เช็คพฤติกรรมกันหน่อย 6 ข้อที่จะบอกว่าคุณกำลังหลงตัวเอง

ตั้งแต่ยุคที่มีโซเชี่ยลเข้ามามีบทบาทในชีวิตคนเรา ก็มีคนหลงตัวเองกันมากขึ้นนะ

      สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ามีใคร เคยเจอคนที่มีบุคลิกชอบหลงตัวเองอยู่รอบตัวกันบ้างหรือไม่ อาจจะเป็นคนที่สนิทหรือว่าไม่สนิทด้วยก็ตาม รู้สึกว่าพฤติกรรมของเขาเป็นอย่างไรกันบ้างคะ ส่วนใหญ่แล้วก็คงไม่ชอบกันใช่ไหมล่ะ? แต่ว่าเคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่าเราเองก็เข้าข่ายว่าหลงตัวเองได้อยู่เหมือนกัน เรื่องแบบนี้ต้องให้คนอื่นคอยบอกคอยเตือนให้นะคะ เพราะว่าคนเรามักจะไม่ยอมรับว่าตัวเองหลงตัวเองกันหรอก ทุกๆ คนย่อมเห็นแต่ด้านดีๆ มากกว่าด้านเสียของตัวเองกันอยู่แล้ว มีพฤติกรรมแบบไหนที่เข้าข่ายว่าเป็นการหลงตัวเองกันบ้าง คงต้องลองมาเช็คกันดูสักหน่อยแล้ว

1. เอาแต่อวดอ้างด้านดีของตัวเอง

     ใครๆ ต่างก็มีจุดที่ชอบอยู่ในตัวเองกันทั้งนั้น แต่คนที่หลงตัวเองจะมีมากเป็นพิเศษ มักบอกและย้ำกับคนอื่นบ่อยๆ จึงไม่ใช่สิ่งที่ดีเท่าไหร่นัก เพราะเกิดจากความหมกมุ่นมากเกินไป คิดว่าเรื่องของตัวเองสำคัญใหญ่โต ที่คนอื่นๆ ควรมารับรู้ให้ความสำคัญชอบเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางมากเกิน ซึ่งรังแต่จะทำให้คนอื่นเกิดความเบื่อหน่ายและรำคาญในตัวเธอ ถ้าเธอดีจริงเนี่ยพูดแค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว นอกนั้นก็รอให้คนอื่นเขาเห็นมาชื่นชมและบอกกับเธอให้คนอื่นๆ ได้รับรู้มันจะดีและน่าภูมิใจกว่ากันมากนะ เชื่อสิ...

2. อัพรูปในโซเชียลถี่จนเกินเหตุ

     มันก็มีแหละบางอารมณ์ ที่เราอาจจะแต่งหน้าทำผมได้ถูกใจตัวเอง จนอยากจะถ่ายรูปเก็บเอาไว้เยอะๆ อยากลงรูปอวดเพื่อนๆ คนอื่นๆ เพื่อที่อยากจะได้ไลค์ได้คอมเม้นในแง่บวกมาทำให้ตัวเองรู้สึกดี ทำให้ต้องเสียเวลาหามุมที่ถ่ายรูปเป็นร้อยๆ รูปให้ได้สวยที่สุดที่รูปเดียว แล้วยังต้องมาใช้แอพแต่งรูปเพื่อให้ออกมาดูดีที่สุดอีก รวมถึงอาจจะส่งข้อความไปรบกวนคนอื่นๆให้มากดเพิ่มยอดไลค์ให้กับรูปตัวเองเลยเนี่ย ถ้าเป็นถึงขนาดนี้ถือว่าอาการหนักเข้าขั้นแล้วละนะ มันเป็นพฤติกรรมของคนที่อยากมีตัวตน อยากโดดเด่นบนโลกโซเชียลมากจนเกินเหตุนะคะ ลองตั้งสติแล้วถามตัวเองสักนิดนึงว่า "นี่ฉัน...กำลังทำอะไรอยู่? ต้องพยายามทำขนาดนี้ไปเพื่ออะไรกัน?" ดูสิคะ น่าจะฉุกใจคิดอะไรขึ้นมาได้บ้าง

3. ติดนิสัยโม้ ชอบโกหก

     เนื่องด้วยอยากให้ตัวเองดูดี เพอร์เฟ็คในสายตาคนอื่น เลยต้องมีการที่พูดเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของตัวเองที่เหนือความจริงไปบ้าง เริ่มจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นคุยอ้างเกี่ยวกับของใช้แพงๆ ที่มี เคยได้ไปเที่ยวต่างประเทศ จนลามไปถึงเป็นเรื่องใหญ่โตอย่างที่เคยมีปรากฏออกมาในข่าว เช่น แอบอ้างว่ารู้จักกับคนมีชื่อเสียง แอบอ้างว่าเคยเรียนสถาบันชื่อดัง ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการเป็นที่ยอมรับ อยากให้คนอื่นมาสนใจในตัวของเธอนั่นเอง โม้มากๆ ระวังน๊าจะโดนแหกเอา

4. ชอบคิดว่ามีคนอื่นอิจฉาตัวเองอยู่

     ไม่รู้ว่า มีคนมาอิจฉาจริงๆ หรือว่าเธอมโนไปเอง แต่ว่าจะต้องมีความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นมาเสียทุกทีไป เพราะคิดว่าตัวเองสวยน่ารัก มีชีวิตที่เพียบพร้อมคนอื่นเลยต้องอิจฉาตัวเธอ จนบางทีอาจทำให้เธอต้องอารมณ์เสียถึงขั้นอารมณ์ฉุนเฉียว เหวี่ยงวีน ตั้งสเตตัสด่าใครก็ไม่รู้ลอยๆ เพื่อให้เพื่อนๆ มาร่วมด่าร่วมเห็นใจด้วย สังเกตสิว่ามันเริ่มจะไม่ปกติแล้วนะ คิดไปเองได้ขนาดนี้ออกแนวจิตหลอนๆ แล้วเธอ

5. อิจฉาคนอื่นตลอด

     นอกจากคิดว่ามีคนอื่นอิจฉาตัวเองแล้วเนี่ย กลับเป็นตัวเองต่างหากล่ะ ที่ชอบคิดไปในแง่อิจฉาคนอื่นไม่ว่าจะเป็น คนอื่นสวยกว่า หุ่นดีกว่า มีเงินมีทองมากกว่า มีแฟนหล่อ อะไรแบบนี้ก็จะทำให้เธอรู้สึกเป็นทุกข์ ไม่พึงพอใจในชีวิตของตัวเอง พลอยทำให้โกรธและเกลียดคนอื่น ซึงอาจจะถึงขั้นนินทาว่าร้าย หาเรื่องทำให้คนๆ นั้นถูกรังเกียจ เพียงเพราะไม่ชอบใจไม่พึงพอใจที่คนๆ นั้นแย่งจุดเด่นและความน่าดึงดูดใจไปจากเธอ คิดดูดีๆ นี่มันพฤติกรรมของนางอิจฉาชัดๆ เลยนะ

6. ทนรับฟังคำติคำเตือนใดๆ ไม่ค่อยได้

     ที่คุณชอบก็คือคำชื่นชม คำสรรเสริญเยินยอ ที่แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ชมจากใจจริงก็ตาม และไม่สามารถทำใจรับฟังคำติเตียน หรือคำเตือนใดๆ ได้ จะรู้สึกโมโห โกรธ หัวร้อน ถึงขั้นอาจมีปะทะคารม โต้เถียง ทะเลาะกันเลยทีเดียว เข้าใจว่าความคิดของตัวเองดีที่สุด อีกทั้งยังปิดใจไม่ยอมรับฟังเพราะคิดว่าคนอื่นอิจฉาให้ร้ายตัวเอง ทั้งๆ ที่เขาหวังดีอยากติเพื่อก่อ อยากให้เธอปรับปรุงตัวเองบ้าง แต่เธอก็จะทำตัวไร้เหตุผล รับฟังแต่ด้านดี เพิกเฉยด้านเสีย เพราะเสพติดแต่คำชมนั่นเอง

     ความภูมิใจในตัวเองถ้าเรามีอยู่ในระดับที่พอดีก็ถือเป็นเรื่องที่สมควรทำ เพราะคนเราก็ควรมองเห็นสิ่งดีๆ และศักยภาพต่างๆ ในตัวเองบ้าง แต่การที่แสดงออกหรือว่ามีจนมากเกินไป ก็ส่งผลให้เราอาจจะแสดงออกไปในทางที่ไม่ถูก ไม่ควรแทน อีกทั้งยังมีทัศนคติที่บิดเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆ ไร้ความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจผู้อื่นด้วย ก่อนที่มันจะสายเกินแก้ เราควรมีมิตรที่ดีที่คอยบอกคอยเตือน หรือว่าฟังเสียงสะท้อนจากคนอื่นเสียบ้างนะคะ เพื่อทำการปรับปรุงตัวไม่ให้เรากลายเป็นคนที่หลงตัวเองจนถึงขั้นเป็น โรคทางจิตที่เรียกว่า "โรคหลงตัวเอง" เอาได้ค่ะ

บทความ โดย : Akine_noxx

เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper

ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ