เพื่อไทย ซัด นายกฯ จะเปิดประเทศทั้งที่ยอดคนติดเชื้อพุ่ง 3000-4000/วัน
วันนี้ น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มีความเป็นห่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อมากขึ้นทุกวัน วันนี้ ทำสถิติสูงสุดที่กว่า 4,000 คน ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค.เพิ่งจะประกาศเปิดประเทศภายใน 120 วัน เพื่อสร้างความมั่นใจ ความฮึกเหิมให้กับตัวเอง
แต่กลับไม่ดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง การระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ต้องการวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ แต่วัคซีนที่มีอยู่อย่างซิโนแวคยังถูกตั้งคำถามว่าสามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้หรือไม่ ซ้ำยังมีราคาแพงกว่าวัคซีนไฟเซอร์ถึง 50%
น.ส.อรุณี ระบุต่อว่า ล่าสุดแพทย์ระบุว่า แม้จะมีผู้ฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็มยังติดเชื้อและเสียชีวิต จึงอาจต้องพิจารณาฉีดเข็ม 3 จะทำให้ภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นมาก ดังนั้น ศบค.จะต้องเร่งรัดนำเข้าวัคซีนที่มีคุณภาพหลากหลายยี่ห้อที่องค์การอนามัยโลกรับรอง และต้องเปิดเผยแผนการสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์ ที่พล.อ.ประยุทธ์เคยบอกว่า กำลังเจรจา
จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าว่าได้วัคซีนมามากน้อยเพียงใด และได้เมื่อไหร่ เหตุใดจึงต้องรอให้ส่งมอบในไตรมาส 4 ทั้งที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างฟิลิปปินส์ เพิ่งสั่งซื้อไปเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่มีกำหนดวันรับวัคซีนในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้แล้ว
โฆษกเพื่อไทย กล่าวต่อว่า พลเอกประยุทธ์ต้องปรับบทบาท ศบค.ในการจัดการวัคซีน โดยให้มีหน้าที่เป็นตัวแทนเจรจานำเข้าวัคซีนทุกยี่ห้อ และเป็นเพียงผู้กำกับดูแล (regulator) เท่านั้น ให้เอกชนที่มีความพร้อมเป็นผู้กระจายวัคซีน โดยต้องเร่งดำเนินการก่อนที่ประเทศไทยจะตกอยู่ในสภาพเสียเงินมหาศาล แต่โรคระบาดยังอยู่ในอัตราสูง
พลเอกประยุทธ์ ควรใช้เวลา และสติปัญญาคิดอย่างรอบคอบมากกว่านี้ การพูดเพียงว่าจะเปิดประเทศโดยไม่มีแบบแผน ทั้งที่ตนเองมีสถานะผู้นำประเทศที่ทั่วโลกจับตา อาจจะกระทบกับความเชื่อมั่นที่ติดลบอยู่แล้วให้ตกต่ำกว่าเดิม
อ้างอิงจาก: Thailand Vision