รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ของประเทศอังกฤษได้ส่งทีมเจรจาเข้ามาเจรจากับกระทรวงพาณิชย์ของไทย
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวดีด้านเศรษฐกิจและการค้าอยู่เรื่องหนึ่ง คือ ทางรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ของประเทศอังกฤษ เขาได้ส่งทีมเจรจาเข้ามาเจรจากับกระทรวงพาณิชย์ของไทย
และแสดงความสนอกสนใจอยากจะทำ FTA หรือ ข้อตกลงการค้าเสรีร่วมกับทางการไทยเป็นพิเศษ เนื่องจากอังกฤษเห็นไทยเป็นคู่ค้า และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน
บวกกับจังหวะที่อังกฤษกำลังจะออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปอย่างสมบูรณ์ในวันที่ 1 มกราคม 2021 นี้ ทำให้อังกฤษต้องเร่งหาข้อตกลงทางการค้า และคู่ค้ามาเปิดเขตการค้าเสรีกับตนเองให้ได้
ก่อนจะหมดปี 2020 (เพราะทางสหภาพยุโรปให้เวลาประเทศอังกฤษแค่สิ้นปี 2020 แล้วหลังจากนั้นอังกฤษจะสูญเสียสิทธิพิเศษทางการค้า และข้อตกลงต่างๆที่เคยทำไว้ร่วมกับสหภาพยุโรปทั้งหมด)
ทำให้อังกฤษต้องเร่งออกไปเจรจาการค้ากับประเทศพันธมิตรอย่างหนักมาตลอด 2-3 ปีนี้ ตั้งแต่ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน และประเทศกลุ่มเครือจักรภพอื่นๆ (และอาจรวมถึงประเทศในแถบแอฟริกาด้วย)
ซึ่งไทยเองก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่อังกฤษสนใจมาตลอด เนื่องจากมูลค่าทางการค้าระหว่างไทยกับอังกฤษนั้นมีมากกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (โดยปี 2019 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 6,260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
อันเป็นมูลค่าการส่งออกที่ไทยส่งออกไปยังอังกฤษประมาณเกือบ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าของการนำเข้าจากประเทศอังกฤษอีกประมาณ 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันการเจรจาระหว่างไทยกับอังกฤษนั้นยังเพิ่งอยู่ในลำดับขั้นตอนของทบทวนข้อสรุปทางนโยบาย แต่ยังไม่ได้มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไรต่อ ต้องรอผลสรุปในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้
และหากทุกอย่างเป็นไปได้สวย ทั้งทูตพาณิชย์ของอังกฤษและไทยสามารถมีความเห็นที่ตรงกัน ก็จะสามารถผลักดันให้เข้าสู่ระดับที่ประชุมของคณะรัฐมนตรีได้ในปี 2021 นี้
อนึ่ง อังกฤษมีความต้องการอาหารแปรรูป เนื้อสัตว์แปรรูปจากไทยตลอดเวลา รวมไปถึงสินค้าอุตสาหกรรม อย่างแผงวงจรไฟฟ้า อุปกรณ์ติดตั้งรถยนต์ ทำให้มูลค่าการส่งออกที่ไทยส่งไปอังกฤษนั้นมีค่อนข้างสูง
แต่ก็ต้องระวังในเรื่องมาตรฐานทางเทคนิค บางเรื่อง เช่น อุตสาหกรรมการประมงของไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องการมีวัตรปฏิบัติที่ไม่ค่อยได้รับการยอมรับในสายตาของประเทศฝั่งยุโรปมาอยู่ก่อนหน้าแล้ว
(และยังอาจจะต้องคำนึงถึงประเด็นเรื่องตลาดยาด้วย เพราะอังกฤษก็เป็นผู้เล่นอีกรายหนึ่งที่หวังจะเข้ามาร่วมแข่งขันในเวทีตลาดยาของไทย)
สุดท้ายวาระซ่อนเร้นอีกประการหนึ่งที่อังกฤษเพ่งเล็งมาหาเจรจากับทางการไทยก็เพราะเห็นไทยเป็นหนึ่งในผู้นำของกลุ่ม ASEAN เหมือนที่มองญี่ปุ่นเป็นผู้นำกลุ่ม CPTPP
ซึ่งอังกฤษเองนั้นมีแผนอยากจะเข้าร่วมวงด้วยทั้ง ASEAN และ CPTPP อยู่แล้ว (เพื่อทดแทนมูลค่าการค้าที่เสียไปจากนโยบาย BREXIT) ดังจะเห็นได้ว่าเมื่อเดือนก่อนอังกฤษก็ส่งทูตพาณิชย์และคณะเจรจาไปคุยกับทางญี่ปุ่น เพื่อจะปูทางไปสู่การขอเข้าร่วม CPTPP
ในวันนี้ก็เช่นกัน อังกฤษเข้ามาหาไทยส่วนหนึ่งก็เพราะอยากจะปูทางให้ตนเองได้เข้าไปร่วมเป็นคู่ค้ากับ ASEAN (Dialogue partner) นั้นแหละ
ติดตามข่าวสารได้ที่
https://www.facebook.com/Trade-Plan-111056593959406
ที่มา:ข่าวพันธมิตรไทย จีน รัสเซีย