ข้าวเหนียวนึ่งถุงละ 5 ไม่มีแล้ว หลังข้าวกระสอบราคาพุ่งไม่หยุด
ยุคนี้อะไรๆก็ราคาแพงไปเสียหมด ก่อนหน้านั้นก็มีข่าวส้มตำครกละ400 และล่าสุด ข้าวเหนียวปรับขึ้นราคาจากที่เคยซื้อถุงละ 5 บ.ต่อไปนี้ไม่มีแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ชาวเชียงใหม่และชาวภาคเหนือที่บริโภคข้าวนึ่ง หรือข้าวเหนียวนึ่งเป็นอาหารหลักมากกว่าข้าวสวย ต้องประสบปัญหาอย่างหนักหลังพบว่า ช่วงเพียง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาข้าวเหนียวนึ่งพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัวจากที่เคยจำหน่ายกิโกรัมละ 20-25 บาทตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 40-50 บ.แล้ว ตามตลาดสดหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นในตัวเมืองเชียงใหม่หรือตามตลาดชุมชน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ราคาข้าวเหนียวนึ่งที่ตลาดประตูเชียงใหม่ ยังมีราคาสูงสุดที่กิโลกรัมละ 50 จากที่เคยขาย 35
ข้าวเหนียวราคาปรับสูงขึ้น
ขั้นต่ำ 10 บาท
ข้าวเหนียว 5 บาทไม่มีอีกแล้ว
ส่วนที่ตลาดชุมชนท่าเดื่อ ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นตลาดชุมชนที่ขยับออกมาจากตัวเมือง พบว่ามีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นเช่นกันจากกิโลกรัมละ 30 บ. เป็นกิโลกรัมละ 40 บ. โดยมีการขึ้นป้ายเพิ่มราคามาสองครั้งแล้วในรอบสัปดาห์ และยังมีแนวโน้มว่าอาจจะต้องขยับราคาเพิ่มสูงขึ้นอีก นอกจากนี้แล้วยังต้องปรับราคาขายขั้นต่ำอยู่ที่ 10 บ. จากที่ 5 บ.ก็สามารถขายได้พอกินสำหรับ 1 มื้อ แต่ตอนนี้ไม่สามารถจำหน่ายในราคา 5 บ.ได้แล้วเพราะนอกจากจะได้น้อยแล้วยังต้องแบกภาระเรื่องของค่าถุง ค่าน้ำ ค่าแก๊สสำหรับนึ่งจึงต้องขอขยับราคาขายขั้นต่ำขึ้นมาที่ 10 บ.
นางบัว ศรีวิชัย แม่ค้า ข้าวนึ่งร้านใบบัว ตลาดชุมชนท่าเดื่อเปิดเผยว่า ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมราคาข้าวของยี่ปั๊วเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2 สัปดาห์ ข้าวเหนียวสันป่าตองจากกระสอบ 45 กิโลกรัมจำหน่ายกระสอบละ 800 ปรับขึ้นเป็นกระสอบละ 1700 บ.ข้าวเหนียวเขี้ยวงูจากกระสอบละ 1,200 บ.ปรับขึ้นมาเป็น 2,000 บ. ซึ่งเพิ่มขึ้นเท่าตัว จึงต้องมีการขยับราคาขึ้นต่อเนื่องจนวันนี้มาอยู่ที่กิโลกรัมละ 40 บ. และราคายังไม่นิ่งอาจจะเพิ่มสูงขึ้นไปอยู่ที่ 50 บ.ได้หากราคาข้าวสารข้าวเหนียวยังไม่ลดลง แม้จะสงสารลูกค้าก็ต้องจำยอม
ข้าวเหนียวแพง
ขายขั้นต่ำ10บ.
ลูกค้าบอกว่า เลือกที่จะกินข้าวนึ่ง เนื่องจากเป็นอาหารหลัก และเหมาะสำหรับอาหารพื้นเมืองของชาวเหนือ โดยข้าวเหนียวนึ่งส่วนใหญ่นิยมใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูเนื่องจากจะมีความหอมเหนียวนุ่ม ปั้นแล้วไม่ติดมือ ไม่เละเเฉะจึงจะแพงกว่าข้าวเหนียวสันป่าตองที่ค่อนข้างจะนึ่งยากเเฉะง่าย
ทั้งนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็วอนให้ภาครัฐเข้ามาควคุมคุมราคาข้าวเหนียวอย่างเร่งด่วนเนื่องจากกระทบโดยตรงกับปากท้องของชาวบ้าน เงินประชารัฐแม้จะได้มาก็คงไม่พอแบกภาระค่าอาหารอย่างข้าวเหนียวที่ต้องกินกันทุกวัน บางคนจากที่เคยซื้อ 5 บ. กินได้ 1-2 มื้อมาวันนี้ต้องซื้อ 10 บ.สำหรับกินคนเดียว และอาจจะไม่อิ่มด้วย ครั้นจะนึ่งเองสำหรับครอบครัวเล็กๆ ก็ยากเนื่องจากการนึ่งต้องมีขั้นตอนใช้เวลา และนึ่งทีละมากๆ ถึงจะคุ้มค่าแก๊ส ทางออกหลักจึงเลือกที่จะซื้อข้าวเหนียวนึ่งเป็นกิโลมากกว่านึ่งเอง
แพงกว่าเดิม
จากการปรับราคาข้าวเหนียวขึ้นเพราะประสบปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นตั้งแต่กระบวนการปลูก ส่งผลให้ได้รับผลกระทบจนถึงผู้บริโภคอย่างเราๆในยุคที่ข้าวยากหมากแพง