อาบน้ำถึงบ้าน!!ยายวัย 96 ปี ไม่เคยอาบน้ำมา 4 ปี อาสาอยากช่วยอาบน้ำให้ เพื่อยายจะอยู่ให้ถึง 100 ปี!
แต่ก็มีใครบางคนไม่สามารถอาบน้ำให้กับตัวเองได้ ดังนั้นการบริการ "ไปอาบน้ำถึงบ้าน" จึงกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นในทุกวันนี้
การอาบน้ำ เป็นสิ่งที่ไม่สะดวกสำหรับคนพิการหลายคน ซึ่งบางคนทำได้แค่เช็ดตัวให้กับตัวเองเท่านั้น แต่มันจะไม่สะอาดหมดจดเหมือนอาบน้ำอย่างแน่นอน ปล่อยไว้นานๆ สิ่งสกปรกก็จะสะสมเรื่อยๆ จนมีกลิ่นตัว บางคนถึงกับมีกลิ่นเหม็นเต็มห้องจนคนข้างๆไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ จนส่งผลทำให้คนพิการเริ่มรู้สึกเสียใจและหมดหวัง อย่างคุณยายวัย 96 ปีคนนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ซินหัว เจ้าหน้าที่การให้บริการช่วยอาบน้ำถึงบ้านกล่าวว่า "กลุ่มคนที่เราให้บริการไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีนัก ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพัง คนพิการหรือคนที่ป่วยในระยะยาว เราก็ยินดีให้บริการ"
มีคุณยายวัย 96 ปีคนหนึ่ง เธอเป็นคนพิการ ไม่สามารถเดินได้ เธอไม่เคยอาบน้ำมานาน 4 ปี
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ไปที่บ้านของคุณยายเป็นครั้งแรก พอเปิดประตูบ้านก็ได้กลิ่นเหม็นทันที ซินหัวเล่าว่า "เมื่อเปิดประตูเข้าไป เราเห็นยายนั่งอยู่ในมุมคนเดียว เธอจ้องมองเราอย่างเงียบๆ ไม่ยอมพูดกับเรา" หลังจากพยายามคุยกับเธอตั้งนาน เธอจึงยอมเปิดใจและพูดว่า
"คุณไม่กลัวฉันตัวเหม็นหรือ" พอได้ยินคุณยายพูดคำนี้ ซินหัวก็รู้สึกเศร้าและสงสารคุณยายขึ้นมาทันที จึงรีบตอบกลับไปว่า "เรามาช่วยอาบน้ำให้ยายแล้วไง เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จก็ไม่เหม็นแล้ว" คุณยายพยักหน้าเบาๆ และก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
สำหรับคนพิการหลายคน การดำเนินชีวิตประจำวันของพวกเขาเป็นอะไรที่ยากมากๆ ระยะทางจากเก้าอี้ไปถึงห้องน้ำมันก็เป็นเรื่องที่ยากสำหรับคุณยาย บ่อยครั้งขยับตัวไปไม่ถึงห้องน้ำ ก็ฉี่ออกมาซะก่อน สุดท้ายก็ต้องกลับไปนั่งบนเก้าอี้ต่อ และที่เจ็บใจมากที่สุดคือ มีอยู่ครั้งหนึ่ง คุณยายได้เรียกรถแท็กซี่เพื่อไปหาหมอ แต่คนขับรถแท็กซี่กลับโบกมือและปฏิเสธว่า "คุณยายตัวเหม็นมาก อย่าขึ้นรถผมเลยดีกว่า"
ตั้งแต่นั้นมา คุณยายก็ไม่ยอมออกจากบ้านไปไหนอีกเลย เมื่อพูดถึงครั้งแรกที่ไปช่วยอาบน้ำให้คุณยาย ซินหัวกล่าวว่า "ตอนแรกคุณยายดูรู้สึกกังวลมากๆ" แต่หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผิวหน้าของคุณยายก็กลับมาขาวสะอาดเหมือนเดิม เธอเลยบอกกับคุณยายอย่างดีใจว่า "ผิวหน้าของยายขาวมาก" คุณยายฟังแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "ใช่ ยายไม่ได้ล้างหน้าแบบนี้มานานแล้ว"
หลังจากครั้งที่สองที่ได้ไปอาบน้ำให้คุณยาย อยู่ๆ เธอก็ถามขึ้นมาว่า "ครั้งต่อไปจะมาอีกเมื่อไหร่นะ" ถึงแม้ว่าคุณยายจะไม่ได้พูดคำยกย่องใดๆ แต่จากประโยคนี้ดูออกได้เลยว่า คุณยายไว้ใจและชอบใจการบริการของทุกคน ซินหัวกล่าวว่า "เมื่อได้ยินประโยคนี้แล้ว ฉันรู้สึกหายเหนื่อยไปทันทีเลย เพราะว่าสิ่งที่เราทำได้รับการยอมรับจากคุณยายแล้ว" เมื่อครั้งที่สี่ที่ได้ไปอาบน้ำให้คุณยาย คุณยายรู้สึกดีใจจนถึงขั้นร้องเพลงให้ทุกคนฟัง จนคนข้างๆบอกว่า ไม่เคยเห็นเธอดีใจแบบนี้มานานแล้ว
.
.
เหล่าเจ้าหน้าที่เอาใจใส่บริการทุกคน ไม่ว่าจะเป็นวิธีการหรือขั้นตอนการช่วยอาบน้ำ ต่างให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ และให้ความเคารพต่อทุกคนที่ใช้บริการ ซึ่งการบริการแบบนี้สร้างขึ้นมาโดยมูลนิธิแห่งหนึ่ง ซึ่งมีมานานถึง 10 ปีแล้ว กลุ่มเป้าหมายการให้บริการจะเป็นผู้สูงอายุที่เป็นคนพิการ และไม่สามารถจัดการกับชีวิตประจำวันของตัวเองได้ ประธานของมูลนิธินี้ยังเคยเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อเรียนรู้วิธีการอาบน้ำให้คนพิการมาแล้ว
.
ความจริงแล้วงานแบบนี้ก็เหนื่อยเหมือนกันนะ แล้วยังโดนหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า "งานดีๆ มีตั้งมากมาย ทำไมถึงเลือกทำงานแบบนี้หล่ะ" เจ้าหน้าที่อีกคนได้เล่าให้ฟังว่า เธอเคยอาบน้ำให้คุณปู่ที่ป่วยหนักเป็นครั้งสุดท้าย แม้ว่าคุณปู่จะพูดไม่ได้ แต่เขามองเธอด้วยน้ำตาและได้จับมือของเธอไว้อย่างแน่นก่อนที่เธอจะเดินทางกลับ เหมือนกำลังจะขอบคุณสิ่งที่เธอทำ หลังจากนั้นไม่กี่วันเธอก็ได้รับข่าวว่าคุณปู่เสียชีวิตแล้ว
.
เธอกล่าวว่า "ฉันรู้สึกเสียใจมาก แต่ก็ยังดีที่ได้ช่วยอาบน้ำให้เขาก่อนที่เขาจะจากไป" งานของพวกเขาถึงแม้ว่าจะไม่ได้ยิ่งใหญ่มาก แต่อย่างน้อยยังได้ช่วยทำให้ผู้สูงอายุบางคนสะอาดและสบายตัวมากขึ้น เพียงแค่นี้ก็รู้สึกมีความสุขมากแล้ว
สังคมเรามีคนชรามากขึ้นทุกวัน รัฐบาลควรให้ความสนใจกับปัญหานี้ และควรส่งเสริมการให้บริการดังกล่าวให้มากขึ้น เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถอยู่อย่างมีสุขได้ในช่วงบั้นปลายชีวิต
ชมคลิป..