เหล่ากษัตริย์ผู้สังหารลูกตัวเอง
แม้เหล่ากษัตริย์โดยส่วนใหญ่มักจะได้อยากได้พระโอรสเพื่อสืบทอดราชบัลลังก์ แต่ก็มีกษัตริย์อีกหลายพระองค์ที่สังหารทายาทของตัวเองเพื่อยึดตำแหน่งกษัตริย์ไว้กับตัว แม้จะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองก็ตาม
1. ซาร์อีวานที่ 4 แห่งรัสเซีย
ซาร์อีวานที่ 4 แห่งรัสเซีย หรือที่รู้จักกันในนาม'อีวานผู้เหี้ยมโหด' มีพระโอรสที่ชื่ออีวาน อีวาโนวิช ซึ่งเกิดกับพระมเหสีพระองค์แรกที่ชื่ออนาสตาเซีย โรมานอฟนา ซาร์อีวานที่ 4 หลงใหลในวรรณคดีและดนตรี และยังชอบทรมานสัตว์เล็ก ๆ ในขณะที่ยังทรงพระเยาว์อีกด้วย
ซาร์อีวานมีพระมเหสีถึง 8 พระองค์ และพระมเหสีแต่ละคนก็มักจะเสียชีวิตอย่างแปลกประหลาดทั้งถูกฆาตกรรม หรือไม่ก็ถูกส่งไปอาศรมนางชี เรื่องร้ายเกิดขึ้นเมื่อพระองค์ทุบตีพระมเหสีที่กำลังตั้งพระครรภ์เนื่องจากสวมเสื้อผ้าที่พระองค์ไม่ทรงโปรด จนทำให้แท้งลูก นอกจากนี้อีวาน อีวาโนวิช มกุฏราชกุมารที่พยายามห้ามปรามพระองค์ก็ยังถูกทุบตีที่หัวด้วยคฑาเหล็กจนสิ้นพระชนม์อีกด้วย
2. พระเจ้าเฮโรดมหาราช
ไบเบิ้ลของชาวคริสเตียนได้วาดภาพพระเจ้าเฮโรดมหาราชเอาไว้ในด้านมืดและกล่าวโทษพระองค์ว่าเป็น"ผู้สังหารผู้บริสุทธิ์" เพราะในฐานะราชาแห่งจูเดีย พระเจ้าเฮโรดได้สั่งให้สังหารเด็กชายที่มีอายุ 2 ปีหรือต่ำกว่านั้นในหมู่บ้านเบธเลเฮมจนหมด เพราะมีคำทำนายเอาไว้ในพระวรสารนักบุญแมทธิว ในพันธสัญญาใหม่ว่าพระองค์จะถูกยึดราชบัลลังก์โดยเด็กเหล่านั้น
นอกจากการสังหารบุตรของผู้อื่นแล้ว พระองค์ยังสังหารพระโอรสของพระองค์เองที่ชื่ออเล็กซานเดอร์และอาริสโทบูลัส ด้วยการรัดคอเนื่องจากหวาดกลัวที่จะถูกต่อต้าน
3. จักรพรรดินีไอรีน
ในวันที่ 14 มกราคม 771 พระนางไอรีนทรงมีพระประสูติกาลพระโอรสที่ชื่อคอนสแตนตินที่ 6 ก่อนที่จะเป็นจักรพรรดินีพระองค์แรกที่ได้ปกครองจักรวรรดิไบแซนไทน์ พระนางไอรีนกลายเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระโอรสเมื่อพระองค์ได้สิทธิ์ในการสืบราชบัลลังก์และเมื่อคอนสแตนตินที่ 6ไม่ได้รับความชื่นชอบในกองทัพมากนัก ในไม่ช้าพระองค์ก็ถูกหักหลังโดยพระมารดาของพระองค์เอง
พระนางไอรีนทำให้คอนสแตนตินตาบอดและถูกคุมขังในปี 797 พระองค์ทำการกบฏด้วยพระองค์เองและในที่สุดก็สังหารพระโอรสของพระองค์ ก่อนจะสถาปนาพระองค์เป็นผู้ปกครองอาณาจักรแต่เพียงผู้เดียวในฐานะจักรพรรดินี ด้วยความทะเยอทะยานของพระองค์ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถขัดขวางหนทางสู่อำนาจของพระองค์ได้
4. จักรพรรดิคอนสตันไทน์มหาราช
จักรพรรดิคอนสตันไทน์มหาราชหรือ คอนสตันไทน์ที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมัน ได้ทำการเปลี่ยนแปลงจักรวรรดิโรมันให้มานับถือศาสนาคริสต์ ยกเลิกการทารุณกรรมต่อคริสต์ศาสนิกชนและยกเลิกการบูชาเทพเจ้าโรมัน นอกจากนี้พระองค์ยังลงนามในพระราชกฤษฎีกาแห่งมิลาน ซึ่งกล่าวว่าคริสต์ศาสนิกชนควรมีอิสระในการฝึกศรัทธาตามที่พวกเขาพอใจอีกด้วย
จักรพรรดิคอนสตันไทน์มีพระโอรสนามว่าคริสพุส คริสพุสเป็นที่รักของเหล่าทหารและเป็นผู้นำปฏิบัติการทางทหารที่ได้รับชัยชนะจากแฟรงค์และอลัมมานี พระองค์ได้รับการศึกษาจากนักเขียนชาวคริสเตียน และแต่งงานกับหญิงสาวที่ชื่อเฮเลน่า ซึ่งนำพาบุตรชายมาให้แก่พระองค์
จักรพรรดิคอนสตันไทน์ทรงพึงพอใจในตัวพระโอรสเป็นอย่างมาก แต่เมื่อพระมเหสีพระองค์ที่ 2 ของพระองค์กล่าวหาว่า คริสพุสทำการเกี้ยวพาราสีพระองค์ จักรพรรดิคอนสตันไทน์ก็สังหารคริสพุสเพราะความโกรธเกรี้ยว แต่ภายในหลังพระองค์ก็พบว่าคำกล่าวหานั้นเป็นเรื่องโกหก พระองค์จึงจับพระมเหสีกดน้ำจนสิ้นพระชนม์
5. จักรพรรดิปีเตอร์ที่ 1 แห่งรัสเซีย
เป้าหมายของจักรพรรดิปีเตอร์ที่ 1 คือการทำให้รัสเซียเป็นประเทศมหาอำนาจและทำให้ประเทศมีความทันสมัยมากขึ้น ทรงส่งเสริมให้มีการศึกษาทางโลกและโรงเรียนทางโลกจำนวนมากก็ถูกเปิดในช่วงรัชสมัยของพระองค์ แต่ยูโดเซีย พระชายาของพระองค์เป็นนักอนุรักษ์นิยมที่ไม่ได้รับการศึกษาและไม่ชอบชาวต่างชาติ โดยปกติแล้วยูโดเซียไม่เห็นด้วยกับการปฏิรูปของพระองค์ และยังแอบมีชู้รักอีกด้วย ส่วนจักรพรรดิปีเตอร์ก็พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมแขนของผู้หญิงที่ไม่ใช่พระชายาของพระองค์เช่นเดียวกัน
อะเลคเซย์พระราชบุตรของพระองค์ก็มีความคิดเหมือนพระราชมารดา จักรพรรดิปีเตอร์ที่ 1ไม่ได้ใช้เวลาร่วมกับพระราชบุตรมากนักเนื่องจากพระองค์มีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนักกับยูโดเซีย อะเลคเซย์ก็มองว่าพระราชบิดาเป็นภัยสำหรับพระองค์เช่นกัน นอกจากนี้การเอาใจออกห่างของอะเลคเซย์ไปยังออสเตรีย ทำให้รัฐบาลรัสเซียเกิดความอื้อฉาว จักรพรรดิปีเตอร์ที่ 1จึง ทรมานและประหารชีวิตอะเลคเซย์ในที่สุด
Moodymuay