สะพานในยุคกลางถูกสร้างขึ้นอย่างไร

27 ธันวาคม 2563 (09:14) แปลโดย รักและคิดถึงเหมือนเดิม

การสร้างสะพานข้ามน้ำเป็นงานที่น่ากลัวและแม้จะมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากมาย แต่พื้นฐานก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่สมัยโบราณ ขั้นแรกจะมีการสร้าง Cofferdam บนริมแม่น้ำและน้ำภายในโครงสร้างที่ปิดล้อมนี้จะถูกสูบออกโดยเผยให้เห็นปุ่มโคลน บนพื้นนี้จะมีการสร้างตอม่อของสะพาน

สะพานชาร์ลส์อันเก่าแก่ในปราก ภาพ: Adisa / Shutterstock.com

ในช่วงยุคกลาง Cofferdam ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ท่อนไม้หลายแถวที่ลากลงไปในโคลน สิ่งนี้ถูกทำให้กันน้ำโดยใช้โคลนและเสริมด้วยทราย จากนั้นน้ำก็ถูกสูบออกจากหลุมด้วยล้อน้ำ ส่วนใหญ่จะเสริมดินดานโดยใช้กองไม้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องตอกเสาเข็ม ด้วยเหตุนี้จึงมีการวางตะแกรงรองพื้นไม้ซึ่งประกอบด้วยคานไม้โอ๊คและไม้กระดาน ตะแกรงนี้ได้รับการแก้ไขด้วยหินกลมขนาดใหญ่ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยลูกกรงเหล็กดัด เมื่อเตรียมฐานรากแล้วสามารถเริ่มการก่ออิฐของเสาได้ ในการสร้างซุ้มประตูนั้นได้มีการสร้างไม้ปลอมและตัดหินทรายหรือบล็อกหินแกรนิตอย่างแม่นยำไว้เหนือของปลอมนี้ เมื่อคีย์สโตนเข้าที่แล้วการปลอมแปลงจะถูกลบออกและส่วนโค้งจะยึดเข้าด้วยกันด้วยน้ำหนักของมัน ส่วนโค้งเสริมด้วยการวางหินหลายชั้นทับมันขึ้นไปที่ระดับของดาดฟ้าสะพาน ในที่สุดปูก็ปูด้วยหินแข็ง

กระบวนการนี้ได้รับการสร้างขึ้นใหม่อย่างสวยงามในแอนิเมชั่น 3 มิติโดย Praha Archeologicka ซึ่งเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในกรุงปรากของสถาบันโบราณคดีแห่งสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งสาธารณรัฐเช็ก (CAS) ปรากและสถาบันมรดกแห่งชาติ ตัวอย่างที่เลือกในแอนิเมชั่นนี้คือสะพานในยุคกลางที่แท้จริงนั่นคือสะพานชาร์ลส์ข้ามแม่น้ำวัลตาวาในปรากสาธารณรัฐเช็ก

การก่อสร้างสะพานชาร์ลส์เริ่มขึ้นในปี 1357 ภายใต้การอุปถัมภ์ของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์จนกระทั่งต้นศตวรรษที่ 15 สะพานมีซุ้มประตู 16 เสาและเสา 15 ต้นแต่ละเสามีเจ้าหน้าที่ป้องกันน้ำแข็ง มีความยาว 512 เมตรและกว้างเกือบ 10 เมตร ลูกกรงตกแต่งด้วยรูปปั้นและรูปปั้น 30 รูปที่แสดงถึงนักบุญและนักบุญอุปถัมภ์ต่างๆแม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะถูกสร้างขึ้นในภายหลังระหว่างปี 1683 ถึง 1714 เพื่อรักษารูปปั้นเหล่านี้จึงถูกแทนที่ด้วยรูปปั้นในช่วงทศวรรษที่ 1960 ต้นฉบับอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของปราก

จนถึงกลางศตวรรษที่ 19 สะพานชาร์ลส์เป็นสะพานข้ามแม่น้ำวัลตาวาแห่งเดียวซึ่งทำให้สะพานเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างปราสาทปรากกับเมืองเก่าและพื้นที่ใกล้เคียง

ภาพ: Rasto SK / Shutterstock.com

สะพานประสบภัยพิบัติหลายครั้งตลอดหกร้อยปีของการดำรงอยู่ ความเสียหายจากน้ำท่วมเกิดขึ้นบ่อยที่สุดโดยครั้งแรกเกิดขึ้นเพียง 30 ปีหลังจากสะพานสร้างเสร็จ ในปีค. ศ. 1496 ซุ้มแห่งหนึ่งพังลงเมื่อน้ำทำให้เสาค้ำยันเสียหาย ในช่วงน้ำท่วมใหญ่ในปี พ.ศ. 2433 แพท่อนซุงและเศษซากอื่น ๆ ที่ลอยอยู่ติดอยู่ที่สะพานและหักซุ้มสามเสาและเสาสองต้น สงครามยังสร้างความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญให้กับสะพานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสิ้นสุดสงครามสามสิบปีเมื่อการต่อสู้ที่หนักหน่วงที่สุดเกิดขึ้นบนสะพาน ในระหว่างการต่อสู้หอคอยสะพานได้รับความเสียหายอย่างมากและต้องนำส่วนที่เหลือของการตกแต่งสไตล์โกธิคออกไปเกือบทั้งหมดในภายหลัง สะพานแห่งนี้รอดพ้นจากการทำลายล้างในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองในตอนท้ายซึ่ง

ปัจจุบันสะพานชาร์ลส์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของปราก