อบจ.จังหวัดสกลนคร ประกาศสละเงินเดือน ตั้งกองทุนสู้โควิด-19
จากกรณีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่สร้างผลกระทบให้อย่างมากมายกับหลายๆประเทศทั่วโลก ซึ่งนั้นรวมถึงประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบในด้าน อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคลน และ เศรษฐกิจภายในประเทศ เนื่องจากรัฐบาลประกาศเคอร์ฟิวเพื่อรับมือไวรัสชนิดดังกล่าว
ทั้งนี้มีรายงานว่าวันนี้ที่ 10 เม.ย 63 ที่หอประชุม สภาอบจ.สกลนคร มีการเข้าหารืออย่างเร่งด่วนเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด 19 โดยในปัจจุบัน จ.สกลนคร มีผู้ติดเชื้อแล้ว 1 ราย และมีผู้เข้ารับการกักตัว 26,518 ราย โดยในการหารือครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อจัดตั้งกองทุนขึ้นมาสู้กับเชื้อโรคร้ายโควิด ซึ่งในจังหวัดมีแนวโน้มที่จะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น โดยจะไม่รับเงินเดือนไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
เบื้องต้น นายก อบจ.และนอง นายก รวมทั้งเลขา ที่ปรึกษา สละเงินเดือนเดือนเม.ย. 2563 เพื่อตั้งเป็นกองทุนเริ่มแรก 232,330 บาท หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ก็จะสละเงินเดือนในเดือนต่อไป และอยากเชิญชวนผู้บริหารท้องถิ่นที่มีอยู่ในพื้นที่จำนวน 141 แห่ง เสียสละเงินเดือนของตัวเอง เพื่อนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ในการสู้ภัยโควิด 19 เพื่อแจกจ่ายให้กับบุคคลสกรทางการแพทย์ หน่วยกู้ภัย จนท.ตำรวจ ทหาร อสม.และอื่นๆ
ซึ่งนายชัยมงคล ไชยรบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องช่วยกันป้องกัน ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสกลนคร มีจุดยืนที่แน่วแน่ในการรวมใจกันเพื่อต่อสู้กับโควิด 19 โดยจะมอบอาวุธในการต่อสู้กับเชื้อโรคแก่ประชาชนชาวสกลนครทุกคน นั่นก็คือ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และหน้ากากอนามัย รวมทั้งมอบเครื่องเทอร์โมสแกน และชุดป้องกันเชื้อโรคแก่บุคลากรทางการแพทย์ด้วย
สำหรับการจัดทำหน้ากากผ้านั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ได้มีความเห็นร่วมกันว่า จะต้องใช้ผ้าในท้องถิ่นของจังหวัดสกลนคร เช่น ผ้าขาวม้า หรือผ้าย้อมคราม ถึงแม้ราคาจะสูงกว่าผ้าชนิดอื่นก็ตาม เพราะนอกจากจะเป็นการช่วยประชาชนได้รับหน้ากากผ้าไว้ใช้ป้องกันเชื้อโรคแล้ว ยังเป็นการช่วยผู้ประกอบการทอผ้าของจังหวัดสกลนครที่กำลังประสบปัญหายอดขายลดลง โดยเฉพาะวิสาหกิจชุมชนขนาดเล็ก รวมถึงในธุรกิจทอผ้าในภาคครัวเรือนอีกด้วย ส่วนขั้นตอนในการแจกจ่ายนั้นให้กับประชาชน จะให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น และจะมีเจ้าหน้าที่นำส่งแอลกอฮอล์ล้างมือ และหน้ากากผ้าส่งถึงบ้าน ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร จะแจ้งให้ทราบต่อไป
















