เสียงเล็กๆ จากผู้สูญเสีย(จะ)ดังก้องไปถึงผู้นำของประเทศไหม
ถึง พ่อ
การจากไปของพ่อจากโรค COVID-19 เป็นการจากไปอย่างกะทันหันมาก ตอนหกโมงวันเสาร์เรายังคุยกันอยู่ พ่อบอกตลอดว่าพ่อพร้อมสู้กับมัน แต่ตอนตีสองในวันถัดมา หมอโทรมาแจ้งว่า หัวใจ(ที่เข้มแข็ง)ของพ่อหยุดเต้น 15 นาทีแล้วจะให้ยุติการปั๊มหัวใจเลยหรือไม่ ในห้วงเวลาสั้น ๆ นั้นเหมือนหัวใจลูกแตกสลายไปด้วย ต้องดึงสติตัวเองตอบคุณหมอว่า ‘ช่วยปั๊มอีก 5 นาทีสุดท้ายให้สุดความสามารถ ถ้ายื้อไม่ได้ก็ปล่อยคุณพ่อได้เลย’ ไม่มีปาฏิหาริย์สุดท้าย เพราะปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับเราตั้งแต่ได้เป็นพ่อลูกกันแล้ว พ่อจากไปอย่างสงบในเวลา 02.40 น. ถึงตอนนี้พ่อกับแม่คงได้เจอกันแล้ว เราจากกันเพื่อพบกันใหม่นะ
พ่อเป็นที่รักของกัลยาณมิตรที่ได้ร่วมงานและร่วมชีวิต พอได้อ่านคอมเม้นต์จากทุกท่านแล้วทราบซึ้งใจแทนคุณพ่อจริง ๆ ตื้นตันในความรัก ความห่วงใย ความปรารถนาดีที่มีต่อคุณพ่อทั้งตอนมีชีวิตและตอนจากไปแล้ว ขอเป็นตัวแทนของครอบครัว กราบขอบพระคุณคุณหมอพยาบาล ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิทมิตรสหาย เพื่อนร่วมงาน กัลยาณมิตรทุกท่านที่คอยส่งกำลังใจ คอยช่วยเหลือในทุกด้านที่ทำให้ได้ ขอกราบขอบพระคุณจากใจ
และพ่อเป็นอีก 1 ความล้มเหลวของรัฐบาลนี้ ที่ไม่สามารถจัดสรรวัคซีนที่มีคุณภาพเพื่อประชาชนคนไทยได้ตั้งแต่การระบาดช่วงต้น ปล่อยปละละเลยประชาชนให้ดูแลตัวเอง แม้แต่การตรวจเชิงรุกก็ทำได้ช้า ต้องปล่อยให้พ่อรอคัดกรองถึง 4 วัน รอผลการตรวจอีก 2 วัน แถมถูกวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยสีเขียวทั้งที่แค่พูดก็เหนื่อยเต็มทน ถ้าหากไม่มีเพื่อนที่เป็นพยาบาลคอยตามผลให้ ไม่มีครอบครัวคอยประสานเตียงและสถานพยาบาลให้ พ่อก็จะไม่ถึงมือหมอเลย ด่านหน้าทำหน้าที่รักษาพยาบาลอย่างเต็มกำลังแล้ว
ขอให้รัฐบาลยอมรับความจริงว่าที่ทำอยู่มันล้มเหลว เสียสละลาออกแล้วให้คนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาแก้ไขแทนเถอะ อย่าเป็นฆาตกรไปมากกว่านี้เลย ขอให้ใครที่ยังรักรัฐบาลชุดนี้จงตื่น ทหารตำรวจผู้พิทักษ์สันติราษฏร์จงตื่น ตื่นมาเป็นอีกเสียงที่ช่วยผลักดันประเทศให้เป็นประชาธิปไตย ตรวจสอบความทุจริตคอรัปชั่นที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การบรรเทาโรคระบาดครั้งนี้ล้มเหลว และหากใครที่สู้เพื่อประชาธิปไตยอยู่แล้วจงสู้ต่อไป สู้เพื่อชีวิตของทุกคนที่ดีขึ้น
.
และขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง ผ่านพ้นวิกฤตและรัฐบาลนี้ไปได้ด้วยกันนะคะ
อ้างอิงจาก: Chompoo Prathumthong