สุขาชาย ฝันร้ายของกะเทย
สุขาชาย ฝันร้ายของกะเทย /ชลิตา เขียน / ชิษณุพงศ์ นิธิวนา เรียบเรียง
‘ห้องน้ำ’ ‘ส้วม’ ‘สุขา’
สถานที่นี้ สำหรับผู้หญิง ก็อาจจะเป๋นที่เติมแป้ง เติมลิปสติก ส่วนผู้ชาย บางทีก็เป็นที่ใช้สูบบุหรี่
แต่ใครจะไปรู้ สถานที่ระบายความทุกข์แห่งนี้ มันจะสร้างทุกข์ให้กับกะเทย
ฝันร้ายที่มาในรูปแบบของสิ่งก่อสร้าง ผู้เขียนเชื่อว่า กว่า 80% ของกะเทย ต้องเคยมีความทรงจำแย่ๆ กับห้องน้ำชาย ซึ่งส่วนตัวเอง ก็มีเหตุการณ์ที่จำไม่ลืม
ย้อนไปเมื่อยังเป็นกะเทยหัวโปกมัธยม มั่นใจในตัวเอง (ค่อนไปทางมั่นหน้า) บวกเป็นคนเฮฮา ตลกเอิ๊กอ๊าก บางครั้งก็ปากจัด จึงเป็นที่รู้จักในหมู่นักเรียน มีทั้งคนรัก มีทั้งคนเกลียด
คนที่จะเกลียดกะเทยส่วนใหญ่ มักจะเป็นพวกผู้ชาย แต่มองย้อนกลับไป กะเทยก็ไม่โทษพวกผู้ชายหรอก คงเพราะด้วยปัจจัยความ Ignorance เอย การอยากถูกยอมรับจากหมู่เพื่อนเอย ปัจจัยเหล่านี้ มักบีบให้ผู้ชายแสดงพฤติกรรมประหลาดๆ ต่อพวกกะเทย
และ สถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในการแกล้งกะเทย คือ ห้องน้ำ
วันหนึ่ง กะเทย “ป้าลี่ขู้โทรมา (ปวดขี้)” ในคาบวิชาภาษาฝรั่งเศส กะเทยจึงต้องขออนุญาตออกไปเข้าห้องน้ำ เพราะว่า “ป้าลี่ขู้มารอหน้าประตูแล้ว (ปวดขึ้หนักมาก)”
กะเทยก็วิ่งแบบหนีตายไปที่ห้องน้ำในเวลาไม่ถึง10วินาที แบบที่ยูเซน โบลต์วิ่ง 100 เมตรในการแข่งขันโอลิมปิค ยังงงว่ากะเทยทำได้ไง
ด้วยความรีบที่กลัวว่าขี้จะแตก ก็ไม่ทันได้สังเกตุว่าห้องน้ำชาย ตอนนั้นมีใครอยู่บ้าง
ซึ่งเหมือนฟ้าประทานหรือนรกเป็นใจก็ไม่ทราบ พวกผู้ชายที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับกะเทยมานาน ดันมาใช้ห้องน้ำช่วงนั้นพอดี เวลานั้นกะเทยก็ไม่สนอะไรทั้งสิ้นแล้วจดจ่อและเบ่งพลังเต็มที่
ในระหว่างที่กำลังทำความสะอาดจุ๋มจิ๋ม กะเทยก็รู้สึกแปลกๆ ทำไมห้องมันจอแจ แล้วทำไมรู้สึกเหมือนคนมาอออยู่หน้าประตูห้องน้ำที่เราใช้อยู่เต็มไปหมด
ซักพักก็มีเสียงปิดประตูห้องน้ำจากห้องข้างๆ ทั้งข้างซ้ายและข้างขวา
เอาล่ะค่ะกะเทยลางไม่ดีละ…
สิ้นเสียงคิดปุ๊บ! ก็มีน้ำสาดมาจากห้องข้างซ้ายของเรา สาดแบบเล่นสงกรานต์สีลม สาดแบบลืมหูลืมตา สาดจนเรานั้นเปียกถึงกางเกงใน พอเงยหน้าไปดู ก็เห็นเป็นกล้องโทรศัพท์จากห้องทางฝั่งขวามือกำลังอัดคลิปวิดีโอเราอยู่
วินาทีนั้นคือโกรธมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ จะออกไปข้างนอกก็อายเลยนั่งร้องไห้ในห้องน้ำ อนาถใจมาก ทำไมชีวิตกะเทยมันอาภัพจังเลยวะ
ก็นั่งตัวเปียกอยู่อย่างนั้นประมาณ 10 นาที จนคิดว่าน่าจะปลอดภัยจึงค่อยๆแง้มประตูออกมา ลับๆล่อๆมองซ้ายมองขวาประหนึ่งเป็นอาชญากรกลัวคนเห็น พอได้โอกาสจึงวิ่งออกจากห้องน้ำแบบเร็วที่สุด (เร็วกว่าตอนที่วิ่งมาเข้าอีก)
แต่จุดหมายไม่ใช่ห้องเรียน แต่เป็นสนามหญ้าของโรงเรียน
กะเทยคิดอย่างเดียวว่า ฉันต้องตัวแห้งเข้าห้องเรียนเท่านั้น เพื่อไม่ให้ทุกคนสงสัย แต่กะเทยไม่ได้พึงระลึกเลยว่า ตอนนั้นเป็นเวลาบ่ายสองแก่ๆ ซึ่งแดดร้อนฉิบหาย แต่เอาวะทนเอา สรุปหมดคาบฝรั่งเศส กะเทยก็ตัวยังไม่แห้ง แล้วต้องไปเรียนคาบต่อไปอีก เอาไงดี
สุดท้าย ต้องขึ้นไปเอาของที่ห้องเรียนตามระเบียบ แต่ดีที่เพื่อนเก็บของออกจากห้องเรียนมาให้ เพื่อนก็ถามว่าหายไปไหนมา เราก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เพื่อนก็แนะนำให้เราเอาเรื่องพวกผู้ชายกลุ่มนั้น
ด้วยจิตใต้สำนึกความเป็นคนดี ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด คิดว่าถ้าล้างแค้นมันคงไม่จบไม่สิ้นแน่ งั้นหยุดที่เราที่กว่า ปล่อยให้ความลับนี้มันตายไปกับกะเทย จนทำให้กะเทยเป็นคนเลิ่กลั่กเวลาต้องเข้าห้องน้ำประตูห้องน้ำยกสูง หรือ ห้องน้ำที่มีกำแพงกั้นระหว่างห้องเตี้ยๆ
เอาจริงๆแล้ว สิ่งที่กะเทยต้องการสื่อในบทความนี้ คงไม่ใช่ประเด็นการถ่ายหนักถ่ายเบา แต่ตัวกะเทยเองกำลังมองไปถึงปัญหาใหญ่กว่านั้น นั่นคือ ปัญหาการข่มเห่งรังแกกัน หรือ Bully
จากงานวิจัยหลายๆชิ้น ส่วนใหญ่แล้วจุดเริ่มต้นของการรังแกมักเกิดขึ้นในโรงเรียน และก็มักจะเกิดขึ้นที่ห้องน้ำอีกด้วย
ดังนั้นช่วยกันเถอะค่ะ เป็นกระบอกเสียง บอกเขา เตือนเขา ให้ความรู้เขา เขาไม่รู้หรอกว่าค่ะว่าความสนุกชั่วครู่มันสร้างตราบาปชั่วชีวิตไว้กับใครบ้าง
อย่าทำให้สถานที่ “ปลดทุกข์” ต้องกลายเป็นสถานที่ “สร้างทุกข์” เลย