อาหารการกินในช่วงวิกฤต โควิด-19
การกินอาหารที่มีคุณค่ามีความสำคัญมากในภาวะการแพร่ระบาดของโควิด ทั้งก่อนและหลังการติดเชื้อ แม้ว่ายังไม่มีหลักฐานว่าอาหารใดๆ สามารถป้องกันการติดเชื้อได้
แต่การกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ก็เป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย และการกินอาหารเพื่อการดูแลสุขภาพในช่วงการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 มีวิธีดังนี้
1. กินอาหารที่มีความหลากหลายและครบห้าหมู่ เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วนเพียงพอ
2. กินผักผลไม้เยอะๆ ผักผลไม้สดมีวิตามินและเกลือแร่ตลอดจนเส้นใยที่คนเราจำเป็นในการดูแลสุขภาพ หากมีข้อจำกัดเรื่องการออกไปหาซื้ออาหาร ไปได้ไม่บ่อย อาจต้องพึ่งพาผักผลไม้แปรรูป เช่นที่แช่แข็งหรือที่บรรจุกระป๋องแล้ว แต่ให้ระมัดระวังปริมาณน้ำตาล เกลือ และสารเติมแต่งต่างๆ อ่านฉลากเพื่อให้แน่ใจว่าอาหารแปรรูปนั้นเหมาะสมกับคนในบ้าน
3. กินอาหารที่ทำจากวัตถุดิบจำพวกผ่านการขัดสีน้อย (เช่นข้าวกล้อง ธัญพืช) ถั่วและน้ำมันที่มีไขมันดี เช่นน้ำมันมะกอก น้ำมันงา น้ำมันถั่วลิสง หรือน้ำมันอื่นๆ ที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง อาหารเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
4. ระมัดระวังในการกินอาหารที่มี ไขมัน น้ำตาล และเกลือในปริมาณที่มากเกินไป ในบางครั้งคนเราเกิดความเครียดแล้วจะกินอาหารมากเป็นเศษเพื่อระบายความเครียดโดยไม่รู้ตัว ซึ่งจะนำไปสู่การกินอาหารที่มากเกินไป และที่สำคัญอาหารที่กินแล้วรู้สึกพึงพอใจทำให้ลดความเครียดลง มักจะเป็นอาหารที่ไขมัน น้ำตาล เกลือ ในปริมาณมาก เช่นขนมหวานต่างๆ หรือเบคอนกรอบๆ หอมๆ
5. แม้ว่ายังไม่มีหลักฐานว่าโรคโควิด-19 มีการติดเชื้อผ่านการกินอาหาร เราก็ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของอาหารไว้เสมอ โดยหลักปฏิบัติห้าข้อคือ
- รักษาความสะอาด
- แยกอาหารดิบและอาหารที่ปรุงแล้วออกจากกัน
- ทำให้อาหารสุกอย่างทั่วถึง
- เก็บอาหารในที่อุณหภูมิเหมาะสม
- ใช้น้ำและวัตถุดิบการปรุงอาหารที่มีความปลอดภัย
7. ดื่มน้ำบ่อยๆ สำหรับผู้ใหญ่ควรดื่มน้ำเปล่า 6-8 แก้วต่อวัน ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงระบภูมิคุ้มกัน หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหวานต่างๆ ซึ่งช่วยลดการได้รับพลังงานเกินควรและรักษาน้ำหนักตัว ในช่วงที่ต้องกักตัวอยู่กับบ้าน
8. จำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีคุณค่าทางอาหารน้อย ให้พลังงานสูง และมีผลกระทบต่อสุขภาพ
9. นอกจากเรื่องอาหารแล้ว ไลฟ์สไตล์ก็มีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพในช่วงเวลาวิกฤตินี้ เพื่อให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานอย่างเต็มที่ เราควร
- ไม่สูบบุหรี่
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- นอนหลับให้เพียงพอ
- อย่าเครียดมากเกินไป
อ้างอิงจาก: http://www.bangkokhealth.com/index.php/health/health-general/food-nutrition/542-โภชนาการกับสุขภาพ.html2.