พระแว่นทอง 2พันปี ของเมียนม่า VS พระใส่แว่นดำ 200ปีของไทย
สร้างโดยกษัตริย์ จากการที่ตัวเองเริ่มสายตาไม่ดี เลยมีคนแนะให้ทำแว่นทองคำใส่ให้พระพุทธรูป แล้วตัวเองจะสายตาดีขึ้น
ตามตำนานพระพุทธรูปองค์นี้สร้างโดยกษัตริย์ Duttabaung ต้นราชวงศ์ Tharekhitaya ในเขตเมืองฉ่วยต่องส์ ภายหลังพระองค์ตามองไม่เห็น โหรประจำพระองค์บอกให้สร้างแว่นตาถวายแด่พระพุทธรูปจึงเป็นที่มาของพระแว่นทองคำ หรือ Shwe Myet Man , วิหารด้านข้างมีพระทันใจ เป็นพระยืนองค์เล็กๆหลังพระประธาน ชาวบ้านนิยมไปขอพรแด่องค์พระ แต่ต้องอธิฐานถึง 3ครั้ง เพื่อบอกให้พระได้ยิน ไม่งั้นไม่สมประสงค์
วัดโกรกกราก สร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2375 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.2423 ตรงกับกาลสมัยของรัชกาลที่ 2 ในปัจจุบันมีเนื้อที่ประมาณ 189 ไร่ 25 ตารางวา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน โดยมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ใส่แว่นตา เนื้อศิลาแลง สมัยสุโขทัย ซึ่งประชาชนทั่วไปเรียกท่านว่า หลวงพ่อปู่
ส่วนสาเหตุที่ต้องใส่แว่นดำนั้น เนื่องจากครั้งหนึ่งได้เกิดโรคตาแดงระบาดไปทั่วบ้านโกรกกราก การแพทย์ยังไม่เจริญ รักษากันตามมีตามเกิดแต่ก็ไม่หาย ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาองค์พระศิลาแลงกันมานาน จึงได้พากันมาบนบานศาลกล่าว ถ้าตาหายเจ็บหายแดง จะนำแผ่นทองมาปิดที่ดวงตาขององค์พระศิลาแลง ผล ปรากฏว่าตาหายแดงกันทั้งหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงได้นำแผ่นทองมาปิดที่ตาขององค์พระศิลาแลงเต็มไปหมด
ครั้นพระครูธรรมสาคร ญาณวฒโน หรือ หลวงปู่กรับ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส มาพบเห็นเข้าจึงหาอุบายเพื่อที่จะไม่ให้ญาติโยมปิดทองที่ดวงตาองค์พระศิลาแลง จึงได้นำแว่นตามาใส่ให้กับองค์พระศิลาแลง หลังจากองค์พระศิลาแลงใส่แว่นตาแล้ว ชาวบ้านโกรกกรากและใกล้เคียง จึงได้นำแว่นตามาถวายแทนการปิดทองที่ดวงตา จนถือปฏิบัติเป็นประเพณีตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และได้ขนานนามท่านว่า “หลวงพ่อปู่” เล่าสืบกันว่าในอดีต บ้านท่าฉลอมและบ้านท่าจีน เป็นเมืองทำมาค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าของชาวจีนโพ้นทะเล สมัยนั้นใช้เรือสำเภาใบสองเสาบรรทุกสินค้าเข้ามา พอเรือแลนผ่านหน้าวัดโกรกกราก ก็จุดประทัดไหว้หลวงพ่อปู่ เพื่อขอพรให้สินค้าขายดี พอสินค้าหมดเดินทางกลับก็จุดประทัดไหว้หลวงพ่อปู่ ขอให้เดินทางกลับถิ่นฐานด้วยความปลอดภัยซึ่งชาวจีนถือปฏิบัติเช่นนี้ตลอดการติดต่อค้าขายทางเรือ