ถ้าไทยไม่มีแผนรับมือการระบาดโควิดระรอกใหม่ ก็ลองลอกการบ้านคนอื่นบ้างก็ได้นะ

บอกตามตรงว่าสงกรานต์ปีนี้เป็นอะไรที่น่าละเหี่ยใจกว่าปีที่แล้วมาก  เรามีประสบการณ์จากโควิดปีที่แล้ว แต่ก็ดูเหมือนรัฐบาลจะไม่กล้าที่จะตัดสินใจทำอะไร ดูละล้าละลัง ไม่เด็ดเดี่ยวเหมือนตอนด่าฝ่ายค้าน อยู่ดีดีก็ไม่มีความกล้าหาญเหมือนตอนตำหนิผู้อื่นออกสื่อ และไม่มีจริงใจต่อการแก้ไขปัญหาเอาแต่โทษประชาชนกว่าการ์ดตก วัคซีนก็ยังไปไม่ถึงไหน แผนการจัดการก็ผิดพลาดตั้งแต่ที่ไม่เข้าร่วมโครงการของ UN มิหนำซ้ำ ยังไม่มีแผนรองรับทางด้านเศรษฐกิจอีกเพราะแบบนี้หรือป่าว ถึงไม่กล้าตัดสินใจเด็ดขาดในการควบคุมโรคระบาด ถ้ามีแผนงานที่ดีมากกว่านี้ป่านนี้ก็เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาเที่ยวได้แล้ว

เอาเป็นว่าถ้าคิดเองไม่เป็นก็ลองชะโงกดูนานาอารยะประเทศก็ได้ ว่าเขาไปถึงไหนแล้ว แต่ถ้าไม่มีเวลา เรารวบรวมมาในกระทู้นี้แล้ว
---------
เปิดข่าวแรกที่ประเทศมัลดีฟส์ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว เนื่องจากประเทศนี้พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลักแทบจะทั้งหมด รัฐบาลก็ใจถึง บอกว่าใครมาเที่ยวมัลดีฟส์ยาวๆ รัฐฉีดวัคซีนไปให้ด้วยเลย คนละ 2 โดส

รมว.ท่องเที่ยวมัลดีฟส์ประกาศเตรียมฉีดวัคซีนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเช้าประเทศ ผ่านโครงการ 3V คือ Visit, Vaccinate และ Vacation นักท่องเที่ยวจะได้รับวัคซีนคนละ 2 โดส ซึ่งหมายความว่าจะต้องอาศัย ท่องเที่ยว และใช้จ่ายในมัลดีฟส์นานหลายสัปดาห์ ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทาง

https://www.thebangkokinsight.com/597106/
---------

ต่อกันด้วยประเทศอิสราเอล ที่บอกประชาชนไม่ต้องสวมหน้ากากแล้วเราเอาชนะโควิดได้แล้วนะทุกคน

เว็บไซต์เดอะไทม์ออฟอิสราเอล สื่อท้องถิ่นของประเทศอิสราเอลรายงานเมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมาระบุว่ารัฐบาลอิสราเอลได้ประกาศ "ยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากอนามัยในที่เปิดสาธารณะ" ลงแล้ว เริ่มต้นในวันที่ 18 เมษายนนี้ หลังจาก รัฐบาลฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไปแล้วกว่าครึ่งประเทศ ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อลดลงเหลือเพียงหลักร้อยคน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเวลานี้เกิดสภาวะ "ภูมิคุ้มกันหมู่" ขึ้นแล้ว

https://www.matichon.co.th/foreign/news_2676984

---------

การแสดงให้เป็นถึงภาวะผู้นำของญี่ปุ่นในการจัดการปัญหา และเครดิตอันแข็งแกร่งของญี่ปุ่น

นายโยชิฮิเดะ ซุงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เรียกร้องให้ไฟเซอร์ ผู้พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 จากสหรัฐอเมริกา เพิ่มปริมาณการส่งมอบวัคซีน หลังญี่ปุ่นกำลังกลายเป็นชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่รั้งท้ายความคืบหน้าการฉีดวัคซีนให้ประชาชนเมื่อเทียบกับนานาชาติ

https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_6342673
---------

เมื่อหันกลับมามองนายกของไทย
ไม่ล็อคดาวน์นะ เจ็บกันมากพอแล้ว ส่วนวัคซีนก็ติดต่อซื้อวัคซีนตามที่บอกไปแล้วนะ ติดต่อไปแล้ว ขายไม่ขายอีกเรื่องหนึ่ง ที่ตอนนั้นไม่ได้ติดต่อเพราะต้องไปร่วมลงทุนกับเขาด้วยไง ซึ่งมันมูลค่ามหาศาล โชคดีที่ทางแอสต้า สำเร็จ เป็นโครงการต่อเนื่อง เป็นโชคดีของเราเช่นกัน

ท่านทั้งหลายอ่านแล้วก็พิจารณาเอาเถิดดดด จริงๆ  อยากทำอะไรได้มากกว่าการล้างมือ ใส่แมส และไม่ออกไปไปที่แอดอัด และการสวดมนต์
"ประชาชนอยากได้วัคซีนนะท่าน"