ใส่บ๊อกเซอร์แล้วต้องใส่กางเกงในมั้ย..
หลายคนถูกเตือนมาว่า..ถ้าไม่ใส่กางเกงในระวังเป็ใส่เลื่อนนะ...
หนุ่มคนนี้จึงถามว่า
ไม่ใส่กางเกงในเลยเป็นไส้เลื่อน
ยุคสมัยเปลี่ยนไป เดี๋ยวนี้หนุ่มๆ หันมาใส่กางเกงชั้นในแบบบ็อกเซอร์กันมากขึ้น ก็เลยกังวลว่า การไม่ได้ใส่กางเกงชั้นในแบบที่กระชับโอบอุ้มน้องชายอย่างใกล้ชิดจะเป็นสาเหตุให้เสี่ยงการเป็นไส้เลื่อนมากขึ้น
เพราะคิดไปว่าพอไม่มีอะไรมารองรับแล้วต้องเดิน วิ่ง กระโดด หรือไปเล่นกีฬาที่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวเร็วๆ แรงๆ
อาจดึงไส้ให้เลื่อนออกมาจากช่องท้องมาตกอยู่ที่ขาหนีบได้ความเชื่อนี้ไม่เป็นความจริงเลย
เพราะสาเหตุที่แท้จริงของไส้เลื่อนเกิดจากการที่ผนังหน้าท้องอ่อนแอหรือหย่อนยานผิดปกติ
ลำไส้บางส่วนจึงเลื่อนออกมาตุงเป็นก้อนบวมบริเวณขาหนีบหรืออัณฑะ
ไม่เกี่ยวกับการใส่หรือไม่ใส่กางเกงใน หรือใส่กางเกงในแบบไหน
ถ้าคุณผู้ชายกลัวการเป็นไส้เลื่อนจนต้องใส่กางเกงในที่รัดแน่นเกินไป อาจจะพาโรคอื่นๆ มาได้ง่ายกว่าด้วยนะ...
อย่างโรคเชื้อราในร่มผ้าที่ทำให้คันยิกๆ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ปวดท้องน้อย
หรือกระทั่งปวดหัวจากการที่อัณฑะถูกบีบรัดมากเกินไปด้วยซ้ำ
กางเกงบ็อกเซอร์ (อังกฤษ: Boxer shorts) เป็นกางเกงในประเภทหนึ่งของผู้ชาย
หลังจากที่มีการคิดค้นยางยืดได้ ก็มีการพัฒนารูปแบบกางเกงที่มียางยืดที่เอวแทนที่กางเกงเข็มขัดหนังแบบเก่า
โดยกางเกงเหล่านี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อกางเกงบ็อกเซอร์ และได้รับความนิยมในทันที
แต่หลังจากนั้นกางเกงรูปแบบของจ็อกกี้ก็ได้รับความนิยมแทนในปลายทศวรรษที่ 30
ต่อจากนั้นช่วงปี ค.ศ. 1947 กางเกงบ็อกเซอร์ก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหนึ่ง
กางเกงบ็อกเซอร์ มีลักษณะคล้ายกางเกงมวย บางแบบคล้ายกางเกงในเต็มตัวแต่ขากางเกงยาวกว่า อาจมีกระดุมอยู่ข้างหน้า
วัยรุ่นผู้นิยมการใส่กางเกงเอวต่ำ มักใส่กางเกงบ็อกเซอร์
หรืออาจสวมกางเกงบ็อกเซอร์ทับกางเกงในแบบบริฟส์อีกชั้นหนึ่ง
ส่วนใหญ่มักใส่กับกางเกงยีนส์
หรือใส่นอน
จะใส่อย่างไรก็แล้วแต่ความสบาย แต่ผมขอแนะนำ ถ้าไม่ได้ใส่กับเกงยีนส์ ใส่กับกางเกงผ้า ควรใส่กางเกงในกันตุงครับ
ขอบคุณข้อมูลภาพ