6 ประเทศระบบขนส่งสาธารณะดีเดินทางสะดวกน่าไปเยือน
ประเทศไหนมีระบบการเดินทางสะดวก เดินทางสบาย ไปไหนมาไหนไม่รู้สึกลำบากยุ่งยากบ้างนะ
หน้าฝนทีไรมักจะมีเสียงสะท้อนจากผู้ใช้รถใช้ถนนในเมืองไทยบ่นกันด้วยความเบื่อหน่ายทุกที ถึงการจราจรที่ติดขัด ความลำบากความไม่สะดวกสบายของการเดินทางด้วยรถสาธารณะ แถมค่ารถไฟฟ้าก็แพงมากเมื่อเทียบกับค่าครองชีพอีก ยิ่งคนที่เคยไปเที่ยวไปอยู่ต่างประเทศมาก่อนยิ่งบ่นหนักเลยว่า ต่างประเทศมีระบบขนส่งมวลชนที่ดีกว่าไทยมาก ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าประเทศไหนมีระบบการขนส่งที่ดีบ้างนะ ต้องไปส่องหน่อยแล้ว
6. ประเทศเกาหลีใต้
ระบบการขนส่งอย่างดีในกรุงโซล ทำให้เป็นศูนย์กลางคมนาคมในเอเชีย ระบบรถไฟรองรับการให้บริการกับผู้โดยสารที่มีประมาณ 8 ล้านคนต่อวัน ระบบรถไฟใต้ดินมีรางยาวที่สุดในโลกคือยาวถึง 508 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นเส้นทางหลักสิบสองเส้นทางที่ครอบคลุมการเดินทางทั่วถึงได้ทั้งเมือง ในสถานีเองจะมีป้ายบอกเส้นทางที่แสดงทั้งภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลีเพื่อความสะดวกของนักท่องเที่ยว มีหน้าจอบอกข้อมูลแบบ real time ดังนั้น ถ้าไปโซลแล้วการใช้รถไฟฟ้าใต้ดินจึงเป็นทางเลือกยอดนิยม ที่ช่วยลดปัญหาการหนาแน่นของการจราจรได้เป็นอย่างดี รวมถึงรถเมล์เองก็ขึ้นง่าย ไม่สับสนสะดวกสบายไม่แพ้กัน
5. ประเทศฝรั่งเศส
รถไฟของกรุงปารีสมีระยะทาง 214 กิโลเมตร ส่วนใหญ่จะอยู่ในใต้ดินประกอบด้วย 303 สถานี ปารีสเป็นศูนย์รวมสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่มีความคึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป นอกจากนี้ระบบการขนส่งสาธารณะในกรุงปารีสยังให้บริการโดยรถประจำทางและรถแท็กซี่ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงเข้าสู่ชานเมืองต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับกรุงปารีสได้ทั้งหมด ให้ความสะดวกสบายกับผู้เดินทางทั้งในชาติและต่างชาติได้ดีเป็นอย่างยิ่ง
4. ประเทศสเปน
กรุงมาดริดมีการพัฒนาระบบการขนส่งให้ใช้งานง่าย แม้ว่ากรุงมาดริดจะไม่ใช่เมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลกก็ตาม แต่ว่าการมีระบบรถไฟใต้ดินที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัยนี้ รวมถึงมีค่าอัตราโดยสารที่ถูกเมื่อเปรียบเทียบกับค่าครองชีพของสเปนด้วย ทำให้ประชาชนยอมลดการใช้รถส่วนตัวลง เนื่องจากสะดวกและคุ้มค่ากว่ากันมาก ส่วนพื้นที่ที่อยู่ห่างจากรถไฟเองก็จะมีโดยสารประจำทาง และแท๊กซี่ เข้ามาช่วยเสริมการเดินทางในเมืองนี้อย่างทั่วถึงอีกด้วย
3.ประเทศอังกฤษ
ในลอนดอนจะมีรถไฟใต้ดินที่เรียกว่า Tube เป็นระบบขนส่งสาธารณะที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปีคริสตศักราช 1863 เป็นระบบรถไฟฟ้าใต้ดินที่เก่าแก่ที่สุดในโลก แล้วที่เป็นสัญลักษณ์ของลอนดอนก็ยังมีรถบัส 2 ชั้นสีแดงที่เป็นที่คุ้นตาของคนทั่วโลกอีกเช่นเดียวกัน มีการจัดการระบบขนส่งที่เป็นระเบียบ มีการแบ่งพื้นที่ในเมืองเพื่อให้ง่ายต่อการเดินทาง มีการกำหนดค่าโดยสารและทำความเข้าใจของผู้บริการได้เป็นอย่างดี ตั๋วรถไฟจะแพงขึ้นในชั่วโมงเร่งด่วน เพื่อลดจำนวนคนใช้บริการให้หนาแน่นน้อยลง
2. ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยเฉพาะในนิวยอร์กที่เป็นมหานครเอกของโลก เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นศูนย์รวมทางเศรษฐกิจการเมืองและวัฒนธรรมที่หนาแน่นไปด้วยผู้คน นิวยอร์กจึงเป็นอีกสถานที่ที่ไม่เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัว เพราะรถไฟใต้ดินของนิวยอร์กเป็นระบบขนส่งความเร็วสูงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ให้บริการ 24 ชั่วโมงเพื่อความสะดวกสบายของประชาชน ผิดกับเมืองอื่นที่จำกัดเวลาการให้บริการ รวมถึงมีการใช้บัตรโดยสารแบบเดียวกับรถโดยสารประจำทางอีกด้วย
1. ประเทศญี่ปุ่น
โตเกียวเป็นอีกเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องระบบการขนส่งสาธารณะเป็นอย่างมาก แม้จะมีค่าโดยสารสูงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่ว่าคนในกรุงโตเกียวก็ยังนิยมใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นหลักอยู่ดี ซึ่งสถานีรถไฟฟ้าของโตเกียวนี้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เป็นจำนวน 3.2 ล้านล้านคนต่อปี อีกทั้งการปลูกฝังด้านจิตสำนึกการออกแบบกฎหมายของรัฐบาล ทุกอย่างถูกออกแบบมาเพื่อให้คนได้ใช้บริการขนส่งสาธารณะเป็นหลักอย่างสะดวกสบาย เพราะญี่ปุ่นพื้นที่แคบภาษีรถก็สูง คนจึงไม่นิยมใช้รถส่วนตัวกันเท่าไหร่นัก
ในประเทศเราก็คงต้องลุ้นกันต่อไปกับระบบการเดินทาง ที่จะค่อยๆ สร้างค่อยๆ ดีขึ้นกว่านี้ แต่กว่าจะถึงวันนั้นก็คงต้องบ่นปากเปียกปากแฉะกันไปอีกนานพอดูเลยล่ะ
คิดว่าจะอยู่ทันเห็นวันที่คนไม่ต้องใช้รถส่วนตัวในกรุงเทพฯ ไหม?
บทความ โดย : Akine_noxx
เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
ฝากติดตาม กดโหวต กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ