10 คำพูดสุดท้ายจากนักโทษประหาร

1. James D. French “เขียนพาดหัวข่าวแบบนี้มั้ยล่ะ? เฟรนช์ฟรายส์!”

James D. French ถูกประหารด้วยเก้าอี้ไฟฟ้าในวันที่ 10 สิงหาคม 1966 คำพูดสุดท้ายของเขาคือ “เขียนพาดหัวข่าวแบบนี้มั้ยล่ะ? เฟรนช์ฟรายส์!” (เป็นการเล่นคำจากนามสกุลของเขา ซึ่งหมายความได้ว่า เฟรนช์ผู้โดนทอด) ซึ่งทั้งหลักแหลมและน่าขนลุกไปพร้อมๆ กัน เขาโดนพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต หลังจากทำการฆาตกรรมคนขับรถที่รับเขาขึ้นรถ ขณะที่ติดคุก James อยากจะฆ่าตัวตายหนีความผิด แต่ไม่มีความกล้าพอที่จะลงมือ จนเขาได้เจอทางออกนั่นก็คือการฆ่าเพื่อนร่วมคุกเพื่อให้ศาลสั่งประหาร และมันก็ได้ผล เขาถูกสั่งประหารด้วยเก้าอี้ไฟฟ้า ซึ่ง James ถือเป็นนักโทษคนสุดท้าย ที่ได้รับโทษประหาร ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงกฏหมายยกเลิกโทษประหาร

2. Robert Alton Harris "ทุกคนเต้นรำไปกับ ยมทูต กริม รีปเปอร์"

Robert Alton Harris ต้องโทษประหารหลังจากฆาตกรรมเด็กชายวัยรุ่น 2 คน ในปี 1978 เขาและ น้องชาย พบเด็กชายอายุ 16 ปี 2 คน นั่งอยู่ในรถที่จอดอยู่ด้านหน้าลานจอดรถของซูเปอร์มาร์เก็ต พี่น้อง Harris ขึ้นรถไปกับพวกเขา แล้วสั่งให้พวกเขาขับรถไปจอดในพื้นที่ที่ไม่มีคน แล้วฆ่าพวกเขาทิ้ง ก่อนจะนำรถไปใช้เพื่อปล้นธนาคารต่อ Robert ถูกจับ 1 ชั่วโมงหลังจากการปล้น และตำรวจที่จับเขา ก็เป็นพ่อของหนึ่งในเด็กหนุ่มที่ถูกฆ่า ซึ่งในขณะนั้นเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกชายถูกฆ่า คำพูดสุดท้ายของ Robert ก่อนถูกประหารกลายเป็นที่จดจำของสาธารณะ เมื่อเขาพูดว่า "คุณสามารถเป็นราชาหรือคนกวาดถนนก็ได้ แต่ทุกคนต้องเต้นรำกับยมทูต" นั่นหมายถึง ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณก็หนีจากความตายไม่พ้นอยู่ดี

3. Roger Keith Coleman "ชายผู้บริสุทธิ์กำลังจะถูกฆ่าในคืนนี้"

คดีและโทษประหารของ Roger Coleman นั้นก่อให้เกิดการถกเถียงมากมาย และทำให้เขาได้รับความสนใจ จากสาธารณชนเนื่องจากเขายืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์จนวันสุดท้ายของชีวิต เขาถูกประหารด้วยเก้าอี้ไฟฟ้า ในวันที่ 20 พฤษภาคม 1992 และคำพูดสุดท้ายของเขาคือ "ชายผู้บริสุทธิ์กำลังจะถูกฆ่าในคืนนี้ เมื่อความบริสุทธิ์ของผมได้รับการพิสูจน์ ผมหวังว่าชาวอเมริกันจะตระหนักถึงความอยุติธรรม ของโทษประหารชีวิตเหมือนประเทศอื่นๆ ที่เจริญแล้วตระหนักได้" นักเคลื่อนไหวต่อต้านโทษประหาร ได้ออกมาสนับสนุนคำอุทธรณ์ของเขาจนวันสุดท้าย และหลักฐานในคดีของเขาก็ถูกนำมาวิเคราะห์ ทั้งก่อนและหลังประหาร เขาถูกตัดสินว่าทำการข่มขืนและฆ่าน้องสะใภ้ และหลักฐานจาก DNA ที่พบ หลังการประหารก็ยืนยันว่าเขามีความผิดจริง นอกจากนี้เขายังมีคดีพยายามข่มขืนคดีอื่นๆ อีกด้วย

4. Robert Charles Comer “ลุยเลยนักจู่โจม”

เป็นเรื่องปกติที่ผู้ต้องหาจะพยายามยื่นอุทธรณ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ไม่มีอะไรปกติสำหรับ Robert   เขาพยายามอย่างหนักที่จะยื่นอุทธรณ์ เพราะเขาอยากจะถูกประหารมาก เขาถูกตัดสินว่าฆ่าชายที่ไปตั้งแคมป์ ในที่เดียวกับเขา เช่นเดียวกับที่ข่มขืนหญิงสาวที่ไปตั้งแคมป์ซ้ำในวันเดียวกัน และเมื่อถูกคุมขัง เขาใช้เวลากว่า 7 ปีเพื่อให้ศาลตัดสินประหารชีวิต ในท้ายที่สุด เขาก็ได้รับในสิ่งที่ต้องการ และคำพูดสุดท้ายของเขาก็คือ  “ลุยเลยนักจู่โจม” ซึ่งเป็นคำพูดของทีมอเมริกันฟุตบอล และถือเป็นคำพูดสุดท้ายที่ประหลาดมาก

5. David Martin Long "พวกเขาสร้างสัตว์ประหลาดขึ้นในนั้น"

David Martin Long ได้ทำการฆาตกรรม 5 ครั้งในระยะเวลา 8 ปี อย่างไรก็ตาม เขาถูกจับในปี 1986 หลังจากฆ่าผู้หญิง 3 คนที่บ้านในเท็กซัส เขาเป็นนักโบกรถและกล่าวว่าเขาไม่มีที่ไป หญิงสาวทั้ง 3 คน จึงได้เสนอให้ที่พักกับเขา และเขาก็ฆ่าพวกเธอเป็นการตอบแทน เขาโทษระบบที่ทำให้เขากลายเป็นแบบนี้ และคำพูดสุดท้ายของเขาก็คือ "ผมถูกเลี้ยงดูโดย California Youth Authority ผมไม่สามารถบอกได้ว่า มันเริ่มจากตรงไหนและเกิดอะไรขึ้น แต่ผมเชื่อว่ามันเป็นผลลัพท์จากสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมในแคลิฟอร์เนีย ผมเคยอยู่ในโรงเรียนดัดสันดานและถูกขังไว้ที่นั่น และพวกเขาสร้างสัตว์ประหลาดขึ้นในนั้น แค่นั้น ผมไม่มีสิ่งอื่นจะพูดอีก"

6. John Spenkelink “โทษประหาร : ผู้ที่ไม่มีเงินจะต้องถูกลงโทษ"

John Spenkelink เป็นฆาตกรที่ถูกประหารด้วยเก้าอี้ไฟฟ้าในวันที่ 15 พฤษภาคม 1979 และเป็นนักโทษคนแรก ที่ถูกประหารในรัฐฟลอริดา หลังจากการนำโทษประหารกลับมาใช้อีกครั้งในปี 1976 เขาเคยหลบหนีจากคุกที่อื่น และยิงอาชญากรคนอื่นๆ ในขณะหลบหนี เขายื่นอุทธรณ์กว่า 22 ครั้ง โดยสร้างประเด็นว่าโทษประหารนั้น เป็นการเลือกปฏิบัติสำหรับคนจน คำพูดสุดท้ายของ John คือ “โทษประหาร : ผู้ที่ไม่มีเงินจะต้องถูกลงโทษ" มีการคาดเดาว่าเขาเสียชีวิตก่อนถูกประหาร เพราะพยานไม่เห็นว่าเขาถูกนำเข้ามา เนื่องจากห้องถูกบังไว้

7. Anna Antonio “ฉันไม่กลัวความตาย”

Anna Antonio เป็นหญิงสาวชาวอิตาเลียนที่ถูกประหารเนื่องจากการจ้างวานฆ่า เธอได้ว่าจ้างให้ฆ่าสามี ของเธอ ทำให้เธอถูกสั่งประหารด้วยเก้าอี้ไฟฟ้าในวันที่ 9 สิงหาคม 1934 ในขณะถูกจับตรึงเก้าอี้ไฟฟ้า เธอก็ท่องบทสวดซ้ำไปซ้ำมา และคำพูดสุดท้ายของเธอก็คือ "ฉันไม่แคร์ว่าคุณจะทำอะไร ฉันไม่กลัวความตาย ฉันไม่สงสัยในมโนธรรมของฉัน ฉันไม่เคยฆ่าใคร" ในขณะที่คนอื่นๆจะใช้คำพูดสุดท้ายเพื่อบอกลาคนรัก เธอกลับตัดสินใจที่จะทำให้คนอื่นมั่นใจว่าเธอบริสุทธิ์ แต่โชคร้ายที่มันไม่ได้ช่วยให้เธอรอดชีวิตอยู่ดี

8. Thomas J. Grasso “ผมไม่ได้ SpaghettiO” 

Thomas J. Grasso ถูกสั่งประหารเนื่องจากรัดคอหญิงชราอายุ 85 ปี ด้วยไฟประดับต้นคริสต์มาส และนักโทษในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่จะได้รับสิทธิ์ในการเลือกอาหารมื้อสุดท้ายตามต้องการ Thomas สั่งชีสเบอร์เกอร์, หอยแมลงภู่อบ, หอยกาบนึ่ง, ซี่โครงบาร์บีคิว 6 ชิ้น, พายฟักทองครึ่งชิ้น สตรอเบอร์รีมิลค์เชค และ SpaghettiO (พาสต้าแบบกระป๋อง) กระป๋องใหญ่พร้อมกับมีทบอล   อย่างไรก็ตาม เขาไม่ปลื้มใจกับอาหารที่ได้รับ จนต้องใช้คำพูดสุดท้ายเพื่อแสดงความผิดหวัง คำพูดสุดท้ายของเขาคือ "ผมไม่ได้ SpaghettiO ผมได้แค่สปาเก็ตตี และผมอยากให้สื่อได้รู้เรื่องนี้" และนี่อาจกลายเป็นคำสั่งเสียที่ประหลาดที่สุดที่เคยมีคนพูดไว้ก่อนถูกประหาร

9. Aileen Wuornos “ฉันจะกลับมาเหมือนในเรื่อง Independence Day”

ตามสถิติแล้วฆาตกรต่อเนื่องส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ชาย แต่ก็มีเคสของฆาตกรผู้หญิงเช่นกัน และหนึ่งในนั้น ก็คือ Aileen เธอทำงานเป็นโสเภณีและฆ่าเหยื่อผู้ชายไปกว่า 7 คน ในระหว่างปี 1989 และ 1990 เธอกล่าวว่าเหยื่อทุกคนนั้นพยายามที่จะข่มขืนเธอและบางคนก็ทำสำเร็จ ดังนั้นเธอจึงใช้อาชีพเป็นหนทาง เพื่อการแก้แค้น และกล่าวว่าเหยื่อทุกคนพยายามป้องกันตัว เธอถูกประหารชีวิตในปี 2002 คำพูดสุดท้ายของเธอคือ "ฉันแค่อยากจะบอกว่าชั้นกำลังเดินทางมากับยาน และฉันจะกลับมาเหมือนในเรื่อง Independence Day กลับมาพร้อมพระเยซู ในวันที่ 6 กรกฎาคม เหมือนยานแม่ในหนัง และฉันจะกลับมา"

10. Ted Bundy “ส่งความรักให้กับครอบครัวและเพื่อนของผมด้วย”

Ted Bundy มีชื่อจริงว่า Theodore Robert Cowell เป็นฆาตกร, นักข่มขืน, ชอบมีเพศสัมพันธ์กับศพ และชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก ที่เลวร้ายที่สุดในโลก เขาข่มขืนและฆ่าเด็กสาวจำนวนมากในช่วงปี 70 และก่อนหน้านั้น เขาสารภาพในคดีฆาตกรรมอย่างน้อย 30 คดี แต่จำนวนเหยื่อที่แท้จริงมีมากกว่านั้น เขาถูกสั่งประหารในวันที่ 24 มกราคม 1989 และคำสุดท้ายของเขาคือ "ผมอยากจะส่งความรักให้กับครอบครัว และเพื่อนของผม" ซึ่งอาจจะดูไม่สยดสยอง ถ้ามันไม่ได้ถูกพูดโดยฆาตกรซาดิสต์ จากการทดสอบโดยจิตแพทย์ พบว่าเขาไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นความรัก, ความสำนึกผิด, ความรู้สึกผิด หรือความเห็นอกเห็นใจ

Cr.thirtyverse