“หมอปลา” ถึงกับขนลุก สัมภเวสี เดินเพ่นพ่านไปหมด!!
พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ สรุปเรื่องราวทขณะลงพื้นที่ ที่สำนักสงฆ์ภูหินกอง ผ่านทางเพจเฟซบุ๊คของท่านไว้ว่า
มีเรื่องเล่าและแง่คิดมาฝากนะโยม จากการลงพื้นที่ที่สำนักสงฆ์ภูหินกองวันนี้
หลังจากที่อาตมาได้คุยกับลูกศิษย์ของอดีตพระธรรมกรและสำรวจพื้นที่โดยรอบของสถานปฎิบัติธรรมแห่งนี้ ทำให้อาตมาเข้าใจว่า ทำไมคนอย่างอดีตพระธรรมกรเอง หรือแม้แต่ลูกศิษย์ของเขาจึงเชื่อว่า การตัดหัวเป็นพุทธบูชา เป็นเรื่องที่ถูกต้อง
การตัดหัวของอดีตพระธรรมกร ได้อิทธิพลมาจากแนวคิดในคัมภีร์อนาคตวงศ์ เรื่องการบำเพ็ญบารมี และการจะได้ตรัสรู้ในอนาคต ลูกศิษย์อดีตพระธรรมกร ยืนยันและเชื่อมั่นชัดเจนจนถึงตอนนี้ว่า การกระทำของอาจารย์ของพวกเขา เป็นการบำเพ็ญบารมี และเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว
เพราะเชื่อกันแบบนี้นะ ลูกศิษย์ของอดีตพระธรรมกรจึงไม่มีใครห้ามอาจารย์เลย ไม่แค่นั้นหลังจากที่อาจารย์ของเขาตัดหัวตัวแล้ว ลูกศิษย์ได้ช่วยกันทำความสะอาดและทำลายหลักฐานทุกอย่างที่อาจารย์ขอบเขาใช้ก่อเหตุ มีการเผาศพพระธรมกรไปแล้วนะ อาตมาได้ไปดูที่เผาศพด้วย ตอนนี้บริเวณนั้นถูกวางทับด้วยก้อนหินซ้อนกันคล้ายเจดีย์
มีสิ่งหนึ่งที่อาตมาค่อนข้างเอะใจมาก คือในสำนักสงฆ์แห่งนี้มีเทวรูปเยอะมาก มีศิวลึงค์ด้วย ก็ไม่รู้ว่า เรื่องการตัดหัวของอดีตพระธรรมกร มีความเชื่อเรื่องการบูชายัญมาเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน
ใครจะมองเรื่องนี้ยังไงไม่รู้นะ แต่สำหรับอาตมา อาตมามองว่า คัมภีร์หลายๆ คัมภีร์ในชั้นหลังซึ่งถูกเขียนขึ้นในนามของพุทธศาสนามีปัญหามาก แม้แต่คัมภีร์อนาคตวงศ์เอง ซึ่งถูกแต่งขึ้นหลังพุทธปรินิพพานตั้ง 1700 กว่าปี
การพูดถึงการบำเพ็ญปรมัตถบารมีของเหล่าพระโพธิสัตว์มีปัญหามาก โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการตรัสรู้ การกระทำเหล่านี้หลายอย่างสุดโต่งและขัดแย้งในตัวเอง ตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า
นี่อยากจะฝากไว้นะโยม ให้อุทาหรณ์และเรื่องที่เราจะขบคิดกัน ว่าอะไรหนอคือคำสอนของพระพุทธเจ้า อะไรไม่ใช่ ?
ส่วนหมอปลา เดินวนเวียนรอบกองหิน พบว่ามีหน้าแดงกล่ำ จะอ๊วก พร้อมบอกว่ามีวิญญาณสัมพเวสี อยู่เป็นจำนวนมาก วิธีแก้ไขที่ดีที่สุด คือ ขนหินไปทิ้ง แล้วเอาเถ้ากระดูกไปลอยอังคาร