5จุดที่ไม่ควรวางหิ้งพระ ตามความเชื่อ

5 จุดที่ไม่ควรวางหิ้งพระ ตามความเชื่อ

1. 

   ไม่ควรแขวงหรือวางหิ้งพระไว้ติดผนังฝั่งเดียวกับห้องน้ำและห้องครัว เพราะรู้กันดีอยู่ว่าห้องน้ำนั้นเป็นที่ชำระล้างสิ่งสกปรกและของเสียของคนเรา การนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราต้องเคารพและบูชาไปวางในจุดแบบนั้นจะทำให้ส่งผลที่ไม่ดีกับคนในบ้าน และยังเชื่อว่าสิ่งศิกดิ์สิทธิ์นั้นเป็นตัวแทนของธาตุไฟ ซึ่งเป็นธาตุที่ตรงข้ามกันกับธาตุน้ำ การน้ำไปวางในจุดที่เป็นแหล่งน้ำอย่างห้องน้ำและห้องครัวนี้ เชื่อว่าจะทำให้ ฤทธานุภาพ(คำแก่มาก) หรือเรียกง่ายๆว่าพลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะลดลงนั่นเอง
2. ไม่ควรวางหิ้งพระไว้บนขอบประตูหรือเหนือขอบประตู ตามความเชื่อของคนไทยโบราณขอบประตูไม่ว่าจะเป็นด้านไหนบนล่างซ้ายหรือขวาก็ยังคงเป็นขอบประตู เช่นเดียวกันกับการนอนขวางประตู เพราะเชื่อวางมีการเดินเข้าเดินออกของทั้งผู้คนและผีบ้านผีเรือนและเทวดาหรืออะไรก็ตามบ่อยครั้งการนอนขวางประตูจึงเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ การเดินเหยียบขอบประตูหรือธรณีประตูก็เช่นเดียวกันเพราะที่ธรณีประตูนั้นเป็นที่สถิตของพระภูมิประตู  เช่น พระภูมิบ้านเรือน พระภูมิประตูและหัวกระได พระภูมินา เป็นต้น การเหยียบธรณีประตูจึงเท่ากับเป็นการลบหลู่พระภูมิประตูนั่นเอง 
3. ไม่ควรวางหิ้งพระไว้ใต้คานบ้านหรือขื่อบ้าน คานบ้านนั้นจะเป็นจุดรับน้ำหนักของคาบ้านและจะถูกหลังคากดทับและทิ้งน้ำหนักกดคานบ้านไว้อยู่ตลอด ตามความเชื่อแล้วจึงเป็นจุดที่ไม่ควรวางหิ้งพระเปรียบเสมือนพลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะถูกทับไว้ทำอะไรก็ไม่ดีไม่รุ่งเรืองและจะถูกเอาเปรียบนั่นเอง
4. ไม่ควรวางหิ้งพระไว้ในจุดที่ ด้านบนหรือชั้น2 เป็นห้องน้ำหรือว่าเตียงที่เรานอน อย่างที่ได้กล่าวไปขั้นต้นห้องน้ำนั้นเป็นที่ชำระล้างสิ่งสกปรกและของเสียของคนเราการวางหิ้งพระไว้ห่างจุดนี้จะดีที่สุด และอีกข้อที่บ้านบ้างบ้านอาจจะไม่ได้สนใจคือเหนือหิ้งพระอีกชั้นเป็นเตียงนอน คุณหลายคนอาจจะรู้อยู่แล้วหรืออาจเคยอ่านผ่านมาบ้างแล้วว่าไม่ควรวางหิ้งพระไว้ข้างเตียงนอนหรือถึงไม่ใช่ทั้งหิ้งพระ การวางพระแค่องค์เดียวก็ไม่ควรทำแล้วไม่ว่าจะบนหัวนอนก็ตาม จะซ้ายหรือขวาของเตียงก็ไม่ควร ไม่ต้องพูดเรื่องปลายเตียงคงไม่มีใครหันหน้าหิ้งพระเข้าหาปลายเตียงอยู่แล้ว แต่การวางหิ้งพระหรือแขวนพระไว้ข้างเตียงนั้นเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำกันโดยไม่รู้ตัว เช่นการถอดพระที่ห้อยอยู่เป็นประจำแขวงไว้บนหัวเตียงเมื่อต้องการจะพักผ่อน หรือถอดพระที่ห้อยแล้ววางไว้ใต้หมอน โดยที่ไม่คิดว่าถึงจะเป็นหัวนอนไม่ใช่ปลายเตียงแล้วก็ไม่เป็นไร โดยลืมนึกถึงเรื่องนึงไปว่า เตียงนอนนั้นโดยส่วนใหญ่จะเป็นที่ทำกิจกรรมต่างๆ ของคู่รัก เพราะอย่างนั้นจุดนี้จึงเป็นที่ ที่ไม่ควรมีหิ้งพระหรือพระพุทธรูปที่เราบูชานั่นเอง
5.  บางจุดไม่ควรวางหิ้งพระไว้หรือถึงเป็นจุดที่วางไว้ได้ เพราะเหมือนจะเหมาะสมอยู่แล้ว นั้นคือห้องพระ บ้านที่มีห้องพระแยกเป็นของตัวเองนั้น และห้องพระก็ไม่ควรอยู่ติดกับห้องน้ำหรือมีประตูตรงกับห้องน้ำด้วย สิ่งที่จะบอกคือการนำสิ่งของอย่างอื่นไปวางไว้ในห้องพระจนเปรียบเสมือนห้องเก็บข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ถ้าบ้านคุณถึงขนาดมีการจัดห้องพระแยกได้ก็ควรจะทำให้มันดี เหมาะสมที่จะเป็นห้องพระ พูดง่ายๆคือ การจัดตั้งห้องพระก็ต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุดกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคราพกราบไหว้ ถ้าคุณมักง่ายนำเอาข้าวของอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องมายัดไว้ภายในห้องพระหรือเพราะต้องประหยัดพื้นที่ใช้สอยก็ตามก็ไม่ควรทำห้องพระขึ้นมาแต่แรก ก็ไม่ใช่ว่าจะเอาของเล็กๆน้อยๆไปเก็บใส่ตู้ไม่ได้เลย ยกตัวอย่างสิ่งของที่ไม่ควรนำไปเก็บไว้เช่น กล่องหรือลังใส่เสื้อผ้าเก่าหนังสือเก่าที่ไม่ใช้อ่านแล้วราวแขวนเสื้อ เป็นต้น สิ่งที่กล่าวมานี้ผู้คนส่วนใหญ่มักมองข้ามและทำไปโดยไม่ได้คิดอะไร แต่เมื่อคุณได้อ่านข้อมูลนี้แล้วคุณก็ได้รู้แล้วว่าควรปรับเปรียบพฤติกรรมการใช้ห้องพระของคุณเสียใหม่ ทำให้ห้องพระไม่เป็นห้องอเนกประส่งอีกต่อไป เผื่อว่าหากสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นมีอยู่จริงเค้าอาจจะเห็นถึงความตั้งใจของคุณก็แล้วแต่คุณว่าจะเชื่อเรื่องแบบนี้หรือไม่. 
            *ห้องพระควรมีแสงที่เพียงพอไม่มึดจนเกินไป มีอุณหภูมิที่เหมาะสมอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ควรจุดธูปเทียนไว้จนห้องพระกลายเป็นศาลเจ้า ที่สำคัญควรหมั่นทำความสะอาดถ้าทำได้ทุกวันจนกลายเป็นกิจวัตรประจําวันจะดีที่สุด