หมอนิธิพัฒน์ เสนอรัฐ ต้องฟังคนทำงานจริง พร้อมแนะล๊อกดาวน์ กทม.
จะเกิดอะไรขึ้น ?
ถ้าระบบสาธารณสุขไทยล่มสลายในอีกไม่กี่วัน
หมอนิธิพัฒน์ เสนอ “รัฐต้องฟังคนทำงานจริง” - “ล็อกดาวน์กรุงเทพฯ อย่างน้อย 7 วัน”…ก่อนสาย
“จำนวนผู้ป่วยเกินกำลังระบบสาธารณสุข 1 เท่า”
ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหญ่หลังเทศกาลสงกรานต์ 17 พฤษภาคม ศบค. รายงานตัวเลขผู้ป่วยพุ่งสูงสุดถึง 9,635 คน และจนถึงวันนี้ ยังคงมีผู้ป่วยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยวันละ 2-3 พันคน ตัวเลขนี้ สูงกว่าจำนวนผู้ป่วยที่ประเมินไว้ว่าระบบสาธารณสุขของไทยจะรับมือไหวกว่าเท่าตัว
“ถึง ศบค.จะไม่รายงาน แต่สถานการณ์จริงคือตัวชี้ว่านี่คือการระบาดระลอก 4”
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล บอกว่าจากจำนวนผู้ป่วย และการแพร่ระบาดที่แทรกซึมไปตามชุมชน จนถึงขั้นไม่สามารถสืบหาต้นตอการติดเชื้อของผู้ป่วยจำนวนมาก
ชี้ให้เห็นได้จากสถานการณ์จริง ว่าตอนนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการระบาดระลอกที่ 4 แล้ว ถึงรัฐจะยังไม่ประกาศการระบาดระลอกใหม่
“ระบบสาธารณสุขไทย อาจล่มสลายในอีก 7 วัน”
หากยังไม่มีมาตรการเร่งด่วน ตัวเลขผู้ป่วยที่สูงขึ้นทุกวัน ซ้ำเติมผู้ป่วยเก่า ก็จะส่งผลให้ ระบบสาธารณสุขที่แบกรับกันมานานต้องล่มสลาย
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ มองว่านอกจากการร้องขอให้ประชาชนยกการ์ด สิ่งสำคัญที่สุดคือรัฐ ต้องแก้ไขปัญหาเดิมๆที่เกิดขึ้นให้ได้ ทั้งจำนวนผู้ป่วยสะสม ปัญหาวัคซีน และรับฟังข้อเท็จจริงจากภาคการแพทย์ที่ทำงานกันอย่างหนักหน่วง มากกว่าข้อมูลเพียงแค่บางส่วนที่ได้รับผ่านการนำเสนอ ก่อนเดินหน้ามาตรการทางเศรษฐกิจ หรือการเปิดประเทศ
“วิกฤติการรักษาโควิด-19 ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล”
ในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล วันนี้ จำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยหนักทั่วพื้นที่เหลือน้อยเพียงแค่ร้อยละ 5 จากที่เคยประเมินไว้ต่ำที่สุดได้ร้อยละ 20
มาตรการเร่งด่วน ที่สุดในฐานะบุคลากรทางการแพทย์ที่รับมือกับผู้ป่วยโรคโควิด-19 รศ.นพ.นิธิพัฒน์ มองว่าจากสถานการณ์ผู้ป่วยรายวันที่ไม่ลดลงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไปถึงหลักหมื่น ขณะที่ภาคการแพทย์ไม่สามารถเพิ่มเตียงผู้ป่วยหนักไปมากกว่านี้ได้แล้ว เพราะไม่มีกำลังคน
“ล็อกดาวน์ คำตอบสุดท้าย”
สำหรับวิกฤตโควิดระลอกสี่ คำตอบสุดท้ายคือ การล็อกดาวน์กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดระบาดหนักอย่างน้อย 7 วัน เพื่อลดการเคลื่อนย้ายประชาชน เร่งจัดการปัญหาที่ค้างคา และลดปัญหาใหม่ ที่จะพอกพูนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า
อ้างอิงจาก: Thanyarat Thamoi