ส.ส.เพื่อไทย สงสัย จัดสรรงบฯ จะเอาไปรบกับใคร โดยมองว่าอัดฉีดนายพลมากเกินไป
วันนี้ นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายรัฐบาลถึงกรณีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของผู้ต้องขังในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ โดยระบุว่า ตอนนี้ผู้ติดเชื้อมีจำนวนมาก หากเกิดเหตุแบบนี้เกิดขึ้น ญาติเขาจะสบายใจได้อย่างไร เพราะเขาก็เป็นคน มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
หลายคนออกมาต้องมีอาชีพ ตอนนี้เขาเหล่านั้นยังอยู่ในพื้นที่อย่างแออัด ดังนั้นรัฐควรจัดงบประมาณให้เขาไปเลย ซึ่งรมว.ยุติธรรมจะต้องตอบว่าจะทำอย่างไร เพื่อลดความแออัดลงผู้ต้องขังในเรือนจำให้ได้ และเรือนจำประเทศไทยตอนนี้มีผู้ต้องขังมากที่สุดในอาเซียน
นายสมคิด ได้กล่าวต่อว่า ส่วนงบประมาณกระทรวงกลาโหม ที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าปรับลดลงแล้วทุกกระทรวง ซึ่งลดจริงแต่ลดในส่วนที่ไม่สมควร อาทิ งบด้านการศึกษา และสาธารณสุขลดลง ส่วนที่อ้างว่าในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ปรับลดนั้นพบว่า มีการปรับลดเงินในกองทุนหลักประกันสุขภาพทั้งที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง
สำหรับกระทรวงกลาโหมสิ่งที่ตนพุ่งเป้าคือ งบบุคลากรที่กองทัพมีบุคลากรที่เป็นนายพลจำนวนมาก เลื่อนยศตอบสนองกัน แต่ไม่ดูว่าตอนนี้ชาวบ้านลำบาก กองทัพคือปัญหาประเทศ ตนไม่ได้รังเกียจทหาร แต่การจัดงบแบบนี้ทำไม่ได้ การจัดสรรงบฯถามว่าจะไปรบกับใคร และการที่มีทหารเกณฑ์มากมาย ถามว่าเอาไปทำอะไร
ต้องโทษสำนักงบประมาณที่กระทรวงกลาโหมได้รับสิทธิพิเศษตรงงบบุคลากร และยังมีการทำงบผูกพันไว้มาก โดยเฉพาะกองทัพบก ทั้งสิ่งก่อสร้างอาคารบ้านพัก การเช่ารถยนต์ต่าง ๆ เป็นต้น เหล่านี้ควรลด ไม่ต้องสร้าง และไม่ต้องซ่อม รายการปรับปรุงอาคารกองทัพบกต่าง ๆ จึงฝากชั้นกรรมาธิการว่าอะไรที่เริ่มในงบฯปี 65 ขอตัดให้หมด
นายสมคิด ได้ระบุว่า ผมขอวิจารณ์กองทัพอย่างตรงไปตรงมาว่าต้องลดบุคลากรลง ขอฝากนายกฯ เพราะภารกิจหลักกองทัพคือการป้องกันประเทศ ชอบอวดว่าเป็นทหารให้อะไรบ้าง ก็งบไปกองอยู่ที่ทหาร ทหารไม่ต้องทำทุกเรื่อง ไม่เช่นนั้นทหารก็มายุ่งทุกเรื่อง จึงต้องลดบุคลากรลง เพื่อไม่ให้เป็นภาระ ขอให้รีดออก 30-40 %
ทหารไทยต้องปฏิรูปตนเอง อย่าคิดว่ายิ่งใหญ่ ต้องเป็นทหารอาชีพ ทำหน้าที่ป้องกันประเทศ งบที่ไม่ใช่ภารกิจหลักทหาร ขอให้โอนให้ฝั่งพลเรือนที่เกี่ยวข้องเขาดำเนินการ เพราะมันไม่คุ้มค่า ฝากกมธ.งบกองทัพอะไรที่ไม่มีความจำเป็นงขอให้ตัดงบทหารออกกมาช่วยโควิดทั้งหมด และผมไม่เห็นด้วยกับการจัดงบฯครั้งนี้ เพราะไม่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน
อ้างอิงจาก: Thailand Vision