เด็กชายตัวดำๆ ศัลยกรรมยกเครื่องใหม่หมด ก่อนสวยขึ้นอย่างกับนางฟ้า
สังคมในทุกวันนี้ แทบจะเรียกได้เต็มปากแล้วว่าสามารถยอมรับบุคคล “เพศที่สาม” หรือเพศทางเลือกได้แล้ว เพราะปัจจุบันนั้นมีหลายคนที่ตัวเป็นหญิงแต่ใจเป็นชาย และกลับกันตัวเป็นชายแต่ใจกลับเป็นหญิงก็มีถมไป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บุคคลเหล่านี้มักจะเจอคำนินทาว่าร้าย และคำดูถูกสารพัด แต่น้อยคนนักที่จะเลือกใช้คำพูดเหล่านั้นมาเป็นพลังเป็นแรงผลักดันให้ตัวเอง
อย่างเช่นคุณ luv10peace สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ตัดสินใจเดินตามฝันของตัวเองอย่างไม่ย่อท้อถึงแม้ตัวจะเป็นชาย แต่ใจคือหญิงแบบเต็มร้อย ซึ่งพื้นฐานเธอเป็นเด็กผู้ชายตัวดำๆ และโดนคำดูถูกต่างๆ นาๆ แต่เธอก็ไม่ย่อท้อ และครอบครัวเธอรับได้ จึงได้พยายามทำงานเก็บเงินเพื่อ “ศัลยกรรมแปลงเพศ” และการทำทุกส่วนของตัวเองให้กลายเป็น “หญิง” และที่สำคัญที่เธอทำทั้งหมดนั้นมาจากน้ำพักน้ำแรงของเธอเองที่ทำงานเก็บหอมรอมริบ จนปัจจุบันเธอเป็นที่รักของคนมากมาย โดยเรื่องราวจะเป็นอย่างไรมาชมกันเลย
แนะนำตัวก่อนนะคะ เราชื่อ เอ็ม ตอนนี้อายุ 24 ปีค่ะ เคยได้อ่านประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเพื่อน ๆ หลาย ๆ คน ก็เลยแอบมานึกถึงตัวเองว่าตัวเราเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองมาตั้งแต่เด็กเหมือนกัน วันนี้ก็เลยขอยืมไอดีเพื่อน เพื่อมาแชร์ประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยตรงที่เกิดขึ้นกับตัวเอ็มเองค่ะ
เริ่มเลยละกันเนอะ จะได้ไม่เสียเวลาเพื่อน ๆ
ต้องบอกก่อนเลยว่า เราเคยเป็นเด็กผู้ชายตัวดำ ๆ เกิดที่จังหวัดโคราช มาโตที่ปากช่อง มักจะถูกเพื่อนล้อเรื่องสีผิวมาโดยตลอด ว่าดำบ้างล่ะ ขาเรืองแสงบ้างล่ะ (เพราะมันดำบวกกับการทาครีมหนัก) แล้วบวกกับที่ว่าสังคมตอนนั้นยังไม่ยอมรับเพศที่สามได้มากขนาดนี้ด้วย เราเลยได้รับอิทธิพลการดูถูกจากคนรอบข้างมาเยอะพอสมควร เราจะให้ดูรูปตอนเด็ก ๆ ไปพลาง ๆ พร้อมพัฒนาการการเปลี่ยนแปลงตัวเองของเราไปละกันเนอะ
นี่สมัยยังเด็กมาก ๆ คงยังดูไม่ออก 555+
โตขึ้นมาอีกหน่อย (คงไม่ต้องบอกก็รู้เนอะว่าคนไหน) 555+ ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ตัวเอง รู้แค่ว่าชอบของสวย ๆ งาม ๆ แค่นั้น ยังไม่มีความรู้สึกว่าชอบผู้ชาย
เรามารู้ตัวว่าเราไม่ใช่ผู้ชายตอน ป.6 ตอนนั้นเพื่อนทุกคนอึ้งมากเพราะตอนเข้ามาเรียนนางแอ๊บแมนจ้า 555+ หลังจากนั้นก็เริ่มมีการเปิดตัวเอง ด้วยอาการหลาย ๆ อย่างที่เพื่อน ๆ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า “อีนี่ตุ๊ดละ” 555+ จนเวลาก็เดินทางมาจนถึง ม.3 ตอนนั้นรู้ล่ะว่ายังไงเราก็อยากเป็นผู้หญิง เลยตัดสินใจเปิดใจคุยกับทางบ้าน และโชคดีมากที่ทางบ้านเรารับได้ แต่มีกฎตายระหว่างเอ็มกับแม่คือ แม่ขอเลยว่าถ้ารักที่จะเป็นผู้หญิง ก็ต้องทำตัวให้เป็นผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นกิริยาท่าทาง รวมไปถึงการใช้ชีวิต มารยาท เราก็ตอบตกลงเลยทันที แต่ตอนนั้นงงมากว่าจะสวยได้ยังไง
ทางม้าลายชัด ๆ ดูสิ มันจะสวยได้ยังไง (ตอนนั้นมีแต่คนชมว่าหล่อ คม อย่าเป็นเลย ไม่รุ่งหรอก) แต่ในใจนี่คือแบบ… ฆ่าฉัน ๆ ให้ตายดีกว่า 555+
จนจบ ม.3 จากปากช่อง ก็ได้มีโอกาสมาเรียนต่อที่อเมริกา ตอนนั้นรู้สึกอย่างเดียวเลยว่าดีใจมาก เนี่ยแหละหนทางความสวยของฉัน 555+ มาอยู่อเมริกาก็ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ลำบากค่ะ แต่ก็สนุกดีนะ คิดอย่างเดียวว่าเราจะต้องดูดีขึ้น ต้องสวยขึ้น เพราะวันที่เรากลับมาเมืองไทย ทุกคนต้องตะลึง (คิดแบบนี้จริง ๆ)
นี่คือปีแรกที่ได้มาเรียนอเมริกา และนางก็เป็นนักกีฬาโรงเรียนจ้า (ผมเริ่มยาวละจ้า) ผู้ชายถามว่า เอ็มยูเป็นเกย์ป่ะ ? นี่ตอบเลยว่า… โนว ๆๆ แอมนอทเกย์นะ (แต่ก็ไม่ใช่ผู้ชายนะ) 55+ ก็ใช้ชีวิตในการเป็นนักเรียน high school จนถึงอายุ 18 ปี ตอนนั้นผมเริ่มยาวละ ก็เลยเริ่มปรึกษากับแม่อีกครั้งหนึ่งว่าเราต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่เปลี่ยนใจละ คืออยากเป็นผู้หญิงแบบเต็มตัว แม่บอกคิดให้ดีก่อนดีไหม เป็นแบบไม่ออกได้ไหม คือมันเป็นเรื่องใหญ่นะ กลับไปคิดให้มาก ๆ อีกสักนิดจะดีกว่านะ เรานี่แบบ… ใจแป้วเลยตอนนั้น ก็เลยกลับมาคิดใหม่ คิด ๆๆ คิดทบทวนอีกทีว่ามันคือสิ่งที่เรารู้สึกและอยากจะเปลี่ยนจริง ๆ ใช่ไหม คำตอบก็ออกมาเป็นแบบเดิม นั่นคือ เราอยากเป็นผู้หญิง เราอยากสวย เราไม่ได้อยากเป็นเกย์ เราอยากเป็นเหมือนแม่ เพราะแม่ทั้งสวยและเก่ง
เราใช้เวลาคิดศึกษาหาข้อมูลอยู่เป็นเวลา 1 ปี จนอายุ 19-20 ปี เลยคุยกับแม่ใหม่อีกรอบ โดยรอบนี้มีน้องชายมาร่วมนั่งคุยด้วย เราก็เลยบอกแม่ไปเลยว่า แม่… หนูคิดดีแล้วนะ และหนูก็ไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจแน่นอน ถ้าการตัดสินใจของหนูมันจะส่งผลดีหรือผลเสียยังไงหนูก็รับได้ค่ะ แม่ก็เลยถามว่าอยากจะทำอะไร ? เราก็เลยบอกแม่ว่าอยากแปลงเพศก่อน แล้วแม่ก็นิ่ง ๆ ไป คือเราก็รู้แหละแกคงไม่ค่อยเห็นด้วย บวกกับน้องซึ่งเป็นผู้ชาย เราก็แอบกังวลนิดหนึ่งว่าน้องเราล่ะ จะยังไง เพื่อนน้องจะล้อไหมว่ามีพี่เป็นแบบนี้ แต่น้องชายบอกว่าโอเค เพราะยังไงเราก็เปลี่ยนไม่ได้ แม่แกเลยปล่อย แต่ !!! ประเด็นตอนนั้นมันคือ เราต้องหาเงินทำเองนะ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เราเลยตั้งใจทำงานเก็บเงินด้วยตัวเราเอง จนทำได้สำเร็จ เราแปลงเพศตอนอายุ 20 ปี นั่นคืออย่างแรก อย่างที่สอง เราก็ทำงานเก็บเงินทำจมูก และอย่างที่สามเราก็มีโอกาสได้ทำหน้าอกตอนอายุ 22 ปี ทุกอย่างเป็นเงินของเราหมด โดยเราไม่ต้องแบมือขอเงินแม่เลยสักบาทเดียว คือมันเป็นความภูมิใจอีกอย่างหนึ่งนะสำหรับเรา เราทำงานหาเงินเองตั้งแต่เด็ก ค่าใช้จ่ายส่วนตัวมันคือเงินของเราเองหมด แม่เลยไม่ว่าอะไร
และความภูมิใจอีกอย่างเมื่อไม่นานมานี้เอง เราได้เป็นพลเมืองของคนอเมริกาอย่างเต็มตัวเป็นที่เรียบร้อย และทางกฎหมายที่นี่ก็เปลี่ยนคำนำหน้าจากนายเป็นนางสาวโดยที่เราจะได้รับสิทธิการเป็นผู้หญิงเท่าเทียมกับผู้หญิงคนอื่น (ดีใจมากกกกกกก) เพราะจะมีสักกี่คนที่รู้ว่ามันสำคัญในการใช้ชีวิตกับเรามากขนาดไหน
หลังจากนั้นก็พัฒนาตัวเองมาเรื่อย ๆ ค่ะ ทั้งหน้าตา รูปร่าง ผิวพรรณ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนคล้ำมาตั้งแต่เด็ก ก็อาจจะไม่ได้ขาวจั๊วะหรอกค่ะ จำคำแม่ขึ้นใจเสมอว่าการที่เราเป็นแบบนี้ จะทำให้คนยอมรับได้นั้น สิ่งสำคัญเลยคือการวางตัว คนจะยอมรับหรือไม่ยอมรับเราได้นั้น ขึ้นอยู่กับการวางตัวของเราเป็นหลัก เราต้องขอบคุณการเลี้ยงดูของทางบ้าน แม่ ป๊า ที่เข้มงวดเรื่องวินัย การพูดจา ทุกอย่างที่ทุกคนสอนมันทำให้เราโตขึ้นมาเป็นคนแบบนี้จริง ๆ
เล่าตั้งนาน มาดูพัฒนาการช่วงหลัง ๆ ดีกว่า ติชมได้เลยนะ เราจะได้เอาไปพัฒนาตัวเอง
นี่แหละคุณแม่ผู้เข้มงวดเรื่องการวางตัวมาก ตอนนั้นยังหน้าเบี้ยวเพราะจัดฟันค่ะ 555+
และนี่ก็คือในวันที่มีหน้าอกหน้าใจเจ้าค่ะ 55+
ขยับมาอีกนิดกับพัฒนาการค่ะ แต่เหล็กดัดฟันยังคงอยู่
ผมยาวมากช่วงนั้น
และสุดท้ายก็เป็นช่วง 1-2 ปีหลังมานี้ค่ะ
ตอนนั้นทรายสีเพลิงกำลังดัง นี่ก็ตามรอยซะหน่อย ซานฟรานซิสโก
ก็ยังคงอยู่ที่ฟรานซิสโก
และนี่ก็ปีนี้ค่ะ 2015
เนี่ยแหละทุกคน แรงดูถูกจากใครหลาย ๆ คนในวันนั้น ทำให้เราฮึดอยากที่จะสวย เราเลยอยากจะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้กับใครหลาย ๆ คนที่กำลังหมดหวัง เชื่อเราเถอะ คนเรามันพัฒนาได้ อยู่ที่ว่าคุณจะมีความพยายามมากน้อยขนาดไหน ศึกษาหาข้อมูลให้ดี เอาคำกดดัน คำดูถูกทั้งหมดมาเป็นแรงบวก แล้วพัฒนาตัวเอง ยังไงคนเราก็ชอบมองของสวย ๆ งาม ๆ ค่ะ สู้ ๆ ค่ะ เราเป็นกำลังใจให้