7 วิธีขับรถในช่วงหน้าฝนอย่างปลอดภัย

ขับรถในช่วงหน้าฝนอย่างไรไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ปลอดภัยทั้งคนและรถเลย

      สิ่งที่น่าเบื่อสำหรับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวนั้นก็คือเวลาที่ฝนตก ไม่ใช่เพียงแค่จะทำให้รถเลอะสกปรกเพียงอย่างเดียว แต่ก็เป็นอุปสรรคที่ทำให้ขับรถได้ยากขึ้นเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วยอีก ดังนั้นแล้วเราไม่ควรที่จะให้เกิดเรื่องร้ายๆ แบบนั้นขึ้นก่อน แต่ควรหาวิธีแก้ไขป้องกันเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะดีกว่า มีหนทางใดบ้างที่จะทำให้มีความปลอดภัยได้มากขึ้น ยามที่อยู่ในช่วงฝนตกอย่างหน้าฝนนี้บ้าง

7. หลีกเลี่ยงการขับรถในช่วงเวลาที่ฝนตก

     เป็นวิธีที่ควรทำถ้าเป็นไปได้จริงๆ เพราะการหลีกเลี่ยงไม่ขับรถเวลาที่ฝนตกก็ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากการที่รถอาจจะมีปัญหา เช่น น้ำเข้าเครื่องยนต์ถ้าไปเจอกับน้ำท่วม โอกาสที่อาจจะเจอพายุลมที่หอบเอาสิ่งต่างๆ มาปลิวกระแทกใส่รถ และอาจถูกต้นไม้หรือป้ายโฆษณาล้มทับเอา อีกทั้งยังจะต้องเจอกับถนนที่ลื่นกว่าปกติเป็นพิเศษ และทัศนวิสัยที่ไม่ดีกับการขับขี่ด้วย อย่างน้อยแล้วหากไม่เร่งด่วนหรือว่ารีบร้อนจริงๆ ก็ควรหยุดพักหลบฝนเสียก่อน รอให้ฝนหยุดตกก่อนแล้วค่อยไปต่อจะดีกว่า

6. เช็คสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ

     เพราะการเช็คสภาพรถให้พร้อมเป็นสิ่งที่คนขับรถทุกคนควรกระทำ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ช่วงที่เป็นหน้าฝนก็ตาม เพราะว่าเครื่องยนต์ที่เราใช้นี้อาจเกิดอาการผิดปกติได้อยู่เสมอ ลองเช็คดูว่ายางรั่วไหม ดอกยางสึกแล้วหรือยัง ชิ้นส่วนต่างๆ มีอะไรหลุดหรือเปล่า ผ้าเบรคหมดไหม ระบบเบรคยังใช้งานได้ดีหรือไม่ เพราะสิ่งเหล่านี้อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ เมื่อต้องเจอสภาพถนนที่ลื่นกว่าปกติ ดังนั้นแล้วอย่าลืมหมั่นเช็คสภาพรถก่อนการใช้งานด้วย

5. ไม่ขับรถเร็วเกินไป

     ต่อให้ไม่ใช่เป็นช่วงที่ฝนตกเลยก็ตาม ถ้าคุณขับรถเร็วเกินไปโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุก็จะมีสูงขึ้น เพราะอาจจะหยุดรถไม่ทัน ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่มีฝนตกหรือหลังฝนตกถนนก็จะยิ่งลื่น โดยเฉพาะถ้าฝนตกลงมาไม่มากฝุ่นที่ถนนจะกลายเป็นโคลนทำให้ลื่นหนักเข้าไปอีก ต่อให้มีระบบการเบรครถดีแค่ไหนมันก็ยากที่จะเอาอยู่จริงๆ ดังนั้นแล้วขับรถให้ช้าๆ ลงหน่อยดีกว่า ถึงที่หมายช้าแต่ปลอดภัยนี่แหละดีที่สุดแล้ว

4. ไม่ขับรถจี้ท้ายคันหน้า

     เพราะเมื่อเวลาที่ฝนตกถนนจะลื่นคุณต้องใช้ระยะในการเบรกมากขึ้น ดังนั้นการขับรถชิดท้ายรถคันหน้ามากเกินไปจะยิ่งทำให้เรามีระยะเบรคสั้น เมื่อเจอกับถนนลื่นแล้วอาจจะเบรคไม่ทันทำให้เกิดอุบัติเหตุ ยิ่งขับมาเร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น ดังนั้นแล้วให้เว้นระยะห่างที่มากกว่าเวลาขับรถปกติด้วยจะดีกว่า

3. ให้เปิดไฟหน้ารถไว้

     เพื่อที่ไฟท้ายรถของเราจะได้ทำงานให้รถคันที่ขับตามมามองเห็นไฟท้ายรถของเรา และสามารถกะระยะห่างจากรถเราได้ง่ายยิ่งขึ้น และการเปิดไฟหน้ารถตอนที่ฝนตกเอง ก็จะทำให้เรามองเห็นทางได้ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าหากว่าฝนตกหนักมากก็ควรเปิดไฟสูงเพื่อเพิ่มระยะการมองเห็นให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าฝนตกหนักมากจริงๆ การเปิดไฟก็ไม่ได้ช่วยอะไร ควรรอฝนให้หยุดตกก่อนจะดีที่สุดนะ

2. หลีกเลี่ยงการขับรถลุยน้ำ

     ยิ่งในประเทศเราฝนตกบ่อยการระบายน้ำก็ไม่ค่อยดี เลยมักจะเจอกับปัญหานี้อยู่เป็นประจำ และสถานที่ที่เราอยู่ก็อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะต้องรอน้ำระบาย ดังนั้นถ้าหากเจอถนนที่น้ำท่วมหากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าเครื่องยนต์ และน้ำที่ท่วมก็อาจทำให้เราไม่เห็นพื้นถนนว่าตรงจุดนั้นมีอะไรอยู่ในน้ำบ้าง ซึ่งอาจจะเป็นหลุมหรือมีของแหลมคมตกอยู่ที่ อาจจะทำให้เกิดอันตรายกับรถเราได้ด้วย

1. ลดฝ้าที่กระจก

     แม้จะเป็นอุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ ในยามที่ฝนตก เพราะจะมีฝ้าขึ้นกระจกหน้า หรือกระจกข้างซึ่งเกิดจากอุณหภูมิในรถที่ร้อนกว่าอากาศภายนอก ที่ฝนตกลงมาแล้วจะเย็น ดังนั้นการปรับแอร์ให้อุ่นขึ้นหรือปิดแอร์ไปเลย สำหรับคนขับรถบางคนขี้หนาวก็ทำให้เกิดฝ้าที่กระจกได้ ก็อาจทำให้ทัศนะวิสัยในการขับรถแย่ลงหรือมองได้ยากจนอาจเกิดอุบัติเหตุได้ด้วยเช่นกัน วิธีแก้ก็ไม่ยากถ้าหากเป็นรถยุโรปก็กดปุ่มไล่ฝ้า ที่ลดการเป็นฝ้าที่กระจกได้ และควรปรับแอร์ให้เย็นขึ้นอีกเล็กน้อยก็สามารถช่วยลดฝ้าได้เช่นกัน

   เพียงทำตามคำแนะนำเหล่านี้ คุณก็จะสามารถขับรถในหน้าฝนได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น เพราะอากาศตอนที่ฝนตกหรือหลังฝนตกเนี่ย มันยิ่งทำให้การขับรถรู้สึกเย็นและสดชื่นมากขึ้นเลยจริงๆ โดยเฉพาะการขับรถไปตามต่างจังหวัดด้วยแล้ว อากาศจะยิ่งดีและบริสุทธิ์จนอยากหายใจฉ่ำปอดเลยจริงๆ ล่ะ

ชอบขับรถตอนที่ฝนตกหรือไม่?

✪ บทความ โดย : Akine_noxx

✿ เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper

❀ ฝากติดตาม กดดาว กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ