[รีวิวว่าที่หนังไทยแห่งปี2021] ONE FOR THE ROAD - เวอร์ชั่นSUNDANCE (ไม่สปอยส์เนื้อหาสำคัญ)

.
.
.

ฟังรีวิวเต็มๆได้ในคลิป
.
.
.
[เรื่องย่อคร่าวๆ]
หนังเล่าเรื่องราวของ “บอส” บาร์เทนเดอร์หนุ่มหน้าตาดีในมหานครนิวยอร์กที่มีชีวิตน่าอิจฉาและมีสาว ๆ รุมล้อมมากมาย แต่แล้วในคืนหนึ่ง เขาได้รับโทรศัพท์จาก “อู๊ด” เพื่อนที่ห่างเหิน โทรมาแจ้งข่าวร้ายว่าเขากำลังจะตายด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และขอให้บอสกลับเมืองไทย ทั้งคู่ได้ออกเดินทางในไทยร่วมกันอีกครั้งเพื่อย้อนความหลัง และนำสิ่งของไปคืนให้บรรดาแฟนเก่าของอู๊ด แต่บอสไม่ได้รู้ความจริงทั้งหมดและความลับที่อู๊ดปกปิดบอสไว้มานาน อาจทำให้ความเป็นเพื่อนรักของทั้งคู่ต้องจบลง
.
One for the Road นำแสดงโดย ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร รับบสเป็นบอส, ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ รับบทเป็นอู๊ด, พลอย หอวัง, หญิง-รฐา โพธิ์งาม จาก Only God Forgives (2013), นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา จาก เพื่อนสนิท (2547), วิโอเลต วอเทียร์ จาก พรจากฟ้า (2559) และ ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง จากฉลาดเกมส์โกง
.
หนังน่าจะเข้าไทยช่วงกลางปี - ปลายปี 2021 ครับ
.
.
ความรู้สึกแรกกับ “ONE FOR THE ROAD” [SUNDANCE VERSION] – ไม่สปอยส์
.
.
1. ตอบตรงๆว่าที่เห็นเสียงแตกในบรรดาหมู่นักวิจารณ์ เพราะนี่ไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน
แต่สำหรับใครก็ตาม ที่มีเรื่องบางเรื่องที่เก็บซ่อนไว้อยู่ในใจ
แม้เบื้องหน้า ชีวิตอาจดูเรียบง่าย ไหลFlow แต่เบื้องลึกเบื้องหลังความสัมพันธ์เหล่านั้น
กลับมีทั้งความยุ่งเหยิง ซับซ้อน สับสน ปนเป ซ่อนอยู่
และเมื่อบาดแผลอย่างน้อยหนึ่งรอยถูกเปิดออก ความสัมพันธ์ที่เคยมีในเบื้องหน้า ก็อาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
.
2. ONE FOR THE ROAD ในที่นี้ นอกจากหมายความว่า “แก้วสุดท้ายก่อนกลับบ้าน”
อีกนัยนึงก็คงจะบอกว่านี่คือ “ห้วงคำนึงครั้งสุดท้าย ก่อนจะจากกัน”
.
3. หนังเรื่องนี้มีกลิ่นของความเป็นฮาวทูทิ้ง (มีคืนของให้แฟนเก่าเหมือนกัน)
แต่ถูกเล่าด้วยสไตล์จัดจ้านอย่างผู้กำกับฉลาดเกมส์โกง ดังนั้น มีของแน่ๆ
เชื่อไหม เลเวลความบาดลึกเข้าไปในหัวจิตหัวใจนี่ บอกเลยว่าไม่แพ้กัน คือ หว่องมาก หน่วงมาก ดูจบแล้วค้างไปเลย
(ถ้าดูในโรงก็เชื่อว่าจะนั่งคาเบาะฟังเพลงเพราะๆในEnd Creditไปเรื่อยๆ)
.
4. และในเมื่อลุงหว่องโปรดิวซ์หนัง กลิ่นอายความหว่อง ก็มาเต็ม สัมผัสได้จากหลายๆซีน
แม้เราไม่ใช่แฟนหนังหว่อง แต่พักหลังที่ได้ไปตามเก็บหนังหว่อง ก็เห็นบางอารมณ์และบางฉาก ที่ยังมีลายเซ็นต์เหล่านั้นอยู่
.
5. ไม่ได้จะอวยหนังนะ แต่ใครจะด่าชมยังไงก็แล้วแต่ เราบอกได้แค่ว่า
สำหรับเรา ถ้าพูดถึงระดับมาตรฐานของหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะด้วยการเล่าเรื่อง การถ่ายทำ โลเคชั่น วิชวล รวมไปถึงนักแสดงหรือองค์ประกอบอื่นๆ นี่คือผลงานของผู้กำกับไทย (พี่บาส พูนพิริยะ,ฉลาดเกมส์โกง,เคาต์ดาวน์) ที่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ถือว่าพาผลงานก้าวเลยคำว่ามาตรฐานหนังไทยไปไกล เรียกได้ว่า Professional ในระดับสากล สามารถยืนสง่าในเวทีเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลกอย่างซันแดนซ์ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ อันนี้พูดจริงๆ
.
6. งานด้านภาพ วิชวลสวย งานอาร์ตมาเต็ม งานจัดแสงเป๊ะมาก
คือบางช๊อตก็สวยราวกับเนรมิตได้เหมือนหนังโฆษณาบรั่นดีไฮโซ ซึ่งนั่นก็อาจเป็นปัญหาสำหรับคนดูหนังบางคน
ที่มองว่า ภาพมันสวยล้ำเกินไปไกลแล้ว แต่เราไม่ติดนะ เพราะด้วยความที่พักหลังดูหนังญี่ปุ่น หรือหนังอื่นๆที่ถ่ายเนี๊ยบๆ
มีวิชวลภาพสวยๆ จัดแสงดีๆ แต่ถ้าตราบใดมันยังไม่กวนใจเส้นเรื่องมากเกินไป เราก็รับได้
(แต่งานด้านภาพฉากเปิดเรื่อง ฉากเปิดตัวน้องต่อในฐานะบาร์เทนเดอร์พร้อมชื่อเครดิตผู้กำกับ บอกเลยว่า A MUST SEE เลยแหละ ของมันโคตรได้อ่ะพี่!!!)
.
7. เป็นอีกครั้งในรอบหลายปีมากๆที่มีหนังไทยถ่ายในNEW YORK จนเห็นจิตวิญญาณภายใน
คือ ถ้าจะมีหนังไทยที่ดำเนินเรื่องในนิวยอร์กแล้วรู้สึกว่าน่าจดจำ
คงจะมีหนังรักอย่าง “กุมภาพันธ์” ไปเลย แต่เรื่องนี้ ถึงแม้ว่าเจ้าของโปรเจคอาจไม่ใช่ไทย
แต่ด้วยความที่เป็นหนังพูดภาษาไทย ผู้กำกับ และทีมงานไทย เราก็ขออนุมานไปก่อนว่าเป็นหนังไทยอีกเรื่อง
ซึ่งตัวหนังเลือกใช้โลเคชั่นในนิวยอร์กตัดสลับกับไทยเป็นระยะ และเห็นได้ชัดว่าฟากนิวยอร์กคือแสงสวยแทบทุกช๊อตแบบไม่ต้องพยายาม ส่วนฉากในไทย ก็มีโลเคชั่นที่คุ้นเคยปรากฏมาบ้าง แต่ชอบในวิชวลที่เขาพยายามจะหามุมมอง มุมกล้องใหม่ๆมาเล่า และก็ทำได้ดี
.
8. ส่วนที่บอกว่า ถ่ายติด “จิตวิญญาณ” นิวยอร์กเนี่ย
เราหมายถึงผู้คนนะ เราว่าชีวิตคนในนิวยอร์ก มันมีเสน่ห์บางอย่าง ที่ลื่นไหลไปกับบรรยากาศเมือง
และเรื่องนี้ก็ทำถึง มันไม่ใช่แค่มีบาร์เทนเดอร์มาชงเครื่องดื่ม ที่มีชื่อเมนูเป็น NEW YORK SOUL
แต่เรื่องนี้ทำให้เห็นว่า รสชาติชีวิตหวานขมแบบนี้แหละ ที่ทำให้การมีอยู่ของสถานที่ที่พวกเขาพบกัน สนิทกัน ดราม่ากัน กลายเป็นความทรงจำที่ตราตรึงพวกเขาเอาไว้ตราบจนนาทีสุดที่ยังมีกันและกันอยู่
.
9. งานคอสตูมดีงาม ไม่แพ้ฉลาดเกมส์โกง มีความวินเทจ และมีความ NEW YORKER ชอบ
.
10. คนที่ชอบไปบาร์ หรือชอบสั่งDrinkมาดื่ม อาจHypeได้เป็นพิเศษ เหมือนว่านี่คือหนังของพวกคุณเลยแหละ
รวมถึงคนที่เคยมีประสบการณ์ช่วงนึงที่เมืองนอก เรื่องนี้อาจพาคุณไปรำลึกความหลังบางอย่างก็ได้
.
11. เออ ไม่น่าเชื่ออีกเรื่อง คือเรื่องนี้ มีคนเขียนบทสามคน มีพี่บาส พี่ไก่ แล้วก็โรส พวงสร้อย
คือฉากที่เป็นพี่บาส ก็น่าจะเป็นภาพรวมแหละมั้ง แต่บางฉากคือมีความเป็นพี่ไก่ และบางฉากก็เวรี่ๆๆๆๆพวงสร้อยเลยอ่ะ
(อันนี้ชมนะ ซึ่งฉากที่คิดว่าเป็นพวงสร้อย เราขนลุกเลยอ่ะ ร้องเหยดดดดดด ระหว่างดูเลย ไม่บอกว่าฉากอะไร แต่มาช่วงกลางเรื่อง)
.
12. ดนตรีประกอบของหัวลำโพงก็มานะ แต่สำหรับเราถือว่ายังไม่โดดเด่นมากเท่ากับเพลงที่ถูกนำมาใช้ในหนังเรื่องนี้ ซึ่งใครจะรู้สึกขัดตาอาจมีได้บ้าง เพราะบางทีก็เป็นเพลงฝรั่งแต่ฉากอยู่ในไทย แต่ถ้าลองเปิดใจสักหน่อย จริงๆเพลงเหล่านั้นคือโคตรดี โคตรตำนานทั้งนั้นเลย เพียงแต่อาจได้ยินผ่านหนังเรื่องอื่นมาบ้างเท่านั้นเอง (ค่าลิขสิทธิ์น่าจะอ่วมเลยแหละ แต่พอใช้เพลงเหล่านี้ บางทีอาจยกให้หนังดูมีความเป็นสากลมากขึ้นก็ได้นะ พอมันอยู่ในจุดที่ถูกที่ถูกเวลา)
.
13. บางคนบอกไม่ชอบครึ่งหลัง แต่เราโอเคเลยนะ ไม่ติดเลย เราดันมีคนที่มีความคล้ายตัวละครในเรื่อง
และโคตรอยากพามาดูเรื่องนี้ด้วยเลย ใบ้ให้นิดหน่อยว่า หนังมันพูดถึงด้านมืดในจิตใจของมนุษย์
ความเห็นแก่ตัวของคนเราที่มันฝังรากลึกจนบางครั้ง แม้แต่ตัวเราก็อาจไม่รู้หรอกว่ามันเป็นสันดานไปแล้ว
จวบจนนาทีสุดท้ายของชีวิต เหมือนกับเราเมามาทั้งชีวิต แล้วเพิ่งสร่างมาคิดได้ แต่กลายเป็นว่าไม่รู้ถึงวันนั้น
จะมีใครสักกี่คนที่ยังคงหลงเหลือเคียงข้างเราอยู่ จริงๆนะ โลกเรามันมีคนเห็นแก่ตัวที่ไม่รู้ตัวว่าเห็นแก่ตัวอยู่
และพวกเขาทั้งหลายโคตรควรมาดูหนังเรื่องนี้สักรอบมากๆ
.
14. ทุกความสัมพันธ์ มันอาจมีเรื่องลวงตาที่เราไม่รู้ตัวซ่อนอยู่
คำถามคือ เราควรต้องเบิกเนตรความจริงเหล่านั้นไหม หากสิ่งที่เรารู้อาจนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตปกติที่เราเป็นอยู่ในวันนี้ เรื่องนี้ก็มีคำตอบและชวนคุยประเด็นนี้ได้ดีทีเดียว
.
15. ทำไมคนดีๆบางคนถึงตกอยู่ในสภาพที่เป็นได้เพียงผู้ร้ายในชีวิตคนอื่น?
เออ นั่นสิ เพราะเรารู้อยู่แก่ใจว่าเราดีไม่จริง ไม่ก็ถึงจุดนึง หากเขาไม่เห็นความดีในตัวเรา
เราอาจไม่เคยดีพอสำหรับเขาเลยก็ได้ (อันนี้ไม่ได้สปอยอะไร แค่รำพึงรำพัน เพราะหนังมันมีPointฟีลนี้ให้ขบคิดเหมือนกัน)
.
16. หนังเรื่องนี้จะตั้งคำถามให้เราชวนคิดว่า “กับความรัก..เราควรพยายามกับมันมากแค่ไหน?”
เราควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ต้องจริงจังให้มาก จะได้ไม่เจ็บปวดมาก
หรือเราควรซื่อสัตย์กับความรู้สึก แม้ว่ามันจะพาเราดำดิ่งจนส่งผลต่อความสัมพันธ์ต่อทั้งสองคนได้ก็ตาม
.
17. มาพูดฝั่งนักแสดงกันบ้าง ต่อ ธนภพ ในบท บอส มาในลุคแบดบอย บาร์เทนเดอร์ ดูอินเตอร์มาก เท่มาก แฟนๆน้องต่อกรี๊ดสลบแน่ ถ้าเห็นฉากบางฉากในหนัง (ไม่บอกด้วยฉากอะไร) และเรื่องนี้ปูแบคดราวน์คาแรคเตอร์น้องต่อได้ดีเลยแหละ
.
18. ไอซ์ซึ ในบทอู๊ด เพื่อนบอสที่ป่วยเป็นมะเร็ง ใกล้จะต้องจากโลกนี้ไป / เล่นลึกดี ชอบเลยแหละ มีมิติที่ลึกซึ้ง รอชิงรางวัลได้เลย
.
19. อาเอก ธเนศ ในบทพ่ออู๊ด (พ่อครูพี่ลินในฉลาดเกมส์โกงนั่นแหละ) มาไม่เยอะ แต่เล่นดี จี๊ดอีกแล้ว
.
20. วี ไวโอเลต ดีงามมาก โคตรมีเสน่ห์ ไม่แปลกใจทำไมฝรั่งชมกันเยอะ คือดูเป็นธรรมชาติสุดในบรรดาทุกตัวละคร และเป็น Secret Weaponชั้นดีให้กับหนัง ส่งให้เข้าชิงรางวัลสาขาสมทบหญิงยอดเยี่ยมได้เลย ส่วนคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ออกแบบ / นุ่น ศิรพันธ์ / หญิง รฐา / พลอย หอวัง รวมถึงน้องเอม ที่มาแจมไม่เยอะ แต่เด็ดดวง เอาเป็นว่า ทุกคนล้วนมาเติมเต็มหนังให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
.
21. สรุปคือ หนังเรื่องที่ 3 ของพี่บาส ดูเติบโตขึ้น มีมุมมองที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก
อาจไม่ใช่หนังดูสนุกแบบฉลาดเกมส์โกง แต่การดำเนินเรื่องก็ยังมีความแมสอยู่ แม้จะมีความหว่องปะปนมาบ้าง
หนังค่อนข้างดำดิ่งในห้วงอารมณ์เลยแหละ ใครไม่ชอบก็อาจจะ reject จากหนังไปเลย
แต่ใครที่ relate กับมันได้ เชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นอีกงานที่จะเป็นหนังที่เปรียบเสมือนบาร์เทนเดอร์
ที่เขย่าเชคเครื่องดื่มรสชาติชีวิต ที่ถ่ายทอดอย่างละเมียดละไมจากฝีมือผู้กำกับอย่างพี่บาส
พร้อมเสิร์ฟให้เราได้ยกซดดื่ม และดำดิ่งไปกับห้วงความรู้สึก และความสัมพันธ์เก่าๆบางเรื่องที่ยังคงติดอยู่ในใจเสมอมา
บางครั้งชีวิตก็ต้องยอมรับว่า มีบางเรื่องที่เราต่างไม่เคยมูฟออนไปได้เลย
ว่าแล้วก็อยากซด One for the Road สักแก้วจริงๆละ
.
หนังน่าจะเข้าไทยช่วงกลางๆไม่ก็ปลายปีนะทุกคน ให้มันไปชิงรางวัล และเข้าฉายตามเทศกาลต่างๆก่อน
ดูๆแล้ว โอกาสที่ต่อไปจะมีผู้กำกับไทยอย่างพี่บาสได้ไปทำหนังในฮอลลีวู้ด ไม่น่าจะเป็นอะไรที่ยากเกินไปแล้วล่ะ
(ถามว่าหนังมีข้อเสียไหม ก็มีบ้างนะ บางไดอ่ะลอคอาจมีปั้นไปบ้าง หรือช่วงท้ายที่ไปจมบางซีเควนนานไปนิด บางจังหวะในเรื่องก็อาจดูยัดดูรีบ แต่ด้วยความที่ภาพรวมหนัง เราซื้ออ่ะ เราเห็นหัวใจของหนังและรู้สึกว่าสัมผัสมันได้ ดังนั้น ที่เหลือก็ ไม่ติดใจอะไรเลย อาจไม่รัก ไม่Hypeเท่าฉลาดเกมส์โกง แต่ก็จี๊ดได้ที่เลยแหละ บางทีหนังเรื่องนี้ก็ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างที่ควรเป็นแล้วก็ได้ อย่างน้อยก็ในความเห็นของเราคนนึงน่ะนะ )