ทำไมสยามเมืองยิ้มแต่ไม่เคยติดอันดับTOP10 ประเทศที่มีความสุขของโลก
สยามเมืองยิ้มเราอยู่ปรเทศเราเราก็คิดว่ามีความสุขแล้วนะ..แต่สำหรับระดับโลกเราไม่เคยติดอันดับ TOP10
การจัดอันดับ World Happiness Report ปี 2021
- อันดับ 1 ฟินแลนด์ 7.842 คะแนน
- อันดับ 2 เดนมาร์ก 7.620 คะแนน
- อันดับ 3 สวิตเซอร์แลนด์ 7.571 คะแนน
- อันดับ 4 ไอซ์แลนด์ 7.554 คะแนน
- อันดับ 5 เนเธอร์แลนด์ 7.464 คะแนน
- อันดับ 6 นอร์เวย์ 7.392 คะแนน
- อันดับ 7 สวีเดน 7.363 คะแนน
- อันดับ 8 ลักเซมเบิร์ก 7.324 คะแนน
- อันดับ 9 นิวซีแลนด์ 7.277 คะแนน
- อันดับ 10 ออสเตรีย 7.268
คะแนนสำหรับประเทศไทย มีความสุขอยู่ในอันดับที่ 54 ของโลก ด้วยคะแนน 5.985 คะแนน
แม้ดูเหมือนอันดับจะแย่ แต่ในความจริงแล้วอันดับก็ยังดีกว่าหลายประเทศที่คนไทยคุ้นเคยกันดี โดยเฉพาะประเทศในทวีปเอเชีย อย่างญี่ปุ่น ที่อยู่ในอันดับที่ 56, เกาหลีใต้ อันดับที่ 62, ฮ่องกง อันดับที่ 77, เวียดนาม อันดับที่ 79, มาเลเซีย อันดับที่ 81, อินโดนีเซีย อันดับที่ 82, จีน อันดับที่ 84, ลาว อันดับที่ 100, กัมพูชา อันดับที่ 114, เมียนมา อันดับที่ 126, ส่วนประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุดในโลก คือประเทศอัฟกานิสถาน อยู่ในอันดับที่ 149
😁😁😁😁😁😁😁 😊 😁😁😁😁😁😁😁
เคยสงสัยกันมั้ยว่า ทำไมงานวิจัยเกี่ยวกับ “ประเทศที่มีความสุขของโลก” ไม่ว่าจะปีไหนๆ ประเทศแถบสแกนดิเนเวียมักจะติดโผเป็นอันดับต้นๆ เสมอ
แล้วพวกเขามีทัศนคติ (Mindset) อะไรที่พิเศษในการดำเนินชีวิตกันเหรอ ถึงช่วยให้เป็นสังคมที่น่าอยู่กันแบบนี้! .
ทัศนคติที่ว่านั้นก็คือ “Law of Jante” หรือ กฏของยานเต้ ซึ่งเป็นค่านิยมที่คนประเทศแถบสแกนดิเนเวีย (นอร์เวย์ สวีเดน และเดนมาร์ก) ใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต เพื่อให้เป็นคนในระดับค่าเฉลี่ย หรือมีความคิดที่ว่าเราไม่ได้เหนือไปกว่าคนอื่น ทำให้คนประเทศนี้มีความถ่อมตน รักความเท่าเทียม และนำไปสู่การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข .
#กฏของยานเต้ (Rules of Jante)
.1. อย่าคิดว่าตัวเองพิเศษ
2. อย่าคิดว่าตัวเองดี
3. อย่าคิดว่าตัวเองฉลาดกว่าคนอื่น
4. อย่าบอกตัวเองว่าตัวเองดีกว่าใคร
5. อย่าคิดว่าตัวเองมีมากกว่าใคร
6. อย่าคิดว่าตัวเองสำคัญกว่าใคร
7. อย่าคิดว่าตัวเองเก่งทุกอย่าง
8. ห้ามหัวเราะเยาะคนอื่น
9. อย่าคิดว่ามีคนสนใจเกี่ยวกับตัวเองนัก
10. อย่าคิดว่าตัวเองสามารถสอนคนอื่นได้ .
การที่คนในประเทศแถบนี้แต่งตัวคล้ายๆ กัน มีรถเหมือนๆ กัน หรือบ้านขนาดไม่ใหญ่มาก ล้วนมีแนวคิดมาจากกฎนี้เพื่อให้ทุกคนรู้สึกเหมือนกัน ไม่มีใครเหนือกว่าใคร
และการกระทำที่เป็นการโอ้อวดจะถูกคนในสังคมต่อต้าน และไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม .
. อย่างไรก็ตาม เริ่มมีคนค้านความคิดดังกล่าวที่ใช้มาอย่างยาวนานของกฎนี้ว่า “เป็นการจำกัดความคิดสร้างสรรค์ และจำกัดความฝัน”
แต่จะว่าไป ทัศนคติแบบนี้ไม่สามารถเปลี่ยนกันง่ายๆ ชั่วข้ามคืน แต่ต้องปลูกฝังและสืบต่อกันมาช้านาน
ดังนั้น มันไม่สายเกินไป หากเราจะเริ่มต้นลงมือทำ เพื่ออนาคตของลูกหลานเราในอนาคต ที่รู้จักการให้เกรียติซึ่งกันและกัน ในความหมายที่แท้จริงของคำว่า "คนที่เท่าเทียมกัน" ซึ่งไม่ได้ตีตรากันไว้ที่เงิน หรือยศศักดิ์ แต่อย่างใด .
Cr.:เพจ Nation books
ตามหลักกฏของยานเต้ (Rules of Jante) คนไทยก็มีการอบรมสั่งสอนนะ แต่ที่เห็นกันส่วนใหญ่มักทำตรงกันข้าม เพราะการทำตัวเก่ง เหนือคนอื่น เหยียบคนที่ด้อย..มักจะคิดว่าตนคือนัมเบอวัน..
แต่ความสุขมีหรือป่าว...
จึงทำให้ประเทศไทยมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุดในอาเซียน โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า การฆ่าตัวตายของไทยรายปีอยู่ที่ 14.4 ต่อ 100,000 คน ขณะที่เฉลี่ยแล้วในระดับโลกอยู่ที่ 10.5 ต่อ 100,000 คน
.....จงเปลี่ยนความคิด แนวทางปฏิบัติต่อคนรอบข้าง ชีวิตก็เปลี่ยน ความสุขจงสร้างวันนี้จะได้มีความสุขตอนยังมีชีวิต
แต่คนไทยอะเนาะ..เจ้ายศ เจ้าอย่าง อำนาจบารมี..จะอ่อนน้อมถ่อมตน เฉพาะผู้มีประโยชน์
มันฝั่งรากลึก.."กูไม่ทำคนอื่นก็ทำ พอคนอื่นทำ กู้ก็โดนเขี่ยทิ้ง เพราะกูเลียไม่เก่ง" แนวคิด...
ขอบคุณภาพ