น่าชื่นชม? : ไทยยึดเบอร์ 3 อาเซียน จาก IMD ใน ด้านความสามารถแข่งขันดีขึ้น ??
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับประเทศไทย หลังจากที่ วันนี้ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายงานสรุปผลการจัดอันดับความสามารถการแข่งขันของประเทศไทย
.
โดยสถาบันการจัดการนานาชาติ (International Institute for Management Development) หรือ IMD ซึ่งได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา โดยไทยมีอันดับขยับขึ้นมา 1 อันดับจากปี 2563 มาอยู่ในอันดับที่ 28 จาก 64 เขตเศรษฐกิจทั่วโลกในปีนี้
นายอนุชา ระบุต่อว่า ผลจากวิกฤติการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ต่อเนื่องมาถึงปีนี้ ทำให้คะแนนสุทธิเฉลี่ยของทั้ง 64 เขตเศรษฐกิจลดลงจาก 71.82 ในปี 2563 เหลือเพียง 63.99 จากคะแนนเต็ม 100 ในปี 2564 โดยไทยยังคงมีคะแนนสุทธิในปีนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยอยู่ที่ 72.52
.
ลดลงเล็กน้อยจาก 75.39 ในปี 2563 และเมื่อมองภาพรวมในอาเซียน ไทยยังคงรักษาระดับอยู่ที่อันดับ 3 ของกลุ่มอาเซียน 5 ประเทศ โดยอันดับที่ 1 ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
นายอนุชา กล่าวว่า การเปรียบเทียบผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดย IMD ระหว่างปี 2563 และ2564 พบผลการจัดอันดับดีขึ้น 3 ด้าน ได้แก่
...
1.ด้านประสิทธิภาพของภาครัฐ ปรับตัวดีขึ้น 3 อันดับ เป็นผลจากภาพลักษณ์ความโปร่งใสในการดำเนินงานของภาครัฐ และการเร่งรัดการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
2.ด้านประสิทธิภาพของภาคธุรกิจ ปรับตัวดีขึ้น 2 อันดับ เนื่องจากความพยายามของภาครัฐและภาคธุรกิจที่สนับสนุนการจ้างงานและการพัฒนาบุคลากรให้อยู่รอดในตลาดแรงงาน
3.โครงสร้างพื้นฐานเพื่อการสาธารณูปโภค โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและการศึกษาปรับตัวดีขึ้น 1 อันดับ เนื่องจากรัฐบาลมีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง
...
สำหรับด้านสมรรถนะทางเศรษฐกิจ ปรับลดลงถึง 7 อันดับ โดยสาเหตุหลักมาจากสถานการณ์การค้า และการลงทุนของประเทศในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลต่อตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า และการส่งออกสินค้าและสถานการณ์การลงทุนจากต่างประเทศ
.
รวมทั้งการปรับตัวลดลงของตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับการจัดอันดับที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงผลจากการส่งออกภาคบริการที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลักที่มีอันดับลดลงค่อนข้างมากจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19
.
นายอนุชา กล่าวต่อว่า ข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเรื่องการขับเคลื่อนประเด็นต่าง ๆ เพื่อขยับอันดับของไทย โดยเน้นให้ติดตามการขับเคลื่อนการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพ และต่อเนื่อง ทุกส่วนราชการต้องเร่งพัฒนาระบบข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย พร้อมใช้ และสะท้อนสถานการณ์การพัฒนาที่เกิดขึ้นจริง
.
สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ภาคธุรกิจ และประชาชนผ่านช่องทางที่เข้าถึงง่าย ขับเคลื่อนการลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานทั้งเชิงกายภาพวิทยาศาสตร์ และดิจิทัล และพัฒนาระบบสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับต่อการเปลี่ยนแปลง และโรคอุบัติซ้ำ และอุบัติใหม่ที่อาจเกิดขึ้น
.
ซึ่งทางสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติจะจัดประชุมร่วมระหว่างภาครัฐ และเอกชน เพื่อสร้างความเข้าใจและกำหนดมาตรการที่เป็นรูปธรรม เพื่อติดตามและผลักดันแผนงาน โครงการ ที่จะช่วยยกอันดับตัวชี้วัดของไทยในอนาคตไทยให้ดีขึ้นต่อไป
อ้างอิงจาก:Thailand Vision