จิตตก
การที่คนเราไม่มีอะไรทำมัน"ฟุ้งซ่าน" เป็นเรื่องจริง เพราะตอนนี้ฉันคนนึงที่กำลังเป็นจากการที่ตกงานในตอนนี้จิตใจ มันคิดไปต่างๆนานา ว่าทำไม? ทำไม? และก็ทำไม? อยากทำงานก็ไม่มีที่ไหนรับ ไปสมัครก็หลายที่ ล้วนแต่เงียบ แต่ก็เข้าใจแหละสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ทักแชทไปหาคนที่เคยรู้จักก็หลายคน ทั้งที่ไม่ค่อยได้คุยกันแต่ตอนนี้ฉันก็ทำเพราะอยากหางานทำ บางทีก็มองว่าเป็นเรื่องน่าอาย แต่ทำไงได้ มันจำเป็น (ไม่ได้ทักไปยืมเงิน) 😁เมื่อไม่มีงาน สิ่งที่ไม่มีก็คือเงิน และที่มีอยู่ก็ต้องกินใช้อย่างประหยัด สิ่งที่รบกวนจิตใจฉันคือการที่เมื่อก่อนต้องขับรถ100กว่ากิโลทุกอาทิตย์ เพื่อพาพ่อไปหาหมอแต่ตอนนี้ด้วยความที่ไม่มีทั้งเงินและแรงที่จะไป ทำให้เหมือนมีอะไรติดค้างในใจฉัน บางวันนอนน้ำตาไหลคิดว่าทำไมฉันถึงตกต่ำขนาดนั้น มีเพื่อนบางคนทักมาหาว่า คิดถึงบ้าง ถามสารทุกข์สุขดิบ ด้วยความที่เราคนซื่อเล่าทุกอย่างที่ตัวเองเป็นให้เขาฟัง จนไม่รู้ว่าบางครั้งเขาคิดถึงเราจริงๆ หรือแค่อยากรู้ว่าชีวิตเราเป็นยังไง หรือเขากำลังสมน้ำหน้าเราอยู่ ก็เท่านั้น (คิดมาก) ☹️ เมื่อไม่ได้งานสิ่งที่เราคิดอีกอย่างตอนนี้คือ ไปไหว้พระขอพรบ้างเผื่อจะมีอะไรดีๆขึ้นบ้าง แต่เราคงหวังมากไปเพราะมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เฮ้อ! และวันนี้ได้มีโอกาสดูบทสัมภาษณ์ ของดาราพิธีกรคนนึง ซึ่งเราดูแล้วเกิดความอิจฉาหน่อยๆว่าทำไมชีวิต(คุณ ต.)เขาถึงมีความสุขขนาดนั้น หาเงินเก่งเลี้ยงลูกเมียอย่างสุขสบาย เมื่อเทียบกับเราปากกัดตีนถีบเอง ไม่มีใครคอยช่วยเหลือ อยากได้อะไรก็ต้องหาเอง.
ชีวิตแม่ง!! แต่คิดอีกอย่าง ที่คนเฒ่าคนแก่บอกไว้ว่า "บุญผลาของคนไม่เท่ากัน"