แค้นสั่งย้าย “เก้งหาย” ยิงดับ ผอ.องค์การสวนสัตว์ฯ ปมสืบคดีลูกเก้งเผือก สุดท้ายยิงตัวตายหนีความผิด
ยิงดับ ผอ.องค์การสวนสัตว์ฯ ปมสืบคดีลูกเก้งเผือก
วันนี้ (3 ต.ค.) เวลา 10.30 น. มีรายงานว่า นายสุริยา แสงพงค์ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถูกยิงเสียชีวิตภายในห้องทำงานที่สวนสัตว์สงขลา หลังจากลงพื้นที่ไปติดตามสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีลูกเก้งเผือก สายพันธุ์พระราชทาน จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง หายไปปริศนา ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.พ. 2563
รายงานระบุว่า นายชวลิต ชูขจร ประธานบอร์ด องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า นายสุริยา ลงพื้นที่ไปติดตามตรวจสอบข้อมูลปมลูกเก้งเผือกด้วยตนเอง แล้วถูกเจ้าหน้าที่สวนสัตว์สงขลารายหนึ่ง ใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิตแล้ว ขณะนี้กำลังประสานงานให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเหตุการณ์ ส่วนผู้ก่อเหตุยังหลบอยู่ในสวนสัตว์สงขลา
อย่างไรก็ดี วานนี้ (2 ต.ค.) ก่อนที่ นายสุริยา แสงพงค์ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะเสียชีวิต ได้ลงนามในคำสั่งสับเปลี่ยนตำแหน่ง เด้ง นายเฉลิมวุฒิ เกษตรสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับปมเก้งเผือก เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ที่ส่วนกลาง ระหว่างรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า มือปืนผู้ก่อเหตุยิง นายสุริยา ซึ่งคาดว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ในสวนสัตว์สงขลานั้น ได้หลบหนีไปยิงตัวตายในบ้านพักตัวเองเพื่อหนีความผิดแล้ว
เบื้องต้น พบศพผู้ก่อเหตุ คือ นายภูวดล สุวรรณะ สัตวแพทย์ หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์วิจัยและสุขภาพสัตว์ สวนสัตว์สงขลา ที่ถูก นายสุริยา เซ็นคำสั่งย้ายไปปฏิบัติงานในหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญสวนสัตว์ สังกัดสำนักอนุรักษ์ และวิจัย เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับกรณี ลูกเก้งเผือก ที่หายไปนั้น สวนสัตว์สงขลารับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นำมาเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์จนสำเร็จ ก่อนที่ลูกเก้งเผือก 1 ตัว จะหายไปอย่างปริศนา ในช่วงเดือน ก.พ.2563 การสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ลูกเก้งน่าจะถูกขโมยไปจากส่วนจัดแสดง แต่เบื้องต้น นายเฉลิมวุฒิ เกษตรสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา ชี้แจงว่า ลูกเก้งเผือกไม่ได้ถูกขโมย แต่ถูกงูเหลือมกิน มีรูปถ่ายหลักฐานยืนยันเป็นภาพซากกระดูกลูกเก้ง
แต่ข้อสันนิษฐานดังกล่าว ก็มีข้อโต้แย้งหลายประการ อาทิ ถ้าหากลูกเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทานถูกงูกินเข้าไป โดยธรรมชาติงูเหลือมจะเลื้อยออกไปไหนไม่ได้ เนื่องจากเก้งเผือกมีอายุ 3 เดือนน้ำหนักประมาณ 3-5 กิโลกรัม ขณะที่ช่วงเวลาที่ตรวจสอบพบ ซากกระดูกสัตว์ดังกล่าว ก็ห่างจากช่วงเวลาที่มีการตรวจพบว่า ลูกเก้งเผือกหายตัวไปกว่า 2 เดือน และที่สำคัญการพบซากกระดูกดังกล่าว ไม่มีทำเรื่องแจ้งเข้ามาให้องค์การสวนสัตว์ส่วนกลางรับทราบเป็นทางการตามระเบียบขั้นตอนปฏิบัติที่สวนสัตว์ในสังกัดองค์การสวนสัตว์ ทุกแห่งจะต้องมีการรายงานตัวเลขจำนวนประชากรสัตว์ทั้งเกิด ป่วย ตาย ให้ส่วนกลางรับทราบเป็นประจำทุกเดือน
แหล่งข่าวจากบอร์ดองค์การสวนสัตว์ ให้ข้อมูลยืนยันว่า กรณีการตรวจสอบพบซากกระดูกเก้งแล้ว ไม่มีการรายงานเข้ามาให้ส่วนกลางรับทราบ ทำให้สวนสัตว์สงขลา ถูกตั้งข้อสงสัยอย่างมาก ว่า
1.มีใครที่ต้องการทำอะไรเพื่อปกปิดหลักฐานการหายตัวไปของลูกเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทานที่หายไปหรือไม่
2. ถ้าซากกระดูกเก้ง ที่ตรวจสอบพบ ไม่ใช่ลูกเก้งเผือก แล้วเป็นเก้งจากไหน
3. ถ้าซากกระดูกเก้งที่พบเป็นเก้งในสวนสัตว์ตัวใหม่ที่ตายลง ทำไมถึงไม่มีการรายงานข้อมูลเรื่องนี้ให้ส่วนกลางรับทราบเป็นทางการ
4. นอกจากเก้ง ที่หายไปแล้ว มีสัตว์ชนิดอื่น ที่หายไปในลักษณะเดียวกันนี้อีกหรือไม่
5. สวนสัตว์ของรัฐ กำลังถูกคนบางกลุ่มใช้เป็นฐานฟอกสัตว์ของขบวนการลักลอบค้าสัตว์ที่ผิดกฎหมายหรือไม่
ขณะที่ นายชวลิต ชูขจร ประธานกรรมการ (บอร์ด) องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ได้รับรายงานเรื่องการตรวจสอบพบข้อมูลใหม่เกี่ยวกับซากกระดูกเก้งแล้วเช่นกัน "ในเร็วๆ นี้จะมีการหยิบยกเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ เป็นกรณีเร่งด่วน เพราะมีความกังวลในข้อมูลที่ตรวจสอบพบเบื้องต้นหลายส่วน โดยเฉพาะประเด็นที่ สวนสัตว์ของรัฐ กำลังถูกคนบางกลุ่มใช้เป็นฐานฟอกสัตว์ของขบวนการลักลอบค้าสัตว์
ได้หลบหนีไปยิงตัวตายในบ้านพักตัวเองเพื่อหนีความผิดแล้ว