ไม่ยอมให้เข้าพัก แม้อ้างสิทธิ์ VIP ผู้บริหารคอนโดย้ำ เพื่อปกป้องสิทธิ์ของลูกบ้าน
หลังจากที่มีเหตุการณ์พบผู้ติดเชื้อโควิดที่จังหวัดระยอง อันเนื่องมาจากบุคคลที่ได้รับเอกสิทธิ์ของรัฐ จนเกิดหารติดเชื้อ และหวั่นว่าจะกลับมาระบาดอีกครั้งในประเทศไทย ทำให้คนไทยทุกคนมีความวิตกกังวล ว่าถ้าหากเกิดการระบาดอีกครั้ง จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยทุกคน ย่ำแย่ลงไป
ล่าสุด ได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกครั้ง จากบุคคลที่ได้รับเอกสิทธิ์จากรัฐหรือที่เราเรียกว่า VIP ทั้งนี้เรื่องราวถูกเปิดเผยจาก นางนาตาชา รอยส์ รองประธานกรรมการ บริษัท พีพีเอ็ม จำกัด ผู้ดำเนินกิจการ คอนโดมิลเลนเนียม เรสซิเด้นส์ แอท สุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 20 แขวงและเขตคลองเตย ว่าได้มีเจ้าหน้าที่สถานทูตเอสโตเนีย จำนวน 1 คน ขอเข้าพักในคอนโดมิเนียมดังกล่าว แต่ไม่ได้รับการยินยอมจากฝ่ายอาคาร และนิติบุคคล
โดยให้เหตุผลเรื่องความปลอดภัยจากเชื้อโควิดของลูกบ้าน ที่มีอยู่ถึง 604 ห้อง ซึ่งมีการเจรจานานหลายชั่วโมง ว่า เมื่อวานนี้ช่วงเวลา 14.00 น. มีเจ้าหน้าที่ที่ติดต่อจากสถานทูต และได้รับอีเมลจากทางผู้พักว่าจะมากักตัวที่คอนโดแห่งนี้เป็นเวลา 14 วันหลังจากที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งมาจากสถานทูตเอสโตเนีย โดยห้องพักที่มีการเช่าไว้ เป็นการเช่าในนามบุคคล ไม่ใช่ในนามสถานทูต ทั้งนี้จากการได้พูดคุยกับทางผู้จัดการนิติบุคคลและกรรมการทุกคน มองว่าที่นี่มีจำนวนห้องกว่า 600 ห้อง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมากถึงเรื่องของลูกบ้าน จึงมีความเป็นห่วงทุกฝ่ายได้มาช่วยกันดูแล ได้ข้อสรุปให้เจ้าหน้าที่คนนั้นไปหาสถานที่กักตัวสถานที่อื่นแทน
นางนาตาชา รอยส์ กล่าวต่อว่า โดยทางรถตู้ของเจ้าหน้าที่ได้มาถึงอาคารเวลาประมาณ 19.00 น. ทางเราจึงได้ประสานให้เขาอยู่แต่ภายในรถตู้ไม่ให้ออกมา ระหว่างนั้นได้พยายามเจรจากับทางสถานทูตในเรื่องของที่พัก ทางสถานทูตก็มีความเข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่วีไอพีซึ่งแจ้งว่าสามารถมาพักที่นี่ได้ เราในฐานะที่เป็นนิติบุคคลคิดว่าไม่อนุญาตให้เข้าในพื้นที่ดีกว่าเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย กระทั่งสุดท้ายเวลาประมาณ 22.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ท่านนั้นสามารถหาที่อื่นได้ เขาได้แจ้งว่าได้คุยกับกระทรวงการต่างประเทศในการประสานงานหลังจากนี้ โดยระหว่างการพูดคุยก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและสำนักงานเขตพื้นที่ลงมาช่วยพูดคุยเจรจาและประสานงานให้ด้วย
นางนาตาชา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ระหว่างการพูดคุยเจรจาทางนิติบุคคลได้พยายามติดต่อไปยังหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจดูแลในเรื่องดังกล่าวไปยังหลายๆ หน่วยงานที่จำเป็น แต่ได้รับแจ้งว่าเป็นเรื่องของทางนิติบุคคลที่จะสามารถประสานเจรจากับทางสถานทูตได้เองได้ อย่างไรก็ตามในกรณีนี้ทางผู้พักอาศัยก็ได้มีไลน์เข้ามาสอบถามบ้างว่าเป็นมาอย่างไรและมีความกังวลบ้าง แต่ในภาพรวมที่ทางเจ้าหน้าที่ท่านนี้ได้ออกไปพักยังสถานที่อื่นแล้ว ทางลูกบ้านจึงรู้สึกสบายใจ