โควิด 19 คร่าชีวิต ชายคนสุดท้ายของเผ่า "จูมา" ในป่าอเมซอน
เป็นที่น่าเสียใจ เมื่อสมาชิกชายคนสุดท้ายของขนเผ่าพื้นเมืองในอะมะซอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อจากเชื้อ โควิด 19 ต่อไปนี้คงเหลือเพียงสมาชิกหญิงเพียง 3 คน และคงสิ้นการสืบเชื้อสายเผ่า 'จูมา' ในป่าอะมะซอน
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา อินดีเพนเดนท์ ได้รายงานว่า นายอารูคา จูมา หัวหน้าเผ่าจูมา ได้เสียชีวิตลง เนื่องจากภาวะแทรกซ้อนหลังจากการติดเชื้อโควิด 19 เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ในโนโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในบลาซิล
จากรายงานพบว่าวิกฤตโคโรนาไวรัสได้ส่งผลกระทบต่อคนพื้นเมืองในอะมะซอนอย่างหนักซื่งเชื่อกันว่าการเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากคนนอกพื้นที่ ที่ไม่ใช่ชนเผ่าพื้นเมืองนั้นได้เข้ามาเพื่อดำเนินกิจกรรมที่ผิดกฎหมายต่างๆ เช่นการตัดไม้ในป่า การขุดแร่เถื่อนเป็นต้น
การเสียชีวิตของนายอารูคา ความสูงประมาณ 85-90ปี ในครั้งนี้จึงกลายเป็นการสิ้นสุดของเชื้อสายชนเผ่าจูมา เพราะนับจากนี้คงเหลือเพียงแค่ลูกสาวทั้ง 3 คน ของนายอารูคาเท่านั้น และแต่ละคนไม่สามารถสืบเชื้อสายของเผ่าได้ เนื่องจากแต่ละคนได้ไปแต่งงานกับผู้ชายชนเผ่าอื่นแล้ว และพวกเธอยังไม่สามารถที่จะ สืบทอดวัฒธรรม ประเพณีต่างๆ ที่จะต้องถูกส่งผ่านจากพ่อลูกเท่านั้น
การจากไปครั้งนี้ทางสำนักงานอัยการแห่งรัฐรอนโดเนียได้แถลงไว้อาลัยการจากไปของหัวหน้าดผ่าจูมาคนสุดท้าย โดยรบุว่า "ในช่วงกลาง ทศวรรษ 1960 ชนเผ่าจูมาเกือบจะสูญสิ้นเผ่าพันธ์จาก การถูกสังหารหมู่ โดยคนคนภายนอกที่เข้ามากรีดยาง, ตัดไม้ และทำการประมงในเขตแดนของพวกเขา ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัสซัวในคานูตามา อารูคา เป็นชานคนสุดท้ายของดผ่าที่ยังมีชีวิตรอด เขามีบุตรสาว 3 คน ซึ่งถือเป็นผู้หญิงกลุ่มสุดท้ายของชาติพัรธุ์ ได้แก่ "มันเด จูมา, ไมตา จูมา, โบเรฮา จูมา"
ทางด้านกลุ่มสนับสนุนสิทธิของชนพื้นเมืองได้กล่าวว่า ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาลู ได้ปฎิเสธความร้ายแรงของโควิด -19 และขาดแนวทางการควบคุมโรคระบาดที่ไร้ผล บวกกับความท้าทายในด้านภูมิศาสตร์ ทำให้ความอยู่รอดของชนเผ่าพื้นเมืองเหล่านี้กำลังตกอยู่ในความเสี่ยง
ที่มา: independent / dailymail