ไพบูลย์ปิ้งไอเดีย ห้ามชุมนุม 2 ปี เชื่อเป็นทางออกประเทศ
นายไพบูลย์ ชงถามประชาชน 52 ล้านคน เสนอห้ามชุมนุมการเมือง 2 ปี เพื่อแก้ไขปัญหาการเมือง - เศรษฐกิจ พร้อมเสนอ นายกฯ ออก พ.ร.ก.ประชามติ เชื่อจะทำให้ยุติปัญหาทางการเมืองไปเวลาหนึ่ง เพียงพอที่รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้พ้นวิกฤติผลกระทบจาก โควิด19 ได้
วันที่ 2 พ.ย. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ใช้กลไกตามรัฐธรรมนูญ เโดยใช้มาตรา 166 ทำประชามติ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้การตั้งคำถามผิดเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญที่ห้ามเรื่องบุคคล หรือ เรื่องที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ พื่อแก้ไขปัญหาทางการเมือง โดยตนเสนอให้ใช้คำถามว่า
“ท่านเห็นอย่างไร หากรัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด ห้ามไม่ให้มีการจัดชุมนุมทางการเมืองที่ฝ่าฝืนกฎหมายชุมนุมสาธารณะ มีการกระทำก้าวล่วงรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 อันเป็นเหตุให้กระทบต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร และมีผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ที่มีผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะจากความขัดแย้งของคนในชาติ และให้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ช่วยเหลือเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชน สามารถดำเนินการได้ลุล่วง รัฐบาลจึงจะใช้มาตรการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด ห้ามชุมนุมการเมืองดังกล่าวเป็นระยะเวลา 2 ปี นับจากวันออกเสียงประชามติ”
เพื่อให้การออกเสียงประชามติซึ่งเป็นทางออกของประเทศ ทำได้รวดเร็วและประหยัดงบประมาณแผ่นดิน จึงเสนอให้การออกเสียงประชามติทำพ่วงไปพร้อมกับการเลือกตั้ง สมาชิกสภา อบจ. และนายก อบจ. ทั้ง 76 จังหวัดในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ กำหนดเพิ่มเขตกรุงเทพมหานครให้ กกต.จัดออกเสียงประชามติเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะทำให้ใช้งบประมาณทำประชามติจำนวนไม่มาก ขณะที่กระบวนการทำประชามติระหว่างที่ไม่มีกฎหมายประชามติใช้บังคับนั้น ควรใช้อำนาจตราพระราชกำหนดใช้เป็นการเฉพาะ เพราะถือว่าเป็นกรณีฉุกเฉิน และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ นายไพบูลย์กล่าว