ช่อ ไม่ให้ผ่าน ชิมช้อปใช้ เต็ม 100 เอาไป 2 คะแนน งบ 1.9 หมื่นล้าน แต่เงินไม่ถึงคนจน
นับว่าเป็นโครงการที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับโครงการ ชิม ช้อป ใช้ ของรัฐบาลที่แจกเงิน 1,000 ให้ประชาชนออกนอกบ้านไปใช้เงินเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมอบความสุขให้ประชาชน โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่รัฐสภา น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ ของรัฐบาลชุดนี้ว่า หากให้คะแนนเต็ม 100 ขอให้แค่ 2 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนความพยามยามกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเหลือประชาชน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นมีการใช้งบประมาณมากถึง 1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อวิกฤติทางเศรษฐกิจในขณะนี้ และการแจกหว่านเงินครั้งนี้ไม่ได้มีเป้าหมายชัดเจนว่าจะเจาะจงที่ประชาชนกลุ่มไหน
มีการกำหนดเงื่อนไขลงทะเบียนแบบใครมาก่อนได้ก่อน ซึ่งมีขั้นตอนการลงทะเบียนที่ยุ่งยากซับซ้อน คนจะลงทะเบียนได้ต้องมีมือถือ อินเทอร์เน็ตที่ดีมีประสิทธิภาพ และมีเวลาพอมานั่งจ้องลงทะเบียน ทำให้คนที่ได้รับประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจไปถึงแค่คนชั้นกลางที่อยู่ในเมืองใหญ่ ไม่ใช่การกระตุ้นเศรษฐกิจไปถึงระดับฐานราก
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบปัญหาความไม่ไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อรัฐบาล เพราะการลงทะเบียนมีการเก็บข้อมูลจากประชาชน ที่มีการสแกนใบหน้า จึงตั้งข้อสังเกตมาตรการนี้ออกมาเพื่อเก็บข้อมูลแบบยิงนัดเดียวได้นกหลายตัวหรือไม่ และข้อมูลที่เก็บไปปลอดภัยหรือไม่ หรือจะเอาไปทำอะไร ดังนั้นมาตรการนี้ถึงจะเป็นมาตรการระยะสั้นที่ดูดี แต่ยังไม่เพียงพอต่อการสร้างความเชื่อมั่นในภาพรวมเศรษฐกิจ และเชื่อว่าจะไม่ทำให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
มองว่ารัฐบาลพยายามสร้างความนิยมกับประชาชนเพราะรัฐบาลอยู่ในสภาวะที่สั่นคลอนอย่างมากในเรื่องความนิยมที่ประชาชนมีต่อรัฐบาล เห็นได้จากการเฟซบุ๊คไลฟ์สดของนายกรัฐมนตรีที่มีคนเข้ามาคนกดโกรธจำนวนมาก ซึ่งแสดงความรู้สึกของประชาชนได้เป็นอย่างดี ดังนั้นมาตรการนี้ไม่ได้ออกมาสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ แต่เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาล น.ส.พรรณิการ์ กล่าว