"อาจารย์เจษฎ์" พูดแล้ว "ภูเขาไฟฟูจิ ไม่มีหิมะ ไม่ได้เป็นสัญญาณว่าจะระเบิด"
วันนี้มีข่าวเรื่องภูเขาไฟฟูจิ ไม่มีหิมะปกคุลม ทั้งที่เป็นหน้าหนาว อากาศเย็นจัดติดลบเป็นสิบๆ องศาเซลเซียส จนทำให้คนแตกตื่นกันว่าภูเขาไฟฟูจิอาจจะเกิดการปะทุขึ้นอีกหรือเปล่า ??
คำตอบคือ ยังไม่มีสัญญาณอะไรทางวิทยาศาสตร์ ที่บ่งบอกว่าภูเขาไฟฟูจิ จะปะทุขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากไม่เกิดขึ้นมากว่า 300 ปีแล้ว ... และสิ่งที่น่าจะเป็นสาเหตุของปรากฏการณ์นี้ ก็คือ "ลมแรง" ครับ
1. ภูเขาไฟฟูจิ มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ถึงความงดงามของรูปทรงตามธรรมชาติของภูเขา อันเกือบจะสมมาตรเมื่อมองจากรอบด้าน (จนแม้แต่ร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย ยังเอามาใช้เป็นชื่อและโลโก้ของร้านเลย) แต่อย่าลืมว่าจริงๆ แล้วมันเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิท ยังมีพลังที่สามารถทำลายพื้นที่รอบข้างได้ในเวลาไม่กี่วินาที ถ้า "ยักษ์หลับ" นี้ เกิดการปะทุ ระเบิดขึ้นมา
2. แต่เกิดเหตุน่าแปลกใจขึ้น คือ ประชาชนที่อยู่ในบริเวณภูเขาไฟฟูจิ กลับพบว่ามันไม่มีหิมะปกคลุม ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งที่เป็นช่วงฤดูหนาวของเดือนธันวาคม ที่มีอากาศหนาวเย็นจัด (ดูตัวอย่าง ในภาพประกอบ ที่ถ่ายเมื่อ 20 ธันวาคม) และเคยมีหิมะตกบนภูเขาไฟฟูจิมาแล้วเมื่อต้นเดือน
3. ปรากฏการณ์ที่ภูเขาไฟฟูจิไม่มีหิมะนี้ ทั้งที่ฤดูหนาวปีนี้มีหิมะตกหนักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเขตคันโต และอุณหภูมิก็ลดต่ำ ทำให้หลายคนวิพากษ์วิจารณ์กันว่า นี่คงเป็นสัญญาณว่าภูเขาไฟกำลังเริ่มปะทุ เริ่มร้อนขึ้น และสุดท้าย มันต้องระเบิดแน่ๆ
4. ภูเขาไฟฟูจิระเบิดครั้งสุดท้ายเมื่อปี ค.ศ. 1707 หรือกว่า 300 ปีมาแล้ว แต่จากการที่ผู้เชี่ยวชาญสามารถบันทึกถึงปฏิกิริยาใต้พิภพ ที่มีมากขึ้นในบริเวณนั้น หลังจากเกิดแผ่นดินไหวใหญ่และคลื่นยักษ์สึนามิในเขตโตโฮกุเมื่อปี 2011 ทำให้หลายคนหวาดกลัวว่าภูเขาไฟฟูจิจะระเบิดขึ้นอีก และจะรุนแรงขนาดที่ส่งเถ้าภูเขาไฟไปจนถึงเมืองโตเกียวและจังหวัดชิบะได้
5. จริงๆ แล้ว ไม่ใช่ว่าภูเขาไฟฟูจิจะไม่มีหิมะปกคลุมอยู่บนยอดเขาเลยเสียทีเดียว มันยังมีหิมะอยู่ แต่ไม่ได้คลุมยอดเขาจนเหมือนเป็น "ภูเขาใส่หมวกสีขาว" แบบทุกปี .... แต่หิมะไปอยู่อีกด้านของภูเขา และก่อตัวในแนวตั้ง จากบนลงล่าง (ดูรูปประกอบ ซึ่งถ่ายเมือวันที่ 20 ธันวาคม เช่นกัน)
6. ดังนั้น ข้อสันนิษฐานหนึ่งของปรากฏการณ์นี้ ก็คือ "กระแสลมแรง" ส่งผลให้หิมะไม่ก่อตัวบนภูเขาไฟฟูจิ (ด้านหนึ่ง) และไปก่อตัวได้ในอีกด้านหนึ่งของภูเขาที่ลมเบากว่า
6. มีเสียงสนับสนุนถึงเรื่องกระแสลมแรง ในบริเวณภูเขาไฟฟูจิ โดยระบุว่าเมื่อตอนเช้าวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งอุณหภูมิที่ยอดเขานั้นต่ำถึง -20 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิที่ตัวเมืองด้านล่างของตีนเขานั้น ประมาณ 0 องศาเซลเซียส ก็มีลมแรงมากด้วย จนภูเขาไฟฟูจิด้านนี้ไม่มีหิมะอยู่เลย (ดูภาพประกอบ)
7. และที่สำคัญ เหล่านักวิทยาศาสตร์ของประเทศญีปุ่น ได้เฝ้าติดตามสำรวจระดับความร้อนใต้พิภพและปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของภูเขาไฟฟูจิอยู่ตลอดเวลา เพื่อตรวจหาสัญญาณว่าจะมีการเคลื่อนที่ของแม็กม่า (หินหลอมเหลวใต้ภูเขาไฟ) เกิดขึ้นได้ ... จึงยังไม่น่าจะมีอะไรอันตรายที่ต้องหวาดกลัว แม้ว่าภูเขาไฟฟูจิจะไม่มีหิมะปกคลุมยอดเขาเหมือนทุกปี