ตำรวจเชียงใหม่ แจงแล้ว หลังจับรถส่งของโรงพยาบาล ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว
จากกรณีมีผู้ใช้เซฟบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความและรูปภาพ ระบุว่า พ่อ-แม่ โดนตำรวจจับขณะขับรถส่งของโรงบาลสายแม่ฮ่องสอน-แม่สะเรียง-ขุนยวม โดยมีใบอนุญาติยกเว้นการขับรถนอกเวลาและข้ามจังหวัดจากทางบริษัทขนส่ง พ่อแม่ฉันทำอะไรผิด คุณใช้อะไรตัดสิน มันอาจไม่ร้ายแรงนะ
ล่าสุดเรื่องนี้ เฟซบุ๊ก ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้โพสต์ชี้แจง ว่า ตามที่มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ตำหนิการจับพ่อและแม่ของตนในฐานฝ่าฝืนเคอร์ฟิว จากการขับรถส่งโรงบาลสายแม่ฮ่องสอนทั้งที่มีใบอนุญาตฯ พร้อมกับถูกส่งตัวมาขึ้นศาลที่ศาลจังหวัดฮอดนั้น ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอเรียนแจ้งข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้ เพื่อให้ได้รับทราบข้อมูลพฤติการณ์แห่งที่มีผลต่อการจับเป็นไปอย่างครบถ้วน ดังนี้
การจับรถขนส่งของให้โรงบาล ที่ผัวเมีนถูกจับตามที่เป็นข่าวนั้น เป็นการจับกุมในเวลาประมาณ 23:00 น. และในขณะจับกุมนั้นได้ส่งของให้แก่โรงพยาบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นการจับในขณะเดินทางกลับมายังตัวเมืองเชียงใหม่เพื่อรับของจากบริษัทและนำไปส่งที่อื่นต่อไป เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับได้พิเคราะห์เห็นว่าสามารถพักค้างคืนได้ ไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเดินทางฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่ใช้กับรถคันอื่นเช่นเดียวกัน จึงได้ดำเนินการจับส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการและส่งฟ้องศาลซึ่งได้พิพากษาลงโทษในความผิดแล้ว และมีคำสั่งให้คุมความประพฤติจำเลยแล้ว
ในการนี้ ตำรวจภูธรเชียงใหม่ได้ตระหนักในความจำเป็นที่อาจมีของบริษัทจำหน่าย จึงได้ประสานงานกับบริษัท เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เพื่อจะได้ใช้เป็นข้อมูลเพื่อวางแนวทางในการพิจารณาการผ่านด่านในเวลาจำเป็นและเร่งด่วนต่อไป รวมทั้งเพื่อวางแนวทางพิจารณาแก่เจ้าหน้าที่ประจำด่านอื่นๆ ซึ่งมีจำนวนถึง 42 ด่านในจังหวัดเชียงใหม่เพื่อจะได้มีแนวทางการปฏิบัติที่สอดคล้องเป็นแนวทางเดียวกัน
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องในครั้งนี้ รวมถึงตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่น้อมรับฟังความเห็นในการปฏิบัติงานเพื่อสรุปนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชาในลำดับถัดไป ทั้งนี้เพื่อให้การปฏิบัติงานในการควบคุมการแพร่ของ CD19 ซึ่งเป็นวาระแห่งชาตินี้ลุล่วงด้วยดี เป็นประโยชน์ต่อประชาชนดังที่รัฐบาลตั้งเจตนารมณ์ไว้