ช่วยเอากระดาษทรายขัดหน้าตัวเองก่อน !! พระมหาไพรวัลย์แหน็บพุทธะอิสระ
ช่วยเอากระดาษทรายขัดหน้าตัวเองก่อน !! พระมหาไพรวัลย์แหน็บพุทธะอิสระ
ยังคงตอบโต้อยู่เนือง ๆ สำหรับ “พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ” กับ “(อดีต)หลวงปู่พุทธะอิสระ” หรือ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ ซึ่งวันนี้ (8 พ.ค. 2564) ถึงตา พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้กลับอาตมาว่าอาตมาจะจบแล้ว แต่คนแก่หัวหงอกอย่างตาสุวิทย์นี่ไม่ยอมจบไม่ยอมเลิกเสียที ใช้คำพูดว่า อาตมาเป็นเด็กไม่รู้จักโต แต่คนแก่อย่างตัวเองกลับปล่อยให้ลูกศิษย์ปั่นหัวเหมือนคนไม่มีสติปัญญาอยู่ได้ เสียดายนะที่อุตส่าห์บวชมาตั้งนานนม แต่ผ้าเหลืองกลับไม่ช่วยให้ฉลาดขึ้นมาเลย ครั้งก่อนกล่าวหาว่า อาตมาบูลลี่ วันนี้ยังมาบอกว่า อาตมาหิวแสงอีก อาตมาเชื่อแล้วจริงๆ วัดอ้อน้อยไม่มีกระจกให้ตาแก่สุวิทย์ส่องหน้าตัวเอง ถ้าพระแบบอาตมาหิวแสง แล้วคนแก่แบบคุณที่เขียนถึงอาตมาไม่เลิกนี่เรียกว่าอะไร #ไหนลองตอบมาซิ #ขายขำ”
สันดานอันหนึ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนได้และคงเปลี่ยนไม่ได้จนตายของตาแก่สุวิทย์ ผู้แม้จะผ่านการกินนอนดัดนิสัยในเรือนจำมาแล้ว นั่นก็คือสันดานของการคิดร้ายป้ายสีและการมองคนอื่นที่เห็นต่างจากตัวเองแบบเหมารวมแบ่งข้าง คนที่ติดนิสัยบูลลี่คนอื่น ไม่ใช่อาตมา แต่น่าจะเป็นคนแก่ที่ทำตัวไม่รู้จักโตแบบตาสุวิทย์ต่างหาก คนแก่ไม่รู้จักโต ที่ให้สัมภาษณ์พาดพิงโคตรเง่าคนอื่น หรือไล่คนอื่นออกนอกประเทศ เพียงเพราะคิดเห็นไม่เหมือนตนเอง นี่แหล่ะที่สะท้อนวุฒิภาวะแบบเด็กที่ไม่รู้จักโตของตาสุวิทย์”“ตาแก่สุวิทย์ให้ร้ายอย่างหน้าด้านๆ ว่า อาตมาว่า เป็นแกนร่วมคณะปฏิสังขรณ์การพระศาสนาใหม่ ทั้งที่อาตมาไม่เคยเข้าร่วมการประชุม หรือรับรู้และมีส่วนในการจัดตั้งกลุ่มนี้ขึ้นมาเลยเพียงการถ่ายรูปรับธงธรรมจักรแครอทเมื่อครั้งเข้าขอสัมภาษณ์ครูใหญ่ในงานวิจัยของมหาจุฬา และเพียงการรับเป็นวิทยากรในการเสวนาในรายการคลับเฮาส์ แค่นี้ก็ถูกตาแก่สุวิทย์ป้ายสีทันทีว่าเป็นแกนนำร่วม เป็นพวกเดียวกัน โง่ซ้ำซาก อาตมาอยากจะกล่าวว่า ที่บ้านเมืองเราไม่สามารถมีความสมานฉันท์ หรือเปิดกว้างในการรับฟังความเห็นของคนอื่น นั่นเป็นเพราะว่า บ้านเมืองเรามีคนที่มีสติปัญญาเท่าหางแมวอย่างตาแก่สุวิทย์อยู่มากนั้นเอง แอะอะก็ล้มล้าง แอะอะล้างล้ม 555 คนแก่แบบคุณนี่มันไม่เหลือสติปัญญาอะไรที่จะโต้แย้งกับคนอื่นด้วยเหตุผลมากกว่านี้ได้แล้วใช่ไหม ?”
ปล. ก่อนจะถลกหนังกำพร้าคนอื่น ช่วยเอากระดาษทราย ขัดหน้าตัวเองก่อนนะ ลองขัดดูซิ ว่ายังมีความรู้สึกมากน้อยแค่ไหน”