8 จังหวัดติดเชื้อโควิด-19 สูงสุดในไทย
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเห็นได้จากตัวเลขที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงผ่านศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า-2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 127 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อสะสม 1,651 ราย ใน 61 จังหวัด เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน รวมผู้เสียชีวิตสะสม 10 ราย โดยผู้ติดเชื้อทั้งหมดแบ่งเป็น สัญชาติไทย 1,407 ราย สัญชาติอื่น 244 ราย แยกเป็นผู้ป่วยรายพื้นที่ กทม. และนนทบุรี 869 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 77 ราย ภาคเหนือ 55 ราย ภาคกลาง 172 ราย และภาคใต้ 206 ราย
แต่หากพิจารณาลงลึกในรายจังหวัดจะพบว่า มี 8 จังหวัด ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ได้แก่ นนทบุรี 79 ราย, ภูเก็ต 69 ราย, ยะลา 42 ราย, สมุทรปราการ 48 ราย, ชลบุรี 53 ราย, ปัตตานี 44 ราย, สงขลา 30 ราย และเชียงใหม่ 32 ราย
ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อยืนยันสะสม “นำโด่งอย่างน่าตกใจ” เนื่องจากจังหวัดเหล่านี้ล้วนเป็นเมืองสำคัญด้านอุตสาหกรรม-การท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของประเทศ ประกอบกับที่ตั้งของจังหวัดยังเป็นศูนย์กลางทางด้านคมนาคมในภูมิภาค รวมถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ติดกับประเทศมาเลเซียก็มีรายงานพบผู้ติดเชื้อ ที่เดินทางกลับมาจากการทำพิธีทางศาสนาเพิ่มสูงขึ้นด้วย
ภูเก็ตปิดเกาะ
ภูเก็ตและเชียงใหม่ถือเป็น 2 เมืองท่องเที่ยวหลักที่ทำรายได้อันดับต้น ๆ ของประเทศไทย รวมกันเกือบ 400,000-500,000 ล้านบาท มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจังหวัดละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคนต่อปี แต่วันนี้ “ภูเก็ต” กลับขึ้นชาร์ตติดอันดับพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุดเป็นอันดับ 3 รองจาก กทม. และนนทบุรี ด้วยจำนวน 55 คน ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้มีคำสั่ง “ปิดเกาะ” หยุดการสัญจรทั้งทางบก ทางน้ำ ทันทีตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา ส่วนทางอากาศจะเริ่มวันที่ 10 เมษายนนี้ หลังจากที่ได้ประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกบ้านตั้งแต่ 2 ทุ่มถึงตี 3 เป็นจังหวัดแรกตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2563 จากที่ก่อนหน้านั้นสั่งปิดสถานบันเทิง สถานบริการต่าง ๆ แต่ “เอาไม่อยู่” ขณะที่ภูเก็ตยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่บนเกาะหลายร้อยคน ด้านเชียงใหม่ได้ออกมาตรการอย่างเข้มงวดตั้งแต่การประกาศปิดสถานประกอบการ 28 ประเภทเช่นเดียวกัน
2 เมืองอุตสาหกรรมวิกฤต
ด้านจังหวัดสมุทรปราการ และชลบุรี ที่ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองอุตสาหกรรม” มีทั้งแรงงานต่างถิ่น แรงงานต่างด้าว เข้าไปอยู่อาศัยกันมาก ขณะเดียวกัน ชลบุรียังเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของประเทศที่ต่างชาตินิยมเดินทางมาด้วย
ปัจจุบันทั้ง 2 จังหวัดมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน ซึ่งตลอดเวลาหลายสัปดาห์ ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 2 จังหวัดได้ประกาศสั่งปิดสถานบริการ สถานบันเทิง สถานที่เสี่ยงทั้งห้างสรรพสินค้า สนามชนไก่ สนามกอล์ฟ ฯลฯ เช่นเดียวกับอีกหลายจังหวัด
แต่ด้านจังหวัดชลบุรี ดูหมือนจะมีความเข้มงวดกว่า โดยเริ่มสั่งปิดสถานบริการ-บันเทิงตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2563 ไปจนกระทั่งปิดร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ชม. ให้ปิดตั้งแต่ 4 ทุ่มจนถึงตี 5, งดการใช้พื้นที่บริเวณชายทะเล ชายหาด ตั้งแต่เวลา 20.00-06.00 น. และบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือไม่เดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดชลบุรี
ปัตตานี-ยะลาสั่ง lockdown
ด้านจังหวัดยะลาและปัตตานี มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นจำนวนมากทุกวันอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อคนไทยที่ข้ามกลับมาจากประเทศมาเลเซีย เฉพาะวันที่ 23 มีนาคม 2563 จังหวัดยะลามียอดผู้ติดเชื้อวันเดียวถึง 17 ราย นอกจากนี้ยังมีบุคลากรทางแพทย์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ปัจจุบันพบว่า มีผู้ติดเชื้อสะสม 48 ราย เสียชีวิต 1 ราย ขณะที่ปัตตานีมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวันอย่างก้าวกระโดด โดยในวันที่ 24 มีนาคม 2563 ภายในวันเดียวมียอดผู้ติดเชื้อถึง 20 ราย ปัจจุบันจังหวัดปัตตานีทั้งจังหวัดมีผู้ป่วยสะสมรวม 44 ราย
ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 2 จังหวัด สั่งปิดเมือง “lockdown” ห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออก ข้ามเขตพื้นที่จังหวัดยะลา เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล การขนส่งสินค้าที่จำเป็น สินค้าอุปโภค-บริโภค หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ทั้งนี้ ผู้ได้รับการยกเว้นต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด ปิดกั้นเส้นทางเข้า-ออกทุกจุด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
เมืองหน้าด่านสงขลาเสี่ยงสูง
ขณะที่จังหวัดสงขลาเมืองหน้าด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกัน ล่าสุดได้ประกาศปิดช่องทางเข้า-ออกระหว่างประเทศทั้งท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าเรือน้ำลึกสงขลา พร้อมประกาศปิดด่านและจุดผ่านแดนทั้งหมด ให้ผ่านได้เฉพาะการขนส่ง และล่าสุดกำลังจะรับคนไทยที่ตกค้างกลับประเทศประมาณ 300 คน ซึ่งมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงมาก
อย่างไรก็ตาม วันนี้ประเทศไทยยังคงเหลือจังหวัดที่รอดปลอดภัยจากโควิด-19 เพียง 15 จังหวัด ได้แก่ น่าน, ลำปาง, บึงกาฬ, สกลนคร, กำแพงเพชร, ชัยนาท, พระนครศรีอยุธยา, พิจิตร, สมุทรสงคราม, สิงห์บุรี, อ่างทอง, ตราด, พังงา, ระนอง และสตูล