12 ธันวาคม 2562 ศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิพากษาจำคุกนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นเวลา 16 เดือน ใน 3 ข้อหา ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ไก่ฟ้าหลังเทา ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ โดยหลุดข้อหาครอบครองซากเสือดำ ส่วนพวกอีก 3 คน ถูกลงโทษข้อหาครอบครองซากเสือดำด้วย

นอกจากนี้ ศาลยังยกฟ้องนายเปรมชัย ในข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาร่วมกันมีซากเสือดำ สัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ส่วนจำเลยที่ 2 และ 4 ได้แก่ นายยงค์ โดดเครือ คนขับรถ นางนที เรียมแสน แม่บ้าน และนายธานี ทุมมาศ นายพรานของนายเปรมชัย ถูกจำคุกรวมกัน ตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 2 ปี 17 เดือน โดยทั้ง 3 คน ต่างถูกลงโทษข้อหาครอบครองซากเสือดำทั้งสิ้น

ให้ประกัน เปรมชัย 1.5 แสนบาท หลังถูกจับข้อหาล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร

นายเปรมชัย พร้อมพวกอีก 3 คน ต้องร่วมกันชำระค่าเสียหายทางแพ่ง 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7 จุด 5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 4 กุภาพันธ์ 2561 เป็นต้นไป แก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

เป็นเวลากว่า 1 ปี ที่คดีล่าเสือดำในป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก อ ทองผาภูมิ จ กาญจนบุรี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม มีการสืบพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยรวมเกือบ 20 ปาก ก่อนศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้

ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ได้แก่ เสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เนื้อเก้ง พร้อมด้วยอาวุธปืน และเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง เป็นพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี ตรวจพบบริเวณจุดห้ามตั้งแคมป์นักท่องเที่ยว พร้อมกับตัวของประธานกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย และพวกอีก 3 คน เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2561

ข่าวนี้สร้างความตกตะลึงให้กับสังคมถึงการล่าสัตว์ป่าหายากของผู้ที่มั่งคั่งที่สุดรายหนึ่งของประเทศไทย

คุก 16 เดือน เปรมชัย ยกฟ้องข้อหาเก็บของป่า ครอบครองซากเสือดำ ฐานความผิดที่ศาลตัดสินลงโทษนายเปรมชัย จำเลยที่ 1 ได้แก่

1 ข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน

2 ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 8 เดือน

3 ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ไก่ฟ้าหลังเทา ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 เดือน รวมโทษจำคุก 16 เดือน

ส่วนข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาร่วมกันมีซากเสือดำ สัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลยกฟ้อง

นายพราน จำเลยที่ 4 ถูกลงโทษจำคุกหนักสุด 2 ปี 17 เดือน

จำเลยที่ 2 และ 4 ซึ่งเป็นคนขับรถ แม่บ้าน และนายพราน ล้วนถูกลงโทษข้อหาร่วมกันครอบครองซากสัตว์ป่า เสือดำ โดยไม่ได้รับอนุญาต

จำเลยที่ 2 นายยงค์ โดดเครือ คนขับรถ ถูกลงโทษจำคุกรวม 13 เดือน ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง จำคุก 3 เดือน ร่วมกันพาอาวุธไปในที่สาธารณะ จำคุก 6 เดือน ครอบครองซากเสือดำ จำคุก 4 เดือน ยกฟ้องข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่า และเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวน

ส่วนจำเลยที่ 3 นางนที เรียมแสน ซึ่งเป็นแม่บ้าน ศาลสั่งจำคุก 4 เดือน ปรับ 10000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ข้อหาร่วมกันมีซากเสือดำในครอบครอง เพียงข้อหาเดียว

ศาลตัดสินความผิดแก่จำเลยที่ 4 นายธานี ทุมมาศ ในทุกข้อหา ไม่มีข้อหาใดยกฟ้อง รวมโทษจำคุก 2 ปี 17 เดือน ได้แก่ ข้อหามีอาวุธปืนในครอบครอง จำคุก 3 เดือน ข้อหาร่วมกันมีซากเสือดำในครอบครอง จำคุก 4 เดือน ข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธในที่สาธารณะ จำคุก 6 เดือน ข้อหาพยายามล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 4 เดือน ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งข้อหานี้มีโทษ จำคุก 1 ปี และข้อหาเก็บของป่าในเขตป่าสงวน จำคุก 1 ปี

ศาลให้ประกันตัวเปรมชัย 400000 บาท ห้ามออกนอกประเทศ

ไทยพีบีเอส รายงานว่า นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงผลการขอประกันตัวนายเปรมชัยว่า ผู้พิพากษาหัวหน้าจังหวัดทองผาภูมิ อนุญาตให้ประกันตัวนายเปรมชัย จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 คนละ 400000 บาท และจำเลยที่ 4 จำนวน 500000 บาท เนื่องจากระหว่างการพิจารณาคดีจำเลยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี แต่กำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาต

เปรมชัย ขอโทษ ส่วน หัวหน้าวิเชียร ชี้ เป็นความยุติธรรมแก่เสือดำที่ตายไป

ภายหลังฟังคำพิพากษาและการยื่นประกันตัวเสร็จสิ้น นายเปรมชัยได้ตอบคำถามท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมากที่รอการนำเสนอข่าว โดยผู้สื่อข่าวคนหนึ่งถามว่า มีอะไรที่อยากพูดกับสังคมไหมครับคุณเปรมชัย นายเปรมชัยตอบว่า มีอย่างเดียว ผมขอโทษครับ ก่อนจะขึ้นรถเดินทางออกจากศาล

ส่วนหัวหน้าวิเชียร กล่าวว่า คำพิพากษาเป็นไปในทางที่ดีต่อเสือดำและสัตว์ป่าที่ตายไป และ พอใจในระดับหนึ่ง ต่อผลการตัดสิน ส่วนการจะอุทธรณ์ต่อไปขอปรึกษากับผู้บังคับบัญชาระดับสูงและอัยการก่อน

ผมเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมหลาย ๆ คนทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมและมีความยึดมั่นจรรยาบรรณวิชาชีพ และวันนี้เราสามารถคงความยุติธรรมให้กับเสือดำที่ตายไป ขอนำเรียนพี่น้องชาวไทยทุกคนที่ติดตามว่า จะมีมวยล้มต้มคนดูหรือไม่ กฎหมายจะเอื้อมมือไปถึงผู้มีอำนาจทางการเงินไหม วันนี้พิสูจน์แล้วว่าศาลได้ทำให้กระจ่าง

ย้อนนาทีจับกุม

6 กุมภาพันธ์ 2561 เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก อ ทองผาภูมิ จ กาญจนบุรี ได้รับแจ้งว่าพบนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งลักลอบตั้งแคมป์พักแรมในบริเวณห้วยปะชิ อยู่ระหว่างหน่วยฯ ทิคอง กับหน่วยฯ มหาราช ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่อนุญาต

 

นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก กล่าวกับผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสหลังเกิดเหตุการณ์ว่า ผู้ช่วยของเขาคนหนึ่งไปแจ้งให้ย้ายไปในสถานที่จัดให้แต่กลุ่มดังกล่าวก็ไม่ยอมย้าย เจ้าหน้าที่เห็นผิดปกติจึงกระจายกำลังตรวจค้น เจอบุคคลที่มีอาวุธในป่า รวมทั้งเมื่อตรวจค้นในแคมป์ได้พบเนื้อสัตว์ป่าชำแหละ อยู่ในตู้แช่

เมื่อตรวจค้นบริเวณรอบ ๆ อีกก็พบอาวุธปืนสองกระบอกซึ่งถูกซุกซ่อนไว้ห่างจากตัวแคมป์ไม่เกิน 10 เมตร เอาเศษหญ้าต่าง ๆ ปกปิดไว้

ส่วนซากเสือดำนั้นเจอเมื่อขึ้นไปตรวจค้นโดยละเอียดหลังจากที่เชิญกลุ่มนายเปรมชัยมาที่ที่ทำการเขตฯ เพื่อสอบปากคำรวบรวมวัตถุพยานในการดำเนินคดี

หัวหน้าวิเชียรระบุอีกว่า การเจอซากเสือดำ สั่นสะเทือนคนทุ่งใหญ่มาก ที่สัตว์ผู้ล่าอย่างเสือขนาดใหญ่ถูกฆ่าอย่างทารุณและถลกหนังออกมา ไม่ได้ล่าเพื่อดำรงชีพแต่เป็นการล่าเพื่อวัตถุประสงค์อื่น

นายเปรมชัย ถูกควบคุมโดยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ เป็นเวลา 48 ชั่วโมง ก่อนได้รับประกันตัว

 

ฟ้อง 6 ข้อหา

อัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กับพวก ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 219 2561 ใน 6 ข้อหา เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2561 ประกอบด้วย

1 ฐานร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

2 ฐานร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต

3 ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

4 ฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต

5 ฐานร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย

6 ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต คดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ เปรมชัย 6 กุมภาพันธ์ 2561

เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก อ ทองผาภูมิ จ กาญจนบุรี ได้รับแจ้งว่าพบนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งตั้งแคมป์พักในบริเวณจุดห้ามตั้ง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่าหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวมีสมาชิก คือ นายเปรมชัย กรรณสูต และพบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง คือ ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง รวมทั้งซากเสือดำ พร้อมด้วยอาวุธปืน และเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ใน จ กาญจนบุรี อนุญาตให้ให้ประกันตัว เปรมชัย กับพวกอีก 3 คน ด้วยวงเงินคนละ 150000 บาท

9 ถึง 28 ก.พ. 2561 พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ และชุดพญาเสือ ตรวจหาหลักฐานในที่เกิดเหตุ กองนิติวิทยาศาสตร์ กรมอุทยานฯ เริ่มตรวจหาดีเอ็นเอจากชิ้นเนื้อเสือดำ

2 มีนาคม. 2561 นายเปรมชัย และพวกอีก 3 คน เดินทางมาให้ปากคำครั้งแรกที่ สภ ทองผาภูมิ จ กาญจนบุรี

13 มีนาคม 2561 ตำรวจสรุปสำนวนส่งให้อัยการภาค 7 มีความเห็นสั่งฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูตร และพวกรวม 4 คน รวม 10 ข้อหา

30 เมษายน 2561 อัยการภาค 7 ได้แถลงผลการพิจารณาคดี นายเปรมชัย กรรณสูต กับพวก รวม 4 คน ตามคำชี้ขาดอัยการสูงสุด ฟ้องนายเปรมชัย 6 ข้อหา และผู้ต้องหาคนที่ 2 และ 4 คนละ 5 ถึง 8 ข้อหา

21 พฤษภาคม 2561 นายเปรมชัย กรรณสูต และพวก จำเลย ที่ 1 และ 4 และทนายของเปรมชัยเดินทางมาศาลทองผาภูมิ ตามนัดหมายสืบพยาน แต่ทนายของจำเลยที่ 2 และ 4 ไม่มา จึงขอเลื่อนเวลา ศาลนัดตรวจพยานใหม่วันที่ 6 มิถุนายน

6 มิถุนายน 2561 ทนายของนายเปรมชัย ยื่นคำร้องต่อศาลขอโอนคดีล่าสัตว์ป่า ไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 ศาลจังหวัดทองผาภูมิได้ส่งคดีนี้ไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยก่อน จึงให้เลื่อนนัดพร้อมไปเป็นวันที่ 27 สิงหาคม

27 สิงหาคม 2561 ประธานศาลอุทธรณ์ มีคำวินิจฉัยให้คดีนายเปรมชัย กรรณสูต และพวกร่วมกันล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่อยู่ในอำนาจการพิจารณาคดีของศาลจังหวัดทองผาภูมิ

27 พฤศจิกายน

26 ธันวาคม 2561 ศาลจังหวัดทองผาภูมิ สืบพยานฝ่ายโจทก์และจำเลย รวม 17 ปาก

25 มกราคม 2562 ฝ่ายโจทก์ จำเลย แถลงปิดคดี

19 มีนาคม 2562 ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้นัดฟังคำ พิพากษา