สุชาติ เตือนแรงงานต่างด้าว เร่งตรวจโควิด จัดเก็บอัตลักษณ์ ให้แล้วเสร็จก่อน 16 เมษายน 64
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากการเปิดลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบทำงานผิดกฎหมายในประเทศไทย ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 29 ธันวาคม 2563 เปิดลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ไปแล้วตั้งแต่ 15 มกราคม – 13 กุมภาพันธ์ 2564 ปรากฎมีแรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียนจำนวน 654,864 คน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานเมียนมามากที่สุด 384,077 คน รองลงมาเป็นแรงงานกัมพูชา 203,679 คน และลาว 67,108 คน
จากจำนวนคนต่างด้าวที่ลงทะเบียน 654,864 คน ได้รับอนุมัติบัญชีรายชื่อจำนวน 599,201 คน หรือร้อยละ 91.5 ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนดำเนินการอยู่ระหว่างการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 และการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล (Biometrics) ผลดำเนินการปรากฎว่า คนต่างด้าวจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคลแล้ว จำนวน 209,985 คน หรือร้อยละ 32.07 ผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จำนวน 25,546 คน หรือร้อยละ 3.9 และได้รับอนุญาตทำงาน จำนวน 25,536 คน หรือร้อยละ 3.9 ขอย้ำนายจ้าง/สถานประกอบการ พาแรงงานต่างด้าวไปจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคลฃและตรวจหาเชื้อโควิด-19 เนื่องจากเหลือเวลาอีกเพียง 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งหากไม่ดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 16 เมษายน 2564 และดำเนินการต่อในขั้นตอนถัดไปตามระยะเวลาที่กำหนด จะทำให้มีสถานะเป็นแรงงานผิดกฎหมาย
ด้านนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาวและเมียนมา และผู้ติดตาม สามารถเข้ารับการตรวจโรคโควิด-19 กับสถานพยาบาล หรือหน่วยงานอื่นตามรายชื่อห้องปฏิบัติการเครือข่ายตรวจ SAR-CoV-2 ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ประกาศและขอย้ำเตือนคนต่างด้าวทั้งที่มีนายจ้าง และยังไม่มีนายจ้าง เร่งนัดหมายเข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด–19 และซื้อประกันสุขภาพกับสถานพยาบาลของรัฐ (เป็นระยะเวลา 2 ปี) พร้อมทั้งดำเนินการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล (Biometrics) กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 16 เมษายน 2564 โดยอย่ารอดำเนินการช่วงใกล้สิ้นสุดระยะเวลา เนื่องจากเดือนเมษายนมีวันหยุดตามเทศกาลสงกรานต์ติดต่อกันหลายวัน ซึ่งอาจทำให้นายจ้างและแรงงานต่างด้าวเองติดขัดหรือเกิดความไม่สะดวกในการดำเนินการ ทั้งนี้ ในส่วนการตรวจโรคต้องห้ามหากมีเหตุให้ดำเนินการไม่ทัน ภายในวันที่ 16 เมษายน 2564 ให้ไปดำเนินการให้แล้วเสร็จ ไม่เกินวันที่ 18 ตุลาคม 2564
อ้างอิงจาก: สำนักประชาสัมพันธ์เขต 7 กรมประชาสัมพันธ์