ปรบมือรัวให้เธอ 2 สาวใจงาม เก็บกระเป๋าใส่เงินร่วมแสนได้ รีบตามหาเจ้าของ
กลายเป็นเรื่องราวที่น่าชื่นชมไปทั่วทั้งโซเชียล เมื่อ 2 สาวพนักงานหัวใจงาม ได้ทำในสิ่งที่คนดีหัวใจซื่อสัตย์ได้ทำกัน นั่นก็คือ การเก็บกระเป๋าเงินสดร่วมแสนบาทเข้าแจ้งความเพื่อส่งคืนเจ้าของ โดยพวกเธอเชื่อว่าเจ้าของเงินคงเบิกไว้ใช้ช่วงเทศกาลปีใหม่ หากไม่ได้คืนคงเดือดร้อนแน่และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
โดย พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ. บ้านบึง ได้รับแจ้งจากความจากนางสาวสุธีพร เย็นสุข อายุ 40 ปี และนางสาวสุเพียร ปะจีน อายุ 27 ปี พนักงานของบริษัท ฮัลซอล อิเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ว่าหลังแวะกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าธนาคาร เขตอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรีและได้พบกระเป๋าสีเทาหล่นที่พื้นถนน ภายในมีสมุดบัญชีธนาคารหลายบัญชี มีเงินสดเป็นจำนวนมาก ซึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการตรวจนับ พบว่ามีเงินจำนวนทั้งหมด จำนวน 63,000 บาท จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตามหาเจ้าของฃ
ในเวลาต่อมานางสาวนวรัตน์ พูลสวัสดิ์ อายุ 48 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ย่านบ่อวิน และนาป่า ได้เดินทางมาพบที่ สภ.บ้านบึง เผยว่า กระเป๋าดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยทราบจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลชื่อบัญชี และติดต่อมา ขณะที่ตนกำลังทำธุระอยู่ที่ตัวอำเภอเมืองชลบุรี ที่มีการมาทำธุระกรรมทางการเงินหลายที่ รวมถึงธนาคารกสิกรไทยสาขาบ้านบึง ตอนที่นางสาวสุธีพร และนางสาวสุเพียร ประกาศถามหาเจ้าของ ก็อยู่ที่ธนาคาร ได้ยินว่าใครทำกระเป๋าหล่น แต่ก็ไม่ได้สนใจ
เนื่องจากต้องรีบไปทำธุระในพื้นที่ มารู้อีกทีตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาสอบถาม พบว่ากระเป๋าได้หายไปจริง เงินจำนวนดังกล่าวได้เบิกมาจากธนาคารแห่งหนึ่งย่านบ่อวินจำนวน 100,000 บาท และได้นำออกมาใช้บ้างส่วนแล้ว คาดว่าหายไปประมาณ 70,000 บาท
ด้านนางสาวสุธีพร เย็นสุข เล่าว่า ตนเองกับเพื่อน หยุดงานในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงชวนกันออกมากินส้มตำ แต่ยังไม่ได้ไปถึงร้านส้มตำก็มาเก็บกระเป๋าเงินได้ ตนเองไม่ได้นับเงิน แต่คิดว่าเป็นแสน เพราะดูจากการรัดมีพลาสติกมัดอย่างดี คิดว่าเจ้าของคงเบิกเงินมาใช้ในช่วงปีใหม่ และคงเดือดร้อนแน่ๆถ้าเงินมาหายไป ตนเองเป็นพนักงานเงินเดือนเข้าใจดีว่า แต่ละบาทแต่ละสตางค์กว่าจะได้มาต้องเหนื่อยต้องลำบาก จึงนำส่งตามหาเจ้าของดีกว่า
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ. ทวี กุดแถลง ผู้กำกับการ สภ.บ้านบึง ได้ให้นางสาวนวรัตน์ แสดงหลักฐาน นำบัตรประชาชนมาตรวจสอบ พบว่าสมุดบัญชีธนาคารตรงกัน กับบัตรประชาชน จึงได้ทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะส่งมอบให้นางสาวนวรัตน์คืนไป โดยที่มีการมอบสินน้ำใจในการทำดีที่เก็บเงินได้ให้กับนางสาวสุธีพร และนางสาวสุเพียร จำนวน 5,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจในการทำดี