หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เช็กลิสต์ จะรู้ได้อย่างไรว่าเรา “ติดหวาน” อยู่หรือเปล่า

โพสท์โดย Ciphatha

รู้ได้อย่างไรว่าติดหวาน

  1. อยากรับประทานขนมหวาน รวมถึงผลไม้รสหวาน ผลไม้แห้งและผลไม้แช่อิ่มบ่อย ๆ
  2. หากไม่ได้รับประทานของหวานจะรู้สึกไม่มีแรง เหนื่อย หงุดหงิด
  3. หิวบ่อย หรือมักนึกถึงอาหารอยู่เสมอ แม้จะเพิ่งรับประทานเสร็จ
  4. หลังอาหารทุกมื้อต้องตามด้วยของหวาน ผลไม้หวาน น้ำอัดลม หรือน้ำหวาน
  5. มีของหวานติดบ้านเป็นประจำ
  6. เติมน้ำตาลในอาหารคาวเกือบทุกจาน
  7. ดื่มน้ำอัดลม น้ำหวาน ชา กาแฟรสชาติหวาน แทนน้ำเปล่าตลอดทั้งวัน

 

เลิกหวาน เลี่ยงโรค

  1. รับประทานของหวานแต่พอดี หรือเพียงชิ้นเล็ก ๆ
  2. เลือกผลไม้ไม่หวานจัดแทนขนมหรือผลไม้รสหวาน เช่น ชมพู่ ฝรั่ง เป็นต้น
  3. งดเติมน้ำตาลลงในอาหาร เครื่องดื่ม หรือขนม โดยอาจเริ่มต้นจากลดปริมาณลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดจึงไม่ต้องเติมอีกเลย
  4. ดื่มน้ำเปล่า โดยไม่ปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ เนื่องจากจะทำให้รู้สึกหิวและเพิ่มความอยากของหวานมากขึ้น
  5. รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวกล้อง และถั่วเปลือกแข็ง เพื่อช่วยบรรเทาความอยากของหวาน
  6. เลิกตุนขนมไว้ในบ้าน รวมถึงควรอ่านฉลากโภชนาการ เพื่อดูปริมาณน้ำตาล

 

คนไทยติดหวาน
รายงานจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายแห่งประเทศไทย พบว่าอัตราการบริโภคน้ำตาลของคนไทยได้เพิ่มขึ้นจนถึงปัจจุบัน เฉลี่ยมากถึง 20-26 ช้อนชาต่อคนต่อวัน ซึ่งองค์การอนามัยโลก แนะนำให้รับประทานน้ำตาลเพียงแค่วันละ 6 ช้อนชา (24 กรัม) เทียบง่ายๆ โดยน้ำตาล 4 กรัม เท่ากับ 1 ช้อนชา จะเห็นได้ว่าคนไทยบริโภคน้ำตาลเกินจากปริมาณที่แนะนำหลายเท่าตัว โดยน้ำตาลอาจแฝงมาในหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะขนมไทยชนิดต่างๆ เนื่องจากขนมหวานไทยมีวิธีปรุงและตักแบ่งขายโดยไม่มีบรรจุภัณฑ์มาตรฐานที่ระบุคุณค่าอาหารและปริมาณน้ำตาลไว้ให้เห็นชัดเจน

 ตัวอย่างปริมาณน้ำตาลในขนมแต่ละชนิด

ชื่อขนม ปริมาณ น้ำหนัก(กรัม) ปริมาณน้ำตาล (กรัม)
ขนมเปียกปูน 1 ชิ้น 50 10
ข้าวต้มมัดไส้กล้วย 1 ชิ้น 70 10.5
ข้าวเหนียวสังขยา 1 ห่อ 100 19
ข้าวเหนียวหน้าปลาแห้ง 1 ห่อ 100 22
ขนมทองหยอด 1 ลูก 9 5.1
ขนมเม็ดขนุน 1 เม็ด 8 3
ขนมฝอยทอง 1 แพ 32 12.8

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก นพ. จิรทีปต์ ขวัญแก้ว แพทย์ชำนาญการด้านอายุรศาสตร์โรคต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิสม รพ. สมิติเวช ศรีนครินทร์

โพสท์โดย: cipatha
อ้างอิงจาก: https://pluto134340.com/beauty/5163/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Ciphatha's profile


โพสท์โดย: Ciphatha
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: น้องสาวคนเล็ก
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เพื่อนเจ้าสาวจูบเจ้าบ่าวกลางเวที..งานนี้ช็อกกันทั้งงานเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568งานสบาย เงินดี ไม่เหนื่อย พระปลอมโดน พญานาคแผลงฤทธิ์เภสัชกรเผย!..อาหารเสริมวิตามิน 3 ชนิดที่คุณควรหยุดกิน!เด็ก12 พ่อแม่พามาจัดงานวันเกิด พร้อมน้อง6 ขวบ แต่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้น้องต้องสูญเสียพ่อแม่ น้องออกมาโพสว่า ”ไปไม่ลาเลยน่ะพ่อแม่ ไปสบายแล้วน่ะจากไปไม่มีวันกลับมาช่างสักลาย มืออาชีพ แต่ผลงานลายเส้นเหมือนเด็กอนุบาลไม่ตรงปก ขู่ทำร้ายร่างกาย ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ ฝีมือ กากเจ้าของร้านขายเนื้อหมา ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าตๅยใน 3 วันมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคร้ายที่มากับเมนูอร่อยเคล็ดลับ บำรุงผิวหน้าหนาว แก้ปัญหา “ผิวแตก” ดูแลผิวให้ชุ่มชื้นตลอดวันหนุ่มคลั่งการ์ตูนชินจัง ลงทุนสร้างบ้านเหมือนเป๊ะ!!มนต์เสน่ห์แห่งเกาะบอร์ดอร์ย: ความงดงามแห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมในหมู่เกาะแฟโรอาหาร 7 ชนิดที่คนท้องเสียไม่ควรกิน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สาวรับเก็บอึหมา รายได้ไม่ธรรมดาปีละ 8.5 ล้าน..ลูกค้าเยอะจนต้องขยายกิจการเด็ก12 พ่อแม่พามาจัดงานวันเกิด พร้อมน้อง6 ขวบ แต่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้น้องต้องสูญเสียพ่อแม่ น้องออกมาโพสว่า ”ไปไม่ลาเลยน่ะพ่อแม่ ไปสบายแล้วน่ะจากไปไม่มีวันกลับมาToxic Relationshipหมอไวท์" ชี้ 1 ราศี ชีวิตพลิกโฉมปี 2568 ดวงเด่น เงินทอง-งานใหญ่สุดปัง!"
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ผักที่มีแคลเซียมมากกว่านม 4 เท่า! ค้นพบแหล่งแคลเซียมธรรมชาติที่ขายดีตามตลาดแต่ยังน้อยคนรู้จักเหล็กในของแตนกระดาษ: อาวุธอันทรงพลังในการป้องกันตัวเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการขับรถเลนซ้าย!!ความขี้เกียจ มันอยู่ในกระแสเลือด
ตั้งกระทู้ใหม่