สาวบ่น ถูกละเมิดสิทธิ? ให้รายงาน WFH ทุกๆ 90นาที แต่ชาวเน็ตสงสัย ทำไมถึงไปทะเลได้?
เมื่อวานนี้บนเว็บไซต์พันทิป ด็อต คอม ได้มีผู้มาตั้งกระทู้คำถามถึงนโยบายบริษัทตนเองในช่วง WFH (work from home) ว่าเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวหรือไม่ และร้องเรียนหน่วยงานใดได้บ้าง โดยมีข้อความดังนี้
.......
ที่ทำงานเรา WFH มาตลอด ก่อน WFH ก็มี Happy Friday อยู่แล้ว ซึ่งทำให้รู้ว่างานจะเยอะแค่ไหนค่ะ
ปกติงานจะเยอะช่วงวันพฤหัส แล้ววันศุกร์ก็ทำงานที่บ้าน จากนั้นก็เยอะอีกทีวันจันทร์บ่ายเพราะรอ Supplier ตอบกลับตอนเช้า
ส่วนใหญ่เราก็จะว่างวันศุกร์ช่วงสายๆ ไปจนถึงวันจันทร์ช่วงเช้า ถ้าปกติก็เข้าออฟฟิศจันทร์ถึงพฤหัส วันศุกร์ไม่ต้องเข้าแต่ต้องทำงาน
ช่วง COVID ระบาดล่าสุด บริษัทเราหยุดตั้งแต่ 18 ธันวาและยังไม่ได้เข้าออฟฟิศอีก ก็ WFH ตามปกติ
ตอนเรา WFH เราก็ทำงานทุกวัน วันเสาร์-อาทิตย์ ถ้ามี Email เข้าเราก็ตอบ มีข้อความใน Teams เราก็ตอบค่ะ
แต่วันนี้ทางบริษัทต้องการให้ลง App ของบริษัท มือถือต้องเอาไปให้ IT Support ที่ออฟฟิศลง โดยให้นัดวันกับ IT Support และให้ทุกคนใช้ภายในอาทิตย์หน้า
ในแอพที่ลงต้องลงพิกัดบ้านตัวเอง และในช่วงเวลาทำงาน (8.30 - 17.30 น.) พัก 12.00-13.00 น. แอพจะเด้งให้เช็คอินทุก 90 นาที กดได้ช้าสุด 10 นาที ถ้ากดช้ากว่านั้น 8 ครั้งนับเป็นขาดงาน 1 วัน (ไม่ได้ค่าจ้าง)
**ปัญหาคือ
1. เราอยู่ต่างจังหวัด ถ้าจะเอามือถือไปให้ IT Support ลงมันเสียเวลา แต่บริษัทขอให้นำอุปกรณ์ของบริษัททั้งมือถือและ Notebook ให้ IT Support ตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยไปด้วย เหตุผลนี้จึงให้เข้าออฟฟิศ แต่ถ้าเราเข้ากรุงเทพต้องเสียค่าเดินทาง ตอนนี้เครื่องบินจะบินหรือเปล่าไม่รู้ มีความเสี่ยงเยอะมาก และกลับมาหมู่บ้านเราจะให้กักตัว
2. ข้อมูลส่วนตัวไม่เป็นข้อมูลส่วนตัวอีกต่อไปแล้ว เหมือนถูกขังคุกใส่กำไล EM เหมือนนักโทษให้อยู่กับบ้าน เพราะต้องกดเช็คอินในแอพตลอด ถึงแม้ WFH เราก็อยู่บ้าน แต่ในบางทีเบื่อ เราก็ไปนั่งทำงานร้านกาแฟ เข้ามืองไปเดินห้าง บางทีเราก็ไปเที่ยวทะเล แต่ก็พกมือถือและ Notebook ทำงานไปด้วย แบบนี้หาความเป็นส่วนตัวได้ยังไง
3. วันศุกร์ที่ทำงานเรามีนโบาย Happy Friday มาหลายปีแล้ว โดยให้ทำงานอยู่กับบ้านแค่เคลียร์งานของสัปดาห์นั้น จากนั้นก็ตามสบาย แต่ตอนนี้วันศุกร์ก็ต้องเช็คอิน
กรณีแบบนี้เราจะร้องเรียนได้ที่ไหนบ้าง กรมแรงงานที่จังหวัดที่เราอยู่ร้องเรียนได้ไหมค่ะ เพราะนโยบายละเมิดความเป็นส่วนตัวมากค่ะ
..................................
..................................
ซึ่งก็มีผู้ที่เห็นด้วย มาตอบว่า
.
เช็คอินพอเข้าใจ แต่เช็คอินกันทุก 90 นาที แถมห้ามสายเกิน 10 นาทีนี่ มันโหดมากๆเลยนะครับ
โหดเกินไปแบบมากๆด้วย ใครเป็นคนต้นคิดเนี่ย วันละครั้งพอแล้ว
บ ใหญ่ๆระดับประเทศเขาก็วันละครั้งเอง ให้รู้ว่ามาทำงาน แถมงานจบก็พอ
ถามว่าฟ้องแรงงานได้ไหม ไม่น่าได้นะครับ ถ้าผลมันยังไม่เกิด
แต่ส่วนใหญ่ของคอมเมนต์จะเป็นไปในทางไม่เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้เช่น
.
WFH ไม่ใช่เค้าให้ทำงานที่บ้านหรอครับ ไปเที่ยว ไปร้านกาแฟ ไปที่เสี่ยงอีกทำไม
..........................................................................
บริษัทเรา 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น
โดยกำหนดว่า WFH คือ ทำงานที่บ้านเท่านั้น ไม่มีการไปทำงานในร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้า
..........................................................................
เราคิดว่าบริษัทไม่ได้ละเมิดอะไรคุณเลย เพราะโน้ตบุคก็ของบริษัท มือถือก็ของบริษัท
คุณควรมองว่าอุปกรณ์พวกนี้เป็นของบริษัท ไม่ใช่ยึดถือเอามาใช้เหมือนเป็นของส่วนตัว
ส่วนปัญหาอื่นๆที่ว่ามานั้น มันเป็นปัญหาแค่กับคุณคนเดียว เพราะคุณมองแต่เรื่องความสะดวกสบายของตัวเอง
คือรักสบายจนเคยตัว พอเจอแบบนี้เลยไม่ยอมปรับตัว
และพูดตรงๆนะคะ เราว่าบริษัทออกกฎมาเพื่อจัดการกับคนแบบคุณนี่แหละ
ถึงขนาดที่ว่าจะลงโปรแกรมในมือถือทั้งสองเครื่องแล้วทิ้งไว้ให้คนที่บ้านกดให้นี่ พูดออกมาได้แบบไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเลยเหรอคะ
การที่คุณต้องเดินทางกลับไปลงโปรแกรมที่บริษัทแล้วกลับมากักตัวเนี่ย มันก็เป็นปัญหาของคุณ ไม่ใช่ปัญหาของบริษัท
คุณก็เดินทางไปลงโปรแกรมที่บริษัทแล้วไม่ต้องกลับมาก็ได้นี่คะ
ทำไมจะต้องยืนยันที่จะอยู่ตจว. ทำไมจะต้องหาเรื่องออกไปนั่งทำงานข้างนอก
ทั้งๆที่ในสถานการณ์แบบนี้ควรจะออกไปข้างนอกให้น้อยที่สุด แต่คุณจะร้องเรียนเพื่ออ้างสิทธิ์ของตัวเองในการเดินทางไปนั่นไปนี่ตามใจตัวเองในเวลางาน
เราว่ามันไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่นะคะ
ยิ่งถ้ามีแค่คุณคนเดียวที่มีปัญหานี่ฟังไม่ขึ้นเลยค่ะ
ถ้ารู้สึกอึดอัดใจกับการทำงานแบบนี้ ลาออกง่ายกว่าค่ะ
..........................................................................
อ่านแล้วไม่รู้สึกว่าบริษัทละเมิดหรือเอาเปรียบอะไร ถ้าบริษัทเรามีแบบนี้บ้างเราก็ยินดีปฏิบัติตาม
เช็คอินทุก 1 ชั่วโมงครึ่ง ให้โอกาสเลทได้อีก 10 นาที ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย
เพิ่งรู้ว่าคนอื่น WFH มีออกไปเดินห้าง ออกไปซื้อกาแฟด้วย (O_o)
เราไม่ออกไปไหนเลย เค้าให้ทำงานที่บ้านก็คืออยู่บ้านจริงๆ ในเวลางาน
ไปไกลสุดคือเดินไปรั้วบ้านไปรับ grab / lineman ที่สั่งอาหารเครื่องดื่มมา
เราว่างานเราก็งานใช้สมองนะ ไม่ใช่งานใช้แรงงาน 555
..........................................................................
เขาอุส่าห์ให้ wfh ลดความเสี่ยง จขกทดันอยากไปทำงานนอกล้านเพิ่มความเสี่ยงให้ตัวเองซะงั้น
..........................................................................
WFH แต่อยู่ทะเล และไม่คิดว่าตัวเองทำผิด
ถามจริง?
..........................................................................
อะไรคือเวลางาน นายจ้างให้เชคอิน อยากไปนั่งทะเล บ้าไปแล้ว ตรรกกะนี้
เขา WFH เพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด
ไม่ได้หมายความว่าจะให้คุณไปเที่ยวทะเล
แล้วทำงานได้
ในเวลางาน นายจ้างให้เชคอิน ทุก 90 นาที ไม่ใช่การระเมิด อะไรเลย
ยกตัวอย่างเคส รปภ. ยังได้ ต้องเชคอินจุดทำงาน ทุก ๆ เวลาที่กำหนดอะไรก็ว่าไป
..........................................................................
จขกท.เข้าใจความหมายของการ WFH ไหมครับว่ามีจุดประสงค์เพื่ออะไร ???
..........................................................................
ควรลาออก ไม่ควรทำงานที่นี่ เพราะแนวคิด จขกท. กับนโยบายบริษัทมันสวนทางกัน
ให้อิสระตัวเองไปสมัครบริษัททีถูกใจตัวเองดีกว่านะ จะได้ทำงานอย่างสบายใจ
..........................................................................
พอมาเห็นกระทู้แบบนี้
ถึงได้รู้ว่า ยังมีคนที่ไม่เข้าใจคำว่า WFH อยู่จริงๆ
ลองเอาใจเขาใส่ใจเราดูบ้าง
ลองมองแบบเจ้าของบริษัทบ้าง แค่จะให้บริษัทผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ยังเทียบจะกระอักเลือด แล้วมายังเจอความคิดพนักงานที่จ้องจะเอาเปรียบบริษัทอยู่ฝ่ายเดียว
เวลางานที่บริษัทใช้เงินซื้อคุณมา ยังอุตส่าห์จะออกไปหาความสำราญด้วยข้ออ้างไร้สาระ แหม..อ่านแล้วจุกแทนเจ้าของบริษัทจริงๆ
หวังว่าเนื้อหาที่จขกท.โพสต์นี้ คงป็นแค่ story แต่งขึ้นมาเพื่อสร้างจิตสำนึกและให้พนักงานได้เห็นความคิดเห็นของคนอื่นๆที่มีต่อ WFH ได้อย่างถูกต้องนะครับ
..........................................................................
.
ซึ่งในที่สุด เจ้าของกระทู้ก็มาคอมเมนต์เพื่อทำการปิดกระทู้โดยให้เหตุผลดังนี้
.
/// ขอปิดกระทู้ค่ะ ไม่มีใครเข้าใจจุดประสงค์ที่เราโดนเอาเปรียบอยู่เลยและเราเชื่อว่าคนอื่นก็โดนเอาเปรียบอยู่เช่นกันค่ะ ///
1. มือถือของบริษัทที่ให้ใช้ เราเองใช้เหลือเครื่องเดียว เพราะเดี๋ยวนี้เครื่องก็ใหญ่ แต่มือถือใส่ 2 ซิมได้ เราเลยเอามาใช้ค่ะ ทางบริษัทก็อนุญาติ เมื่อก่อนจะใช้งานทางมือถือต้อง VPN แต่ตอนนี้น้องที่ทำงานไปให้ IT Support ลงแอพ โดนลงอะไรไม่รู้มาด้วยจน iPhone แจ้งเตือนเลยค่ะ หน้าจอตอน Lock เครื่องก็มีเตือนว่าเครื่องถูกจัดการโดยบริษัทเรา
2. นโยบาย WFH เมื่อก่อนบริษัทเราใช้มานานแล้วค่ะ โดยวันศุกร์บริษัทเราเรียก Happy Friday ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ ให้ WFH โดยทำงานที่ไหนก็ได้ และส่วนใหญ่เราก็กลับบ้านหรือไปเที่ยว โดยออกเดินทางวันพฤหัสตอนเลิกงานและวันศุกร์เราก็ทำงานที่โรงแรมก่อนออกไปเที่ยวค่ะ โดยที่เราไม่ทิ้งงาน เรารู้อยู่ว่าช่วงไหนยุ่ง ช่วงไหนว่าง เรายังเคยไปฮ่องกงโดยบินออกจากไทยค่ำวันพฤหัส วันศุกร์ทำงานที่โรงแรมในฮ่องกง แล้วค่อยออกไปเที่ยว วันอาทิตย์ดึกๆ เราบินกลับมา วันจันทร์เราเข้างานปกติเลย ถ้าเป็นช่วง COVID รอบแรกบริษัทเราก็ไม่ได้มีข้อจำกัดอะไรมากกว่านี้ และรอบ 2 เราก็หยุดตั้งแต่ตอนนั้น ไม่ได้เข้าออฟฟิศเลย แต่ผ่านไปหลายเดือน เป็นปี เพิ่งจะมาเปลี่ยนระบบ เพราะอะไรเราก็ไม่รู้ค่ะ
3. เราทำงานจากที่บ้าน ทำงานมากกว่าเดิมอีก ปกติก็เข้าออฟฟิศแค่วันจันทร์ถึงวันพฤหัส วันศุกร์ก็เช็ค Email และทำงานแค่ช่วงเช้า แต่ตอนนี้เราทำงานจันทร์ถึงศุกร์แบบเต็มวัน เพราะ Zoom กันตลอด ถ้าติดต่อไม่ได้ก็ส่ง Teams มา ไม่งั้นโดนโทรตาม ช่วงหลังนี่วันเสาร์-อาทิตย์เราก็เช็ค Email และตอบกลับด้วยค่ะ เพราะสงสารน้องฝ่ายขาย ทางเค้าอยู่ได้ด้วยค่าคอม ทางบริษัทก็ยอดขายตกต่ำ
4. การเช็คอินตามที่อยู่ที่ให้กับ IT Support เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวหรือไม่คะ ตัวเราเองเราไม่อยากบอกที่อยู่กับคนแผนกอื่นหรือคนไม่สนิทค่ะ และต้องมาบอกกับ IT Support เนี่ยนะค่ะ ถ้าทาง HR จัดการให้ยังสบายใจได้บ้าง รวมไปถึงการต้องลงแอพบริษัท แอพนี้ลองค้นใน App Store แล้วไม่มีค่ะ แสดงว่า Apple ไม่ยืนยันความปลอดภัย คำถามคือมีความปลอดภัยมากพอไหม ทำไมน้องที่ทำงานเอาเครื่องไปให้ IT จัดการแล้ว iPhone ขึ้นเตือนเลย ปกติก็ไม่เตือนนะคะ ตรงจุดนี้เรากังวลมาก เราจะเอาเครื่องเก่าไปให้ลงก็ไม่ได้ ตอนแรกเราคิดว่าลงกับเครื่องเก่าของเราเอง และวางไว้บ้าน ใครคนในบ้านช่วยกดเช็คอินให้ แต่ทางบริษัทยืนยันว่าจะลงกับเครื่องบริษัทที่ใช้ติดต่องานเท่านั้น มันเหมือนกับเราถูกล่ามโซ่ไว้กับบ้านตลอดเวลาค่ะ
5. เราไม่สนใจหรอกนะคะว่าเราจะเติบโตในบริษัทได้ไหม เพราะทุกวันนี้คนที่ให้เงินเราใช้คือพ่อ-แม่ค่ะ เราทำงานให้บริษัทด้วยเงินเดือนอันต่ำเตี้ยติดดิน ค่ากินค่าเที่ยวก่อนหน้านี้ยังไม่พอใช้เลยค่ะ (อายุ 29 แล้วเงินเดือนยังไม่ถึง 60k เลยค่ะ) รถเราใช้ที่บ้านก็ซื้อให้ คอนโดที่อยู่ที่บ้านก็ซื้อไว้ตั้งแต่เราเรียนค่ะ ทางบ้านเราอยากให้ทำงานเอาประสบการณ์เฉยๆ ค่ะ เราไม่คิดจะเติบโตในบริษัทอยู่แล้วค่ะ เราคิดว่าสัก 35 ถ้าเราไม่มีแฟนเราก็คงไม่อยู่ที่บ้านแล้วค่ะ ที่บ้านทำฟาร์ม อยู่สบายๆ ค่ะ ใครเชียร์ให้ลาออก เราคงไม่ค่ะ เราตัดสินใจแล้ว เราจะไม่เอาเครื่องไปให้ลง แล้วดูว่าบริษัทจะจ้างเราออกเท่าไหร่ค่ะ เผื่อจะได้สบายขึ้น พ่อ-แม่ก็เป็นห่วง ไม่อยากให้ไปกรุงเทพค่ะ
ขอบคุณคนที่เข้าใจนะค่ะ ส่วนคนที่ไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไรค่ะ อ่านไปก็ขำไปที่บอกให้ลาออกค่ะ เราไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินอะไรเลย เราขอปิดกระทู้ ขอไปบ่นในเฟสดีกว่าค่ะ
.
ต่อเนื่องด้วย
ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้เราต้องเอาเงินเดือนบางส่วนให้น้องที่เป็นญาติกันที่เค้าได้รับผลกระทบจาก COVID เราออกไปนานแล้วค่ะ ไปอยากเสี่ยงมาทำงานในกรุงเทพ ถ้าเป็นอะไรก็ไม่คุ้มเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
..........................................................................
.
.
และหลังจากนั้นก็ยังมีผู้ตอบคอมเมนต์ในกระทู้นี้อีกมากมาย โดยส่วนใหญ่แล้วมีความคิดเห็นไปในเชิงตรงกันข้าม หรือคอมเมนต์เตือนสติเจ้าของกระทู้อีกมากมาย เช่น
.
รู้เลย กฎนี้ออกมาเพราะใคร ต้องการดักคนแบบไหน
..........................................................................
จขกท.เข้าใจไหมคะว่าเค้าให้ wfh เพื่ออะไร
รัฐบาลขอความร่วมมือให้ wfh เพื่ออะไร
คงไม่รู้หรอก บอกให้แล้วกัน
ก็เพื่อลดการกระจายเชื้อ
การลดการกระจายเชื้อก็ต้องอยู่กับที่ ไม่ใช่ร้านกาแฟ หรือทะเล
คุณลองพยายามมีจิตสาธารณะดูบ้าง แล้วคุณจะเข้าใจ ว่าทำไมการ wfh ถึงต้องเช็คโลเคชั่นกันบ่อยๆ
เค้าไม่ได้ตรวจสอบการทำงานของคุณ เค้าตรวจสอบการเดินทางของคุณต่างหาก แล้วคุณก็ยังเรียกร้องที่จะเดินทางไปไหนๆในเวลางานเนี่ยนะ?
..........................................................................
ที่ต้องให้เช็คอินก็เพราะพนักงานแบบคุณเนี่ยแหละ ยังไม่รู้ตัวอีก
หางานใหม่ได้ บริษัทเขาคงไม่ได้เดือดร้อน
อ้างอิงจาก: เพจ : Thailand Vision