดไม่เป็นด้วย ทำให้อีกฝ่ายต้องตายเพราะพลังของเขา

ดังนั้นเพื่อเป็นการไถ่โทษ เขาขอรับคำท้า จากคนไหนก็ได้ โดยจะใช้กฏของกังฟู ที่ว่ากันว่า ชกกันจนกว่าธูปจะหมด แต่ผมสัญญา ว่าผมจะสู้อย่างสุดพลัง ผมจะอัดทุกคนที่ขึ้นมาท้าสู้กับผม และผมก็คิดว่า คงไม่มีใครหน้าไหนมาสู้กับผม

 

ต้องขอโทษที่ผมแกร่งเกินไปแต่อาจารย์ยิปก็ปรากฏตัวขึ้นมาทันทีโดยได้บอกว่าการต่อสู้โดยใช้ธูป มันไม่ใช่การจับเวลา แต่มันมีความหมายถึงความอ่อนน้อมและเคารพซึ่งกันและกัน เอาเป็นว่า ผมขอรับคำท้านี้เอง

การท้าทายในครั้งนี้ ทำให้เมียของอาจารย์ยิปที่กำลังท้อง ต้องย้ายไปพักอยู่กับเจ้าของหอพักชั่วคราว เนื่องจากว่าเวลาอาจารย์ยิปซ้อมกับหุ่นไม้ มักจะมีเสียงดัง ซึ่งอาจจะรบกวนลูกในท้องได้ อาจารย์ยิปเริ่มตั้งใจฝึกฝน กับการต่อสู้ ที่ไม่รู้ว่าจะชนะได้หรือไม่ทันที

จนถึงวันประลอง เป็นที่จับตามองของคนทั้งฮ่องกง เพราะทวิตเตอร์ พึ่งซัดอาจารย์หง เจ้าของสำนักหงกวนตาคาเวทีมาแล้ว แถมเป็นถึงแชมป์โลกมวยสากล คนไหนไม่ได้ไปดู ก็รอฟังจากวิทยุอย่างใจจดใจจ่อ พอทวิสเตอร์เข้ามาในสนาม พร้อมธงชาติอังกฤษ ทุกคนก็โห่ร้องต้อนรับ และแล้ว การต่อสู้ก็เริ่มขึ้นทันที

ซึ่งในยกแรก อาจารย์ยิปก็พยายามเปิดเกมส์รุกใส่ตลอด แต่ดันพลาดจนโดนหมัดล้มลงไปนอนก่อนในยกแรก อาจจะเพราะตื่นสนามและรีบร้อนมาไป พอลุกขึ้นมาตั้งสติได้ ก็เลยซัดหน้าทวิตเตอร์ด้วยฝ่าตีน จนทวิตเตอร์ลงไปนอนตาเหลือกหนักกว่าอาจารย์ยิปเช่นกันทวิตเตอร์ลุกขึ้นมาแบบงงๆ ว่ากูโดนอะไรวะเมื่อกี้ พอจะบวกกันอีก หมดยกซะก่อน

พอถึงยก 2 อาจารย์ยิปเริ่มจับทางได้ ก็อัดทุกกระบวนท่าเข้าใจ ส่วนทวิตเตอร์ในยกนี้ ทำได้แค่ตั้งรับ เพราะยังมึนตีนในยกแรกอยู่พอเสียงระฆังหมดยก 2 ทวิตเตอร์ก็แถมปลายนวมให้กับอาจารย์ยิปไป 1 หมัดตอนเผลอ เล่นเอาอาจารย์ยิปนอนหงายกันเลยทีเดียว

"ขี้โกง..ไอ้ขี้โกง..หมดยกแล้วยังชก" เสียงโห่ร้องของพวกชาวจีนตะโกนใส่ทวิตเตอร์ ที่ต่อยทีเผลอ จนทำให้คณะกรรมการประชุมกันไม่ใช่เรื่องที่ทวิตเตอร์ต่อยทีเผลอนะ แต่เป็นการประชุมให้มีการยกเลิกการใช้เท้าในการชกครั้งนี้ ถ้าใช้เท้าอีก ถือว่าแพ้ ทวิตเตอร์ก็ทำหน้าเหมือนสะใจกับกติกาใหม่

พอเริ่่มชกได้ไม่นาน อาจารย์ยิปก็โดนต่อยซะหงายไปอีกรอบ แต่ก็จำคำพูดของอาจารย์หงได้ว่าจะให้พวกมันหยามศักดิ์ศรีชาวจีน และศิลปะการต่อสู้กังฟูของจีนไม่ได้ เลยฮึดขึ้นสู้อีกครั้ง ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

ซึ่งแรกเริ่ม คิดว่าการจะสู้ ถ้าต่อยลำตัวทวิตเตอร์ได้ ก็น่าจะล้มได้ง่ายๆ แต่ส่วนใหญ่มักจะติดการ์ดของทวิตเตอร์ อาจารย์ยิปเลยมองว่าการที่จะชนะได้ ไม่ใช่การต่อยลำตัวที่มันป้องกัน แต่เป็นการจัดการแขน ที่มันคอยการ์ดมากกว่า ว่าแล้วการชกในครั้งนี้

อาจารย์ยิปเลยเล็งชกแต่ท่อนแขนด้านบน หรือเราเรียกกันว่าเจาะยางกันนั้นเอง เรียกว่าเจาะกันรัวๆ จนทำให้การ์ดของทวิตเตอร์ไม่สามารถตั้งแขนมาสู้ได้อีก และนั้นทำใก้การชกใบหน้าและลำตัวของทวิตเตอร์เป็นไปได้ง่าย จึงโดนประเคนหมัดแบนันสต๊อปใส่รัวๆ

ก่อนจะจับกดมานอนกลางเวที แล้วชกไปที่ใบหน้าเป็นท่าไม้ตายหลักของอาจารย์ยิปมัน จนทวิตเตอร์ นอนตาเหลือกแพ้ไปในที่สุด

ชัยชนะของอาจารย์ยิป สร้างความดีใจกับชาวจีนในฮ่องกงเป็นอย่างมาก ทั้งคนที่ดูในสนาม และคนที่ฟังวิทยุ โดยอาจารย์ยิปให้สัมภาษว่า เขาไม่ได้มองว่ามวยอะไรเก่งกว่า อย่าตัดสินกันที่ตรงนั้น ทุกคนเกิดมาเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราก็คือคนเหมือนกัน อยากให้เคารพความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน และอีกคำถามคือ หลังจากนี้...อาจารย์ยิปจะทำอะไรต่อ... คำสั้นๆ ที่ตอบคือ "กลับบ้าน" อาจารย์ยิปรีบกลับบ้านด้วยความเป็นห่วงเมียที่ท้อง เมื่อกลับไปจึงพบว่า เมียได้คลอดลูกแล้ว และเราจะได้เห็นรอยยิ้มของครอบครัวยิปอีกครั้ง

ในตอนท้าย หลายชายที่ทำงานโรงพิมพ์ ได้บอกว่าเขาได้มีเพื่อนใหม่ ที่สนใจมาเรียนกังฟู เลยพามาให้อาจารย์ยิปรู้จัก กลับพบเด็กชายอายุประมาณ 8-9 ขวบ เขาบอกว่าเขาอยากเรียนกังฟู ไว้ต่อสู้กับพวกที่รังแกผู้อื่น... เมื่อสอบถามว่าชื่ออะไรล่ะเรา.. เด็กคนนั้นบอกว่า"ผมชื่อบรู๊สลี" อาจารย์ยิปก็ยิ้มด้วยความห้าวของมัน และบอกว่าไว้โตกว่านี้ค่อยมาเรียนนะ... และหนังก็เป็นอันจบไป

ก็จบลงไปอีกภาคแล้วนะครับ กับยิมมันภาค 2 ที่ใช้ชื่อภาคว่า อาจารย์บรู๊ซลี ตั้งชื่อเรื่องซะดี แต่บรู๊ซลีกูยังเป็นละอ่อนอยู่เลยในท้ายเรื่องซึ่งยังไงเดี๋ยวผมจะทำภาค 3 และภาค 4 ต่อเลย และรู้สึกจะมีภาคแยก ภาคเสริม หรือภาคคู่ขนานอีกหลายเรื่องด้วยเช่นกัน ถ้าหากชอบแนวนี้ ผมจะทำมาให้ดู ฝากกดติดตามกันด้วยนะครับ สำหรับคลิปนี้คงต้องพอแค่นี้ก่อน ไว้พบเจอกันใหม่ในคลิปน้า สำหรับวันนี้..สวัสดีครับ