มันจบแล้ว!!! ศาลสูงสหรัฐฯ ปฏิเสธการ "ล้มเลือกตั้ง" ของโดนัลด์ ทรัมป์ และพรรคพวก

ปรากฏการณ์ใช้ ‘ศาลสูง’ หรือ ‘ศาลรัฐธรรมนูญ’ เพื่อทำการรัฐประหารหรือยึดอำนาจรัฐทางอ้อม เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วไปในโลกการเมือง และเป็นส่วนหนึ่งของ “วัฒนธรรมการเมือง” ไปแล้ว

อย่างไรก็ดี ในประเทศที่ประชาธิปไตยทำงานได้ดี อะไรทำนองนี้มักไม่เกิดขึ้น แต่ผู้นำที่มีแนวโน้มแบบ ‘เผด็จการ’

ก็อดจะมีลุ้นไม่ได้

และผู้นำที่ว่านี้ก็คือ โดนัลด์ ทรัมป์

1.ในสายตาทั่วโลก โดนัลด์ ทรัมป์ “แพ้เลือกตั้ง” มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 แล้วหลังจากทุกรัฐนับคะแนนเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ สาเหตุที่ผลการเลือกตั้งออกมาช้าหลังวันเลือกตั้งเป็นสัปดาห์ ก็เพราะคะแนนของทั้งโดนัลด์ ทรัมป์และโจ ไบเดน ในหลายๆ รัฐนั้นออกมาฉิวเฉียด แบบที่เรียกว่ายังนับคะแนนไม่หมด ประกาศผลไม่ได้จริงๆ

แต่หลังจากนั้นโดนัลด์ ทรัมป์ก็ยังดิ้นรนว่าเขาไม่ได้ “แพ้” และพยายามจะพลิกผลเลือกตั้งมาตลอด โดยสิ่งที่เขายืนยันมาตั้งแต่หีบเลือกตั้งยังไม่ปิดคือมีการ “โกงเลือกตั้ง”

ตอนแรก เขาพยายามจะให้มีการนับคะแนนใหม่ แต่ส่วนต่างของคะแนนในรัฐที่เขาอยากให้นับใหม่ ไม่เพียงต่อการจะให้มีการเรียกร้องนับคะแนนใหม่ตามกฎหมายรัฐ และศาลในแต่ละรัฐที่เขาเรียกร้องก็ไม่ยอม “เล่นด้วย” คือไม่ยอมสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่

ต่อมา ทรัมป์ก็พยายามจะสร้างความชอบธรรมในการอ้างว่ามีการ “โกงเลือกตั้ง” ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพราะมัน “เป็นไปได้” แต่พอ ผอ.ของหน่วยงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ออกมายืนยันว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่มีโกงแน่ๆ อย่างน้อยๆ ก็ไม่มีหลักฐาน ผลที่ตามมาคือ ทรัมป์ก็ไล่ท่าน ผอ. ไซเบอร์ฯ คนดังกล่าวออก

ก็คงไม่ต้องบอกว่าทรัมป์ดู “แพ้แล้วพาล” ไม่น้อย

สุดท้าย ทรัมป์ก็เลยงัดไม้ตายสุดท้าย โดยให้อัยการสูงสุดของรัฐที่สนับสนุนเขา 18 รัฐ (นำโดยรัฐเท็กซัส) ไปฟ้องรัฐอื่นๆ ว่ามีการโกงเลือกตั้ง แน่นอน คดีระดับ “รัฐฟ้องรัฐ” ต้องขึ้นไปที่ศาลสูงสุดซึ่งมีอำนาจเหนือรัฐต่างๆ ที่รวมตัวกันเป็นสหรัฐอเมริกา

ทำไมทรัมป์ถึงทำแบบนี้?

2.ทรัมป์มั่นใจมาตลอดว่าศาลสูงสุดจะเข้าข้างเขา เพราะปัจจุบันผู้พิพากษาศาลสูงสุดมี 9 คน และในนั้น 6 คนเป็นฝั่งอนุรักษนิยม โดย 3 จาก 6 คนนั้นเป็นผู้พิพากษาที่ทรัมป์ตั้งมากับมือในช่วงเวลาที่เขาเป็นประธานาธิบดี

พูดง่ายๆ ทรัมป์มองว่าศาลสูงสุดน่าจะ “เอียง” เข้าข้างเขา

แน่นอน คนที่เห็นทรัมป์ใช้แนวนี้ก็รู้เลยว่าทรัมป์กำลังดำเนินรอยตามอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ในปี 2000 ที่ใช้ศาลสูงสุดมาเป็น “เครื่องมือ” ในการ “ชนะเลือกตั้ง”

แต่ความต่างก็คือในปี 2000 สิ่งที่บุชทำคือให้ศาลสูงสุด “ยุติการนับคะแนนใหม่” เพราะตอนแรกบุช “ชนะเลือกตั้ง” แบบเฉียดฉิวในรัฐฟลอริดา (ชนะหลักร้อย จากคะแนนเสียงหลักล้าน) ในระดับที่กฎหมายรัฐอนุญาตให้มีการนับคะแนนใหม่ แต่สุดท้ายบุชสามารถ “ยุติการนับคะแนน” สำเร็จด้วยอำนาจศาลสูงสุด (ซึ่งก็เฉียดฉิวอีก เพราะศาลโหวตให้ยุติ 5 เสียง อีก 4 เสียงอนุมัติให้นับคะแนนใหม่ต่อได้)

แต่กรณีของทรัมป์ เขา “แพ้เลือกตั้ง” ในหลายรัฐด้วยคะแนนที่ไม่ใช่ “หลักร้อย” แบบที่บุชชนะ แต่ก็ยังอยากให้ศาลสูงสุดเข้าแทรกแซงผลเลือกตั้งในรัฐที่คะแนน “ก้ำกึ่ง”

ผลน่ะเหรอ วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2020 ศาลสูงสุดก็ประกาศว่าไม่รับฟ้อง ศาลสูงสุดไม่ยอมร่วมขบวนการของทรัมป์ในการล้มการเลือกตั้ง ซึ่งในทางการเมืองหมายความว่าศาลสูงสุดนั้นปฏิเสธชัดเจนว่าจะ “ไม่แทรกแซงทางการเมือง” หรือทำตัวเป็นศาลที่ดีตามการทำงานปกติของระบอบเสรีประชาธิปไตย