"Project Monaco" ความหวังของคนฮ่องกง
"Project Monaco" ความหวังของคนฮ่องกง
เขตบริหารพิเศษ “ฮ่องกง” กำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของฮ่องกง อาจมีความหวังขยายตัวในปีนี้ หลังมีผู้คนหลายร้อยต่อคิว เพื่อจองห้องชุดของ “โมนาโก” ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัย แห่งแรกของปี 2021 ที่เปิดจองซื้อ
บริษัท “วีล็อก พร็อพเพอร์ตี้ส์” ยักษ์ใหญ่ของผู้ประกอบการ อสังหาฯในฮ่องกง สามารถปิดการขายโครงการ “โมนาโก” ได้แล้ว อาคารที่พักอาศัยขนาด 145 ยูนิต หมดเกลี้ยง ด้วยเม็ดเงิน 1.6 พันล้านเหรียญฮ่องกง ภายในเวลาเพียง 6 ชั่วโมง จากการเปิดให้จอง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา
โดยหลังเปิดให้จอง มีประชาชนถึง 3,700 คน ลงทะเบียนเพื่อจองซื้อห้องชุด ระดับราคาอยู่ระหว่าง 20,368-25,708 ฮ่องกงดอลลาร์ต่อตารางฟุต แถมเป็นการเปิดขายเฟสแรก จากโครงการทั้งหมด 399 ยูนิต ของทั้งโปรเจ็กต์ คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จ ปลายปี 2022
สำหรับโครงการโมนาโก ตั้งอยู่ในย่าน “ไขตั๊ก" เมืองเกาลูน ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งท่าอากาศยานไขตั๊ก ที่ได้ปิดบริการไปตั้งแต่ปี 1998
โฆษกของบริษัท "วีล็อก พร็อพเพอร์ตี้ส์" เปิดเผยว่า ห้องชุดประเภทสตูดิโอ ซึ่งเป็นขนาดเล็กที่สุด มีพื้นที่ 280 ตารางฟุต มีราคา 5.97 ล้านฮ่องกงดอลลาร์ ขณะที่ห้องชุดขนาดใหญ่ที่สุดพื้นที่ 762 ตารางฟุต ราคา 18.89 ล้านฮ่องกงดอลลาร์ โดยมีผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุด ลงทุนไปทั้งสิ้น 37.9 ล้านฮ่องกงดอลลาร์ โดยจองซื้อห้องชุดแบบ 3 ห้องนอนไป 2 ยูนิต และขนาด 1 ห้องนอน 1 ยูนิต
“แซมมี่ โพ” ประธานบริษัท "มิดแลนด์ เรียลลิตี้ โบรกเกอร์" กล่าวว่า มีผู้ซื้อหลายร้อยคนต่อคิวยาว รอบๆอาคารสำนักงาน ไปจนถึงย่านการค้าจิมซาจุ่ย พบว่า 40% เป็นผู้ซื้อเพื่อการลงทุน ส่วนที่เหลือ โดยวางแผนไว้ว่าจะให้เป็น ที่อยู่อาศัยของครอบครัว
เหตุผลสำคัญที่ทำให้โครงการ “โมนาโก” ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากระดับราคาขายต่ำกว่าห้องชุด ในย่านเดียวกันถึง 15-20%
นอกจากนี้ “ทำเลที่ตั้ง” ก็เป็นจุดดึงดูดสำคัญ เนื่องจากเป็นบริเวณที่รัฐบาลฮ่องกง ต้องการพัฒนาให้เป็นศูนย์การค้าธุรกิจ ที่มีระบบเครือข่ายคมนาคมขนส่ง สำนักงานออฟฟิศ และ มีศูนย์การค้ายักษ์ใหญ่ โดยก่อนหน้านี้มีการเปิดบริการท่าเรือสำราญ “ไขตั๊ก ครูซเทอร์มินอล” และเริ่มมีอาคารที่พักอาศัย และศูนย์การค้าเชิงพาณิชย์ ที่ได้เปิดบริการในย่านนี้แล้ว
ซึ่งผู้ซื้อหลายคนมองว่า ราคาที่อยู่อาศัยบริเวณนี้ จะพุ่งสูงขึ้นในอนาคต
"แซมมี่ โพ" กล่าวว่า ถ้าเรามองและเปรียบเทียบตัวเลข ขอผู้ติดเชื้อโควิด19 เมื่อปีที่ผ่านมาสูงถึงวันละ 100 คน และ ช่วงนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลง ซึ่งตัวเลขยอดขายของโครงการโมนาโก แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อกลับมาเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง ถึงแม้ฮ่องกงจะยังคงอยู่ในช่วง ภาวะเศรษฐกิจถดถอย จากผลกระทบของการประท้วง และ การระบาดของโรคโควิด19 ก็ตาม
“ลูอิส แชน วิงกิต” ประธานบริษัทนายหน้าอสังหาบริษัท “เซ็นทัลไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ เอเจนซี่” ระบุว่า ยอดขายของโมนาโกส่งสัญญาณที่ดี ต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกง และ อาจจะทำให้ยอดขายอสังหาฯช่วงเดือน ม.ค.นี้สูงถึง 1,500 ยูนิต เพิ่มขึ้น 2 เท่าจาก 626 ยูนิต เมื่อเดือน ม.ค.ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นยอดขายที่ต่ำกว่าช่วง ธ.ค.ปีที่แล้ว ที่มียอดขาย 2,111 ยูนิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขายที่เกิดขึ้นก่อนฮ่องกง จะมีการระบาดของโควิด19 ระลอก 4 ทำให้ผู้ประกอบการหลายราย ชะลอการเปิดโครงการออกไป
อย่างไรก็ตาม โครงการอสังหาฯอื่นๆในฮ่องกง ก็ยังคงเผชิญความท้าทายจากยอดขาย ที่ชะลอตัวลง เช่น โครงการ “เดอะ แคมป์ตัน เรสซิเดนเชียล” ของ “แวนค์ โฮลดิงส์” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนเฉิ่งซ้าหว่าน ที่เพิ่งเปิดขาย แต่มียอดจองเพียง 55 ยูนิต จากทั้งหมด 94 ยูนิต แม้จะมีราคาขายแค่ 17,737-21,740 ฮ่องกงดอลลาร์ต่อตารางฟุต แต่ยอดขายต่างจาก "โปรเจ็กต์ โมนาโก" อย่างเห็นได้ชัด
ที่มา: www.monacoprojects.com