22 มีนาคม 2563 วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในช่วงภาวะที่มีความผันผวนตลาดเงินตลาดทุนทั้งในต่างประเทศและกระทบกับไทย ดังนั้นเพื่อดูแลผู้ถือหน่วยกองทุน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทางธปท. จึงออก 3 มาตรการได้แก่
1. กองทุนรวมตราสารหนี้ธปท. จะจัดตั้งกลไกพิเศษเพิ่มสภาพคล่อง ผ่านธนาคารพาณิชย์โดยธนาคารพาณิชย์สามารถเข้าซื้อหน่วยลงทุนจากกองทุนรวมตลาดเงิน และกองทุนรวมตราสารหนี้ที่เป็นกองทุนเปิดที่เป็นสินทรัพย์คุณภาพดี ซึ่งธนาคารพาณิชย์สามารถนำกองทุนฯ ที่ซื้อมาวางเป็นหลักประกันกับธปท. เพื่อขอสภาพคล่องเพิ่มเติมจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ปัจจุบันมูลค่ากองทุนทั้ง 2 ประเภทที่ธปท.เปิดให้ธนาคารพาณิชย์นำมาเป็นหลักประกันได้มีมูลค่ารวมมากกว่า 1 ล้านล้านบาทหุ้น
2. หุ้นกู้หรือตราสารหนี้ภาคเอกขน ทางสมาคมธนาคารไทย สมาคมธุรกิจประกันภัย ธนาคารออมสิน กองทุนบำเน็จบำนาญข้าราชการ จะร่วมกันจัดตั้ง กองทุนเสริมสภาพคล่องเพื่อลดความเสี่ยงของการระดมทุนในตราสารหนี้ที่วงเงินเริ่มต้น 70,000-100,000 ล้านบาท มีผู้แจ้งความจำนงเข้าร่วมแล้ว 80,000 ล้านบาท
ซึ่งกองทุนนี้จะไปเสริมส่วนขาดของตราสารหนี้ที่มีการ Roll over ในตลาดแต่ไม่สามารถระดุมทุนได้ตามวงเงินเต็มของตราสารหนี้ ทั้งนี้จะเป็นเงินระยะสั้นอายุไม่เกิน 270 วัน
3. ตลาดพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งเป็นหัวใจตลาดตราสารหนี้ทั้งหมดเพราะเป็นตัวกำหนดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง โดยทาง ธปท. พร้อมดูแลให้ตลาดพันธบัตรรัฐบาลให้เกิดประสิทธิภาพ โดยทางธปท.พร้อมเข้าไปเพิ่มสภาพคล่องให้เมื่อตลาดมีไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ช่วง 13-20 มี.ค 63 ที่ผ่านมาธปท. เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลมากกว่า 100,000 ลบ. เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาดพันธบัตร รวมถึงยังมีการลดวงเงินพันธบัตรบางส่วน และยกเลิกการออกพันธบัตรธปท. บางส่วนเพื่อให้มีสภาพคล่องอยู่ในภาวะปกติ
เนื้อหาโดย: nupenkondee