สิงค์โปร์จ่อบริจาควัคซีนเข้าCOVAX รัฐบาลแจงเหตุไม่ร่วมระบุเรามีเงิน
สิงค์โปร์จ่อบริจาควัคซีนเข้าCOVAX
รัฐบาลแจงเหตุไม่ร่วมระบุเรามีเงิน
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า สิงคโปร์จะบริจาควัคซีนป้องกัน Covid-19 ส่วนเกินของประเทศผ่านโครงการCOVAX ที่จัดหาวัคซีนสำหรับประเทศรายได้ปานกลางและรายได้ต่ำ ขณะที่นายกรัฐมนตรี ลีเซียนลุง ขอให้ประเทศอื่นที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรจำนวนมากแล้วช่วยกันบริจาคด้วย
อนึ่ง นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ภายใต้การนำของ "ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวว่า ไทยตกขบวนรับวัคซีนฟรีจากโครงการโคแวกซ์ หรือ COVAX (ย่อมาจาก Covid-19 Vaccines Global Access Facility หรือโครงการเพื่อการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ระดับโลก) ว่า โครงการ COVAX นั้นเกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของกลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (Coalition for Epidemic Preparedness Innovations: CEPI), องค์กรกาวี (Gavi, the Vaccine Alliance) และองค์การอนามัยโลก ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ของประเทศต่างๆ ทั่วโลกอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ส่งหนังสือแสดงเจตนารมณ์เข้าร่วมตั้งแต่ช่วงต้นของโครงการแล้ว แต่เนื่องจากกรอบการจัดสรรวัคซีนและข้อตกลงการจองวัคซีนที่กำหนดโดยองค์การอนามัยโลกในช่วงเวลานั้น เป็นช่วงต้นของการพัฒนาวัคซีนทั้งสิ้น ซึ่งหมายความว่าแม้ว่าทำการจองไปแล้ว จะยังไม่ทราบว่าวัคซีนที่จองไปแล้วนั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่ การตัดสินใจของรัฐบาลเป็นการตัดสินใจอย่างรอบคอบท่ามกลางข้อจำกัดและบริบทหลายด้าน ผ่านคณะทำงานที่กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งขึ้น ซึ่งประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในและนอกกระทรวง ทั้งด้านวิชาการ กฎหมาย การเงิน เพื่อร่วมกันพิจารณาเงื่อนไขของการทำข้อตกลงสั่งจองวัคซีน จึงเป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานระหว่างผลประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพราะอาจจะไม่ได้รับวัคซีนหากการพัฒนาไม่สำเร็จ ล่าช้า และจำเป็นต้องเสียเงินค่าจองล่วงหน้า
นอกจากนี้ หากประเทศในอาเซียนที่จัดอยู่ในระดับที่มีรายได้ปานกลางจนถึงระดับสูง อย่างเช่น ไทย บรูไน สิงคโปร์และมาเลเซีย จะไม่เข้าข่ายได้รับความช่วยเหลือให้ได้รับวัคซีนฟรี หรือให้ซื้อได้ในราคาถูกจากโครงการ COVAX เนื่องจากรายได้ของไทยอยู่ในระดับปานกลาง