กินมะเขือเทศราชินีกันค่า...ประโยชน์เน้นๆ
วันนี้เอาประโยชน์ดีๆ ของมะเขือเทศมาฝากกันค่า ...คุณประโยชน์ของมะเขือเทศลูกเล็กหรือลูกใหญ่จะไม่ต่างกันมาก และไม่ได้มีแค่มะเขือเทศสีแดงเท่านั้น มีมะเขือเทศสีเหลืองด้วยค่ะ
แต่ในบทความนี้จะพูดถึงมะเขือเทศราชินี(สีแดง)ค่า...เพราะเป็นที่นิยมของสาวๆ กรอบนอกฉ่ำน้ำข้างใน ไม่เลอะเทอะ ขนาดพอดีคำ
แถวบ้านเรียกมะเขือแบบนี้ว่า มะเขือราชินี
มะเขือเทศสีเหลือง
มะเขือเทศเชอร์รี่กับมะเขือเทศราชินีคือผลไม้ชนิดเดียวกัน และไม่ได้มีแค่มะเขือเทศสีแดงเท่านั้น มีมะเขือเทศสีเหลืองด้วยค่ะ เป็นผลไม้ที่มีวิตามินหลายชนิด รวมถึงกรดและแร่ธาตุต่างๆ หลายชนิดซ่อนอยู่ในมะเขือเทศลูกเล็กๆ นี้ ว่าแล้วเราไปดูคุณค่าทางโภชนาการของมะเขือเทศต่อ 100 กรัม กันดีกว่าค่า...
-พลังงาน 18 กิโลแคลอรี
-คาร์โบไฮเดรต 3.9 กรัม
-น้ำตาล 2.6 กรัม
-เส้นใย 1.2 กรัม
-ไขมัน 0.2 กรัม
-โปรตีน 0.9 กรัม
-น้ำ 94.5 กรัม
-วิตามินเอ 42 ไมโครกรัม 5%
-เบตาแคโรทีน 449 ไมโครกรัม 4%
-ลูทีนและซีแซนทีน 123 ไมโครกรัม
-วิตามินบี1 0.037 มิลลิกรัม 3%
-วิตามินบี3 0.594 มิลลิกรัม 4%
-วิตามินบี6 0.08 มิลลิกรัม 6%
-วิตามินซี 14 มิลลิกรัม 17%
-วิตามินอี 0.54 มิลลิกรัม 4%
-วิตามินเค 7.9 ไมโครกรัม 8%
-ธาตุแมกนีเซียม 11 มิลลิกรัม 3%
-ธาตุแมงกานีส 0.114 มิลลิกรัม 5 %
-ธาตุฟอสฟอรัส 24 มิลลิกรัม 3%
-ธาตุโพแทสเซียม 237 มิลลิกรัม 5%
-ไลโคปีน 2,573 ไมโครกรัม
หมายเหตุ % ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)
มะเขือเทศดีต่อสุขภาพอย่างไรนะ
มะเขือเทศดีต่อความงาม ในมะเขือเทศมีไลโคปีน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งนอกจากจะนำไปรับประทานแล้วยังสามารถนำไปพอหน้าโดยการหั่นสับชิ้นเล็กๆ หรือ ฝานบางๆ แช่เย็นบางบนหน้าก็ได้ และยังรักษาสิวได้อีกด้วย และทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้นอีกด้วย
ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง มีงานวิจัยพบว่า ไลโคปีนปริมาณ 0.9-9.30 กรัม จาก 100 กรัม ของมะเขือเทศสด ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งตามส่วนต่างๆของร่างกาย ชัดเจนที่สุดคือ มะเร็งต่อลูกหมาก รองมาคือ มะเร็งปอด กระเพาะอาหาร และยังช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งตับอ่อน ลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก คอหอย ช่องปาก เต้านม ปาก ได้ด้วย (อ้างอิงจาก กินมะเขือเทศอย่างไรได้ไลโคปีน(lycopene)สูง โดย ภาควิชาอาหารเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
แก้ปวดและต้านการอักเสบ โรคข้ออักเสบ แนะนำให้กินมะเขือเทศราชินีค่ะ ในมะเขือเทศราชินีมีสารไบโอฟลาโวนอยด์ (่bioflavonoid) และแคโรทีนอยด์ช่วยบรรเทาอาการปวด อักเสบและชะลอโรคให้ช้าลง หากยังไม่เป็นมะเขือเทศราชินีก็ช่วยป้องกันโรคไขข้ออักเสบได้ด้วยค่ะ
ควบคุมความดันและป้องกันโรคหัวใจ เพราะในมะเขือเทศราชินีเป็นแหล่งโพแทสเซียมชั้นดีซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญในการช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดและหัวใจ ในมะเขือเทศราชินี 1 ถ้วย ให้โพแทสเซียมมากกว่า 350 มิลลิกรัม รับประทานเป็นประจำจะช่วยควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติและป้องกันโรคหัวใจได้
ในมะเขือเทศราชินีสุก สายพันธ์ุที่มีความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุดและมีสารประกอบฟีนอลิก คือสายพันธุ์ C40 ช่วยในการป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือดได้
แก้ท้องผูก ในมะเขือเทศราชินีนั้นอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ จึงสามารถทำความสะอาดท่อทางเดินอาหาร และมีการใยทำให้ขับถ่ายสะดวกขึ้น เหมาะกับผู้ที่ท้องผูกหรือขับถ่ายยากค่ะ
สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ในมะเขือเทศราชินีนั้นมีวิตามินซี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นร่างกายให้สร้างเม็ดเลือดขาว เพื่อป้องกันหรือกำจัดเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย ไม่เจ็บป่วยง่ายๆ โดยทั่วๆ ไป ในผู้หญิงต้องการวิตามินซีวันละ 75 มิลลิกรัม ในผู้ชายต้องการวิตามินซีวันละ 90 มิลลิกรัม ซึ่งมะเขือเทศราชินี 14-15 ลูก จะให้วิตามินซีประมาณ 80 มิลลิกรัม ก็เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายใน 1 วัน
ลดน้ำหนักได้ด้วย เพราะมีปริมาณน้ำและเส้นใยอาหารมาก อิ่มท้อง
บำรุงสายตา เพราะในมะเขือเทศราชินีนั้นมีสารเบต้าแคโรทีนสูงมาก การันตีจากการศึกษาเรื่อง "องค์ความรู้เรื่องปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในผลไม้เพื่อส่งเสริมสุขภาพ (วิตามินซี วิตามินอี และเบต้าแคโรทีน) ในผลไม้" โดยสำนักโภชนาการ กรมอนามัย พบว่ามะเขือเทศสีเหลืองมีเบต้าแคโรทีนสูงเป็นอันดับสอง ในบรรดาผลไม้ทั้ง 10 ชนิดที่นำมาทดสอบ (ผลไม้อื่นๆ ได้แก่ มะม่วงน้ำดอกไม้สุก มะละกอสุก กล้วยไข่ มะม่วงยายกล่ำ มะปรางหวาน แคนตาลูปเนื้อเหลือง มะยงชิด มะม่วงเขียวเสวยสุก และสับปะรดภูเก็ต)
ป้องกันผมร่วง เพราะในมะเขือเทศราชินีมีวิตามินเอ ช่วยให้สุขภาพผมแข็งแรงขึ้น แค่นำมะเขือเทศราชินีคั้นน้ำ แล้วนำมาสระผมแทนแชมพู แล้วล้างผมด้วยน้ำสะอาด ผมจะสุขภาพดีขึ้นได้
สิ่งที่ควรระวัง!!
ผู้ที่ไม่ควรรับประทานมะเขือเทศราชินี
-คนที่มีภาวะกรดไหลย้อน
-คนที่เป็นโรคไตและมีภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง เพราะถ้าร่างกายขับออกมาไม่หมด จะทำให้ระบบกล้ามเนื้อ ระบบประสาทระบบหัวใจและหลอดเลือดเกิดความผิดปกติ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจที่อาจจะหยุดเต้นจนเสียชีวิตได้เลย
แต่หากซื้อมารับประทานควรล้างทำความสะอาด เพราะอาจมีสารตกค้างหรือยาที่ฉีดพ่นหากล้างไม่สะอาดแทนที่จะได้สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย กลับจะได้สารพิษเข้าร่างกายไปด้วย