เชียงใหม่และภาคเหนือเตรียมรับมือ!! ผลกระทบจากฝุ่นแลควันพิษ
ตั้งแต่ ก.พ.-เม.ย. เป็นช่วงที่มีการเผาป่าและเศษวัสดุทางการเกษตร ทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ผนวกกับสภาพอากาศไม่ถ่ายเท ทำให้มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และผู้ป่วยติดเตียง เสี่ยงเจ็บป่วยเพิ่มขึ้น
นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัจจุบันสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ จึงมีข้อสั่งการลงไปยังสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทุกแห่ง ให้ เตรียมความพร้อมในการดูแลสุขภาพประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อจากฝุ่น PM2.5 พร้อมลงพื้นที่ให้ความรู้คำแนะนำการป้องกันตัว และการดูแลสุขภาพของประชาชน
พร้อมแนะนำให้ประชาชนป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด ดังนี้
1. สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง เมื่อเดินทางออกไปข้างนอก หรือต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง กรณีกลุ่มเสี่ยงคือ กลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังและผู้ป่วยติดเตียงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มโรคทางเดินหายใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพื่อขอรับหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองได้ที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใกล้บ้าน
.
2. หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในพื้นที่ที่มีระดับค่า ฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน คือ 51 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์เมตร โดยติดตามค่า PM 2.5 จากแอฟพลิเคชั่นของ Air4Thai และแอฟพลิเคชั่น AirCMI สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นทุกครั้งที่จำเป็นต้องไปในพื้นที่เสี่ยง
3. ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท ทำความสะอาดอาคารที่อยู่อาศัย ติดตั้งอุปกรณ์ลดฝุ่นละอองภายในบ้าน หรืออาคารที่พักอาศัย รวมถึงประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถเข้าไปใช้บริการห้องปลอดฝุ่นที่หน่วยบริการใกล้บ้าน อาทิ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการจัดเตรียมห้องปลอดฝุ่นประจำตำบลได้
4. ให้ดูแลกลุ่มเสี่ยงอย่างใกล้ชิด หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ ได้แก่ อาการหายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจมีเสียงวี๊ด ไอบ่อย แน่นหน้าอก แสบตา ผิวหนังมีผดผื่นแดง และประชาชนทั่วไป หมั่นสังเกตอาการ และกลุ่มเสี่ยงควรดูแลตนเองอย่างใกล้ชิด หากพบความผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ หรือสอบถามที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน
โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานอนามัยสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โทร. 053-211-048-50 ต่อ 124
หมายเหตุ : ข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่
อ้างอิงจาก: ข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่, ศูนย์พัฒนาการสื่อสารด้านภัยพิบัติ